หมาก ขอจบดราม่า! ลั่นผมเป็นคนตรงๆ ขอโทษถ้าพูดไม่เข้าหูใคร

 

เจอกระแสดราม่าไปหนักเลยทีเดียว สำหรับพระเอกหนุ่ม "หมาก ปริญ" เพราะหลังจากที่เจ้าตัวออกมาให้ส้มภาษณ์ถึงภาพถ่ายร่วมเฟรมระหว่าง "มิ้นต์ ชาลิดา" และนางเอกคนสนิท "คิมเบอร์ลี่" แบบแซ่บเวอร์ จนทำให้ชาวเน็ตบางกลุ่มออกอาการไม่ปลื้ม ถึงขนาดตั้งกระทู้วิจารณ์ว่าเจ้าตัวเป็น "ป๋าหมาก" กันแบบรัวๆ

โดยงานนี้นอกจากพระเอกหนุ่มของเราจะออกมาเปิดใจถึงกระแสดราม่าดังกล่าว โดยออกปากชัดเจนว่าอยากจบและไม่ขอพูดถึงบุคคลอื่นแล้วนั้น เจ้าตัวก็ยังบอกอีกด้วยว่า ส่วนตัวเป็นคนที่มีนิสัยพูดตรง ไม่ชอบโกหก ดังนั้นหากมีคำพูดไหนที่ฟังแล้วไม่เข้าหูใครก็ต้องขอโทษด้วย!!

หลายคนตีความว่าเราตั้งใจเหน็บ
"เอาเป็นว่าถ้าพูดถึงคำถามเกี่ยวกับคนอื่นผมขอไม่ตอบเลยดีกว่า เพราะว่าหลายคนก็หลายความคิด ดังนั้นผมขอหยุดตรงนี้ดีกว่า ส่วนเรื่องที่คนจะวิจารณ์ยังไง อันนี้ก็แล้วแต่เลยครับ ถ้าหากเขาสบายใจก็ให้เขาทำไป เพราะผมอยากจบมากๆ"

"ถามว่ารู้สึกยังไงบ้างที่มีคนเรียกว่า ป๋าหมาก เอาจริงๆ เลยนะครับ ผมเป็นคนตรงๆ ผมคิดอะไรผมก็พูดแบบนั้น ไม่มีการโกหกอะไรทั้งสิ้น ฉะนั้นก็แล้วแต่ละกันครับหากจะคิดว่าผมเป็นคนปากเสีย แล้วแต่จะคิดเลย เพราะสำหรับผม ผมคิดว่าการพูดตรงมันดีกว่าการโกหก แต่ผมก็ต้องขอโทษด้วยละกันถ้าสมมุติว่าสิ่งที่ผมพูดมันไม่เข้าหูใคร"

"ฟีดแบคแง่ลบที่เข้ามาในอินสตาแกรม เอ่อ...มีเหมือนกันครับ แต่ก็นับได้ว่าไม่ถึง 5 คน ถามว่ามันบั่นทอนการใช้ชีวิตของผมบ้างหรือเปล่า เอาจริงๆ นะ ไม่เลย เพราะผมก็ใช้ชีวิตของผมปกติ ผมยังคงทำงานและตั้งใจทำงานเต็มที่ ถ้าหากใครจะไม่ชอบก็คือไม่ชอบ แล้วแต่เขาเลยครับเพราะผมไม่สามารถบังคับใครได้ ผมไม่สนใจจริงๆ (ยิ้ม) ก็ยังยืนยันอย่างที่บอกครับ การที่พูดตรง มันดีกว่าการโกหก ส่วนคอมเม้นต์ไม่ดีที่จะมีตามเข้ามาอันนั้นผมก็ไม่สนใจ แค่ ณ ตอนนี้ผมคิดว่าให้มันจบไปเลยน่าจะดีกว่า พื้นที่ใครพื้นที่มัน"

"แต่ถ้าหากจะต้องเจอกัน อันนี้มันก็แล้วแต่โอกาสครับ ถามว่าเลี่ยงได้ไหม ถ้าในชีวิตจริงมันเลี่ยงไม่ได้หรอก แต่เราก็แค่อยู่ทางใครทางมัน ไม่ยุ่งเกี่ยวกันดีกว่า ส่วนถ้าเขากับคิมดีกัน อันนี้จริงๆ ผมก้เคยบอกไปแล้วว่า ภาพนั้นเป็นภาพที่ดีมาก ที่มันเป็นความสัมพันธ์ที่ดีของเขาสองคน ผมไม่ได้ว่าอะไรใครทั้งนั้นครับ หากเขาจะดีกันผมก็ยินดีด้วย"

ครบรอบ 4 ปี ระหว่างเรากับ คิมเบอร์ลี่
"(ยิ้ม) ดีครับผม ของขวัญที่เขาให้ก็ถูกใจมากๆ เลยครับ วันนั้นเราก็ไปทานข้าวด้วยกัน ส่วนเรื่องที่เราไม่ได้ลงรูปหวานๆ ก็เพราะว่าเราทำทุกวันให้มันเป็นวันพิเศษอยู่แล้ว ฉะนั้นวันนั้นมันก็คือวันหนึ่งที่เราได้มากินข้าวร่วมกัน แลกของขวัญกันก็เท่านั้นเอง"

"สำหรับของขวัญที่ซื้อให้เขาก็ ... (หัวเราะ) เป็นเครื่องประดับครับ ไม่รู้เหมือนกัน เชื่อว่าเดี๋ยวคงมีคนสังเกตได้ว่าคืออะไร (ยิ้ม) ถามว่าใช่แหวนไหม เอ่อ...ไม่หรอกครับ แต่ก็เป็นของพิเศษที่ตั้งใจมอบให้เขา และมันก็มีความหมายที่ดีในตัวมันเองอยู่แล้ว"

"จริงๆ 4 ปี ที่ผ่านมา เราก็ต้องขอบคุณหลายๆ ทางนะครับที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ทำให้เราโตขึ้น ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น ขอบคุณทุกๆ คนจริงๆ ครับ ถามว่ายังมีอะไรต้องปรับอีกไหม ก็...เยอะครับ เราก็เหมือนลิ้นกับฟัน มันก็ต้องปรับกันเรื่อยๆ แต่ว่า ณ ตอนนี้ทุกอย่างก็โอเคดีแล้ว (ยิ้ม) ส่วนเรื่องอนาคตจะยังไงก็เอาไว้ถ้ามีโอกาสที่ดีจริงๆ ดีกว่า (หัวเราะ) แต่ตอนนี้เราก็รีบทำงานเก็บเงินไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะพร้อมทุกอย่าง"