วิวาห์วังเวงแจ้งความเป็นคดีแล้ว แม่ฝ่ายเจ้าบ่าว..เปิดใจฟังอีกมุม

ครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวขึ้นโรงพักแจ้งความ หลังถูกเบี้ยวงานวิวาห์ เจ้าบ่าวไม่มีร่วมพิธีตามกำหนด ด้านแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวออกโรงชี้แจง บอกอีกฝ่ายไปแล้วว่าหาเงินสินสอดให้ไม่ทัน

(30 ก.ย.) ความคืบหน้ากรณีงานวิวาห์วังเวง หลังจากเจ้าบ่าวไม่มาปรากฏตัวทำพิธี ทำให้เจ้าสาวและครอบครัวต้องเคว้งคว้าง จำยอมยกเลิกพิธีทั้งหมดลงไป ทั้งที่ลงทุนจัดงานไปกว่า 3 แสนบาท ล่าสุดทางฝ่ายเจ้าสาวได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวต เพื่อดำเนินคดีกับฝ่ายเจ้าบ่าวแล้ว

นายสมพงศ์ และ นางสมหมาย พร้อมกับลูกสาว น้องอ้อ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.บุญส่ง ล่องวารี รองสว.(สอบสวน) สภ.เขาพนม จ.กระบี่ เพื่อที่จะเอาผิดกับทางฝ่ายครอบครัวเจ้าบ่าว หลังเกิดกรณีเบี้ยวงานแต่งขึ้น เพราะนอกจากจะทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวต้องเสียใจแล้ว ยังทำให้ต้องเสียเวลาและเสียเงิน ในการเตรียมงานแต่งไปร่วมกว่า 3 แสนบาท

เบื้องต้นทาง ร.ต.อ.บุญส่ง ได้เชิญตัว นายสมพงศ์และนางสมหมาย รวมทั้ง น้องอ้อ เข้าไปสอบปากคำ ที่ห้องพนักงานสอบสวน โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟังการสอบปากคำแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวยังได้รับการติดต่อจาก นางอำพร อายุ 50 ปี แม่ของฝ่ายเจ้าบ่าว ชาว ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้เปิดเผยว่า ไม่ได้คิดที่จะเบี้ยวงานแต่งงาน ในการเตรียมงานแต่งของฝ่ายเจ้าสาวก็ได้ให้เงินช่วยเหลือเตรียมงานไปราวๆ 20,000 บาทด้วย

แต่สาเหตุที่เจ้าบ่าวไม่ได้ไปเข้าพิธีมงคลสมรสกับเจ้าสาวเมื่อวานนี้นั้น เนื่องจากเงินสินสอดไม่เพียงพอตามที่ฝ่ายเจ้าสาวต้องการ ประกอบกับทางพ่อเจ้าสาวยื่นคำขาดว่าถ้าเงินสินสอดไม่มีก็ไม่ต้องไป โดยได้มีการพูดคุยแจ้งเรื่องนี้กันให้ทรายก่อนแล้ว

ขณะที่ในวันไปสู่ขอนั้น ทางฝ่ายเจ้าสาวเรียกสินสอดมาเป็นเงิน 300,000 บาท ตนจึงบอกว่า ถ้าพร้อมเมื่อไหร่จะแจ้งไปอีกที เพราะการที่จะหาเงินหลักแสน ภายในระยะเวลา 2 เดือนนั้น คงจะยากลำบากมากๆ

นางอำพร ได้กล่าวอีกว่า ในส่วนของการดำเนินการจัดการหาฤกษ์หายามวันแต่งงานนั้น ทางฝ่ายเจ้าสาวจัดการเองทุกอย่าง แต่พอใกล้ถึงวันแต่ง ทางเราหาเงินได้แค่แสนเดียว ทางฝ่ายเจ้าสาวเลยลดลงมาให้เหลือ 150,000 บาท และพ่อเจ้าสาวก็ได้บอกมาเองว่า ถ้าสินสอดไม่ครบ งานยังคงจัดแต่ไม่เอาเจ้าบ่าว ทางเราจึงบอกว่า ถ้าไม่เอาเจ้าบ่าวก็คงไม่ค้องไป

นอกจากนี้ ทางฝ่ายเจ้าสาวไม่เคยบอกว่าจะรอถึงเที่ยงวัน ขณะที่ตนก็ต้องรอญาติที่จะเดินทางมาจากภูเก็ต เพื่อร่วมงานด้วย ทั้งนี้ตนก็อยากให้ลูกชายไปร่วมงานแต่ง เพื่อรักษาหน้าทั้ง 2 ฝ่าย ทางเราเลยเดินทางมา แต่สุดท้ายเขาบอกเองว่าถึงมาก็ไม่ทันแล้ว พ่อแม่เจ้าสาวรอแค่ 10 โมง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยแจ้งมาเลยว่ารอแค่ 10 โมงหรือเที่ยงวัน ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องรอดูว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร