บ่าววี โร่แจ้งตร.ลืมกระเป๋าบนแท็กซี่

นักร้องลูกทุ่งเพื่อชีวิตชื่อดัง บ่าววี ขึ้นโรงพักสน.ปทุมวัน แจ้งความลืมกระเป๋าตังค์บนรถแท็กซี่

(19มี.ค.) พันจ่าอากาศโท วีรยุทธิ์ นานช้า หรือบ่าววี อายุ 35 ปี นักร้องลูกทุ่งเพื่อชีวิตชื่อดัง ค่ายอาร์สยาม ในเครืออาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ กระเป๋าสตางค์หายบนรถแท็กซี่ โดย "บ่าววี" กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้นั่งแท็กซี่จากบ้านซอยคู้บอนไปลงสนามฟุตบอลภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยตนนั่งแท็กซี่ สีเขียวเหลือง จำเลขทะเบียนไม่ได้ จำได้เพียงนามสกุลคนขับว่า"ศรีสวัสดิ์"เป็นคนจ.ยโสธร และพักที่ย่านดอนเมือง โดยตนออกมากับพี่ชาย เพื่อเดินทางไปเตะฟุตบอลการกุศลกับยาว อยุธยา ตลกชื่อดัง ที่สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยตนนั่งข้างหน้าคู่กับคนขับ ส่วนพี่ชายตนนั่งเบาะหลัง กระทั่งขับมาถึงทางด่วน ตนจึงหยิบกระเป๋าสตางค์สีดำออกมา แล้วหยิบเงินยื่นให้คนขับแท็กซี่ 1,000 บาท เพื่อจ่ายค่าทางด่วน แล้วเอากระเป๋าสตางค์วางไว้บนตัก จากนั้นคนขับแท็กซี่ก็ยื่นเงินทอนให้ตน ตนจึงได้กำเงินดังกล่าวไว้

"เมื่อมาถึงสนามตนก็รีบจ่ายเงินค่ารถ 200 กว่าบาท แล้วก็รีบลงจากรถ เพราะใกล้ถึงเวลาเตะฟุตบอลแล้ว โดยที่ลืมไปว่ายังไม่ได้เก็บกระเป๋าสตางค์ จนมารู้อีกทีตอนหลังเลิกเตะฟุตบอลแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าหล่นตอนลงจากแท็กซี่ หรือไม่ก็หล่นบนรถแท็กซี่ดังกล่าว ในกระเป๋าสตางค์ใบดังกล่าวมีเงินไทยอยู่ 40,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่บริษัทอาร์สยามต้นสังกัดจ่ายให้ เพราะตนเพิ่งขึ้นมาจากการแสดงคอนเสิร์ตที่ภาคใต้ หลังจ่ายให้ลูกน้องแล้วก็เหลือติดตัวอยู่เท่านั้น เงินต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าประมาณ 50,000 บาท บัตรราชการทหาร และเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง" นายวีรยุทธิ์ กล่าว

นายวีรยุทธิ์ กล่าวต่อไปว่า จากนั้นตนก็ยังไม่ได้แจ้งความทันที เพราะรออยู่ว่าถ้าหล่นในแท็กซี่เขาคงนำมาคืน ปกติตนนั่งรถทีมงานทุกครั้ง แต่วันนั้นทุกคนเพิ่งขับรถมาจากใต้กัน เขาเหนื่อยๆ ตนเลยนั่งรถมาเอง หลังจากนั้นตนจึงให้พี่ชายโทรไปแจ้งที่ จส.100 กับ ร่วมด้วยช่วยกัน ให้ช่วยติดตามให้ ซึ่งตนเสียดายเอกสารที่มีทั้งบัตรข้าราชการทหาร บัตรประชาชน บัตรนักศึกษารามคำแหง เอกสารอีกหลายอย่าง ส่วนเงินตนไม่เสียดาย อยากได้เอกสารมากกว่า กระทั่งวานนี้ (18 มี.ค.) คนขับแท็กซี่คันดังกล่าว ก็โทรศัพท์แจ้งว่า ไม่มีกระเป๋าสตางค์หล่นอยู่ในรถ และไม่มีใครมารับช่วงขับต่อจากตน เนื่องจากรถเป็นของตน ไม่ใช่รถเช่า แต่ก็เงียบหายไป

พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า จะลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วเรียกคนขับแท็กซี่คันดังกล่าว มาสอบปากคำ ส่วนเรื่องกระเป๋าสตางค์หากมีใครเก็บไปก็ให้นำมาคืนได้ที่ตน ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตนจะเป็นคนรับประสานเรื่องดังกล่าวเอง และยืนยันว่าจะไม่จับตัวดำเนินคดีเด็ดขาด ต้องการเพียงแค่ให้นำกระเป๋ามาคืนกับเจ้าของเท่านั้น