จตุพร จวก มาร์ค หนีเกณฑ์ทหาร ไม่จับใบดำ-แดง

นายกฯ โต้เหตุไม่ใช่ยศทหารนำหน้าชื่อเพราะเล่นการเมืองเกรงทำให้เสื่อมเสีย จตุพร โซ้ย มาร์ค ปูนบำเหน็จพธม.ด้วยการแก้กม.ยึดสนามบิน ลดโทษประหารชีวิตเหลือแค่ปรับ 500 บาท อัดหนีเกณฑ์ทหาร เป็นใครไม่ไปจับใบดำ ใบแดง

"จตุพร"ถาม"อภิสิทธิ์"เป็นใคร ทำไมไม่เกณฑ์ทหาร

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวในการการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีประวัติพิสดาร โดยสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หลังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร(ส.ส.) แล้ว 3 เดือน ทั้งที่กฎหมายระบุว่าบุคลลเป็นส.ส. ต้องเป็นสมาชิกพรรคก่อน

นอกจากนี้ นายจตุพร กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ยังได้หนีการเกณฑ์ทหาร โดยไม่เข้ารับการตรวจเลือกตั้งแต่ปี 2530 - 2536 จนกระทั่งอายุครบ 29 ปี ไม่ทราบว่า มีผู้ใหญ่ที่สนิทกับอดีตผู้นำคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(รสช.) คนหนึ่ง อาจแนะนำให้นายอภิสิทธิ์ใช้ช่องนี้ ขอรับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย สอนระดับชั้น ม.1 แต่ปรากฎว่าการการที่พลเรือนชายไทย จะเข้ารับราชการในโรงเรียนนายร้อย จะต้องแสดงหลักฐานสำคัญทางการทหาร แต่นายอภิสิทธิ์ไปขอใบสำคัญทางการทหารจากสัสดีใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานเท็จ นายอภิสิทธิ์ จึงไม่มีสิทธิ์เข้ารับราชการ

"ผมยังไปจับเลย ขนาดเป็นครูดอยลงมา ลุ้นจะตาย เพราะเรารู้เราเป็นดี1 ประเภท 1 กะเทยยังไปจับเลย เป็นหน้าที่ของชายไทยในการรับใช้ชาติ แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นใคร จึงไม่ได้ไปใช้สิทธิ์จับใบดำใบแดง" ส.ส.พรรคเพื่อไทยกล่าว

"ทุกคนที่เป็นนายกฯ ที่มียศ เขาจะใช้ยศ และจะพูดถึงยศด้วยความภูมิใจ แต่มีท่านคนเดียว สิ่งที่บอกเบื้องลึกของท่าน เพราะการใช้ สด.9 ออกเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการแสดง สด.43 เป็นการหลีกเลี่ยงแผลในใจ ท่านจึงไม่ใช้ยศว่าที่ร.ต." นายจตุพร กล่าว

อ้างเล่นการเมืองจึงไม่อยากใช้ยศทหารให้เสื่อมเสีย

เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นกล่าวชี้แจงหลังจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) กรณีถูกอภิปรายเหตุไม่ใช้ยศ"ร้อยตรี"แม้จะใช้ได้รับพระราชทานยศแล้ว ว่า แม้ผู้อภิปรายคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่คิดว่าเป็นอะไรที่สะกิดใจ ข้องใจ ซึ่งจุดนี้ทำให้ตนเสียหาย โดยเฉพาะการกล่าวหาว่าพาดพิงสถาบัน ทั้งนี้ เมื่อปี 2517 เมื่อสมัยที่ พล.อ. ครวญ สุทธานินทร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น มีการระบุว่าหากการใช้ยศทหาร โดยที่ไม่ได้ทำหน้าที่ทหาร แล้วไปกระทำความเสื่อมเสีย จะทำให้สถาบันวงการทหารเสื่อมเสียได้

"จึงคิดว่าเมื่อตัดสินใจมาเล่นการเมืองแล้ว ตรงจุดนี้ย่อมมีความขัดแย้ง และมีการโจมตีกล่าวหากันมากมาย ดังนั้น หากจะใช้ยศทหารในการทำหน้าที่ตรงนี้ก็จะทำให้ทหารเสื่อมเสียได้ เช่นเดียวกับคนที่ใช้ยศตำรวจ ถ้าไปทำความชั่วก็จะทำให้วงการตำรวจเสื่อมเสียเช่นกัน ดังนั้น ผมจึงมีเจตนาที่ไม่ใช่ยศทหาร"

"จตุพร"จวก"มาร์ค"อุ้มพธม.ลดโทษประหารเหลือปรับ500

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวในการการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ปูนบำเหน็จกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยการแก้กฎหมายยึดสนามบิน โดยลดโทษการยึดสนามบินสุวรรณภูมิจากโทษประหารชีวิต ให้เหลือเพียงเสียค่าปรับ 500 บาท ถึง 10,000 บาท ทั้งที่ผลกระทบการยึดสนามบินที่ตามมาเสียหายหลายหมื่นล้านบาท กรณีนี้ตนจึงไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี

"เหลิม"ซัด"มาร์ค"รู้"กษิต"ตกเป็นผู้ต้องหายังดึงร่วมครม.

เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 19 มีนาคม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวในการประชุมสภาญัติอภิปรายไม่ใช้วางใจว่า พรรคเพื่อไทยไม่สามารถไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจากทราบรายงานผลการการสอบสวนของ สภ.ราชาเทวะ เป็นอย่างดีว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตกเป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายสากล จากกรณีเหตุการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ แต่นายกฯ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินคดีแถมยัง เข้าร่วมรัฐมนตรีและร่วมประชุมกับผู้ต้องหาทุกวันอังคาร

พร้อมกันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้ถามนายอภิสิทธิ์ ว่า เหตุใดถึงไม่ใช้ยศนำหน้าชื่อตัวเอง ทั้งๆที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศทหารสัญญาบัตร จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วอย่างนี้จะถือว่า จงรักภักดีสถาบัน ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมักอ้างหาความชอบธรรมหรือไม่

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังยกคำกล่าวอ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุ นายอภิสิทธิ์ และนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นเด็ก 2 คนจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างไร พร้อมพร้อมอ้างนโยบายการแจกจ่ายเงินประกันตน 2,000 บาท นำไปแจกคน 9.2 แสน แต่กลับไปขึ้นภาษีสรรพสามิตร 63 ล้านคน

"ประชา"ลั่นให้เวลา"กษิต"ลาออกก่อนบ่ายสอง วันนี้

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาเต็มที่ โดยจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของนายกษิต ว่าที่ผ่านมาทำอะไรมาบ้างในอดีต และมั่นใจว่าหลังจากเวลา 14.00 น.วันนี้ ทุกคนคงจะตัดสินใจได้ว่าสมควรแล้วหรือไม่ที่จะไม่ไว้วางใจรัฐบาล

"คิดว่าวันนี้ไม่เกินบ่ายสอง คงจะตัดสินใจได้ ถ้าคุณกษิต จะลาออก ก่อนอภิปรายก็ยังทัน และเตรียมข้อมูล ตลอดจนแผนชาร์จ และพจนานุกรมคำศัพท์ต่างๆ ไว้ประกอบการอภิปรายในวันนี้อย่างเต็มที่ รวมถึงเตรียมตะกร้อที่ครอบปากสุนัขไว้หากรัฐบาลคิดจะประท้วงก็จะนำมาจัดการ" ส.ส.พรรคเพื่อไทยกล่าว

"ชวรัตน์"รอดู"สุกิจ"เอื้อหลักฐานแฉงบฯสถ.ผ่านฝ่ายค้าน

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว ก่อนการประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า พร้อมชี้แจง หากถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม้ไว้วางใจในประเด็น การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย ที่พาดพิงไปถึงเรื่องของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ ในพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีการตั้งองค์รักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี มีแต่อาสาสมัครในพรรคที่เขาเลือกกันไว้แล้ว

ส่วนการที่นายสุกิจ เจริญรัตนกุล อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น(สถ.) จะแฉหลักฐานสำคัญในชั้นศาลนั้น เกี่ยวกับเบื้องหลังการใช้งบประมาณในกรมฯ นั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า ก็ไม่มีเรียกนายสุกิจมาคุยอะไรกันอีก ให้ไปแฉในศาล เพราะนี่เป็นเวทีสภาฯ แต่ไม่มีอะไรต้องหวั่น และไม่ทราบว่า ข้อมูลของนายสุกิจจะตกไปอยู่ในมือของฝ่ายค้านบ้างหรือไม่ ต้องรอฟังฝ่ายค้านอภิปรายก่อนแล้วค่อยเตรียม

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านแฉว่า รัฐบาลมีการทุ่มเงิน 6-7 หลักเพื่อซื้อมือโหวตหนุนคะแนนไว้วางใจ รมว.มหาดไทย หัวเราะพร้อมกล่าวว่า "เงินเดือนผมยังไม่ถึงขนาดนั้นเลย" เมื่อถามว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินได้กำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายชวรัตน์ ตอบว่า "ไม่มี ผมเป็นตัวของผมเอง คุณเนวินจะมากำชับอะไรผมได้ ผมต้องกำชับคุณเนวิน เพราะผมเป็นหัวหน้าพรรค"

"กษิต"ยิ้มขอฟังฝ่ายค้านถล่ม เตรียมความจริงมาหักล้าง

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการจัดทำข้อเสนอประเทศไทยเพื่อผลักดันเป็นข้อกำหนดสหประชาชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำ และมาตรการโดยไม่ใช้การคุมขังสำหรับผู้กระทำผิดหญิง ที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. โดยยืนยันต่อคณะทูตานุทูตที่เข้าร่วมงานกว่า 39 ประเทศ ว่า ไทยจะให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขังหญิง และจะผลักดันในเวทีโลกด้วย

จากนั้น นายกษิต ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มถึงการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ของฝ่ายค้าน ระหว่างวันที่ 19-20 มี.ค. ว่า ขอฟังฝ่ายค้านก่อนและขอขอบคุณในความห่วงใยของประชาชนที่มีให้ ยืนยันมั่นใจข้อมูลที่เตรียมไว้ชี้แจงทุกข้อกล่าวหา เพราะเป็นข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จะหาเวลาลงพื้นที่เตรียมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 กับประเทศคู่เจรจา 6 ประเทศแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุวันที่ชัดเจนได้

"ชาญชัย"นัดก๊ก12เคลียร์โหวต ชี้มติพผ.ต้องหนุนรบ.

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) กล่าวเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ถึงกระแสข่าวกลุ่ม 12 เตรียมงดออกเสียงให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากรับไม่ได้กับพฤติกรรมการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า คงต้องพูดคุยกับ ส.ส. กลุ่ม 12 ก่อนการลงมติ ซึ่งมั่นใจว่า จะเคลียร์กันได้ เพราะ พผ. เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ต้องปฏิบัติตามเหตุผลของรัฐบาล แม้การลงมติจะเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ แต่มติพรรคคือต้องสนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาล

ปธ.วิปค้านปัดดีเอสไอ-พท.รับลูกปมเงินบริจาคปชป.

นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส. อยุธยา พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ถึงกรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำสำนวนการสอบสวนการใช้เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 23 ล้านบาท อย่างผิดวัตถุประสงค์ ไปยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ซึ่งสอดรับกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ว่า นั่นเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ตนคิดว่า องค์กรที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือกกต. น่าจะนำข้อมูลของพท. ไปประกอบการทำหน้าที่ ซึ่งการทำหน้าที่ของดีเอสไอกับพท. ไม่ได้เป็นจังหวะที่สอดคล้องกัน ดูจะช้าไปด้วยซ้ำ

เมื่อถามว่า ข้อมูลของดีเอสไอกับ พท. เป็นข้อมูลเดียวกันหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นเรื่อง ส่วนหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พท. จะส่งข้อมูลให้ดีเอสไอเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องดูก่อน แต่ข้อมูลที่ฝ่ายค้านอภิปรายเป็นข้อมูลจริง ถูกต้อง และเป็นประโยชน์กับทางราชการ เมื่อถามว่า มั่นใจว่าข้อมูลเรื่องเงินบริจาคนอกระบบที่ฝ่ายค้านเปิดเผยกลางสภา จะนำไปสู่การยุบพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า "ความรู้สึกมันต่างกัน"

"สาทิตย์"เปรียบ"เหลิม"โปรโมเตอร์มวยข่มขวัญคู่ต่อสู้

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ที่มีขึ้นเป็นวันแรก ที่รัฐสภา ว่า ไม่รู้สึกเป็นกังวลหรือตื่นเต้นอะไร เพราะที่ผ่านมาได้มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี ก็คงจะต้องมีการชี้แจงกันไปตามปกติ ส่วนสีสันการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในครั้งนี้คงจะมีไม่น้อย เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ที่ระบุก่อนหน้านี้ว่า จะใช้เวลาในการอภิปราย 2 ชั่วโมง และมีหมัดเด็ดน็อครัฐบาลได้ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้รู้สึกหนักใจต่อกรณีดังกล่าว เพราะเข้าใจว่า ร.ต.อ.เฉลิม คงเหมือนกับโปรโมเตอร์มวย ที่จะต้องคุยข่มขวัญคู่ต่อสู้ก่อนขึ้นชกทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ทุกอย่างก็คงเป็นไปได้อย่างราบรื่น และรัฐบาลจะสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้ทั้งหมด

"ประชา"หิ้วพจนานุกรม-ตะกร้อครอบปากสุนัขเข้าสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเปิดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายังรัฐสภา พร้อมหอบหิ้วหลักฐานเอกสารสำหรับเป็นข้อมูลประกอบการอภิรายไม่ไว้วางใจ จำนวนมากเข้าไปในห้องประชุมสภา รวมถึงพจนานุกรมฉบับภาษาไทยมาด้วย โดยระบุว่า เพื่อป้องกันเวลามีปัญหาใช้ศัพท์ภาษาไทยระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และตระกร้อครอบปากสุนัข

ทั้งนี้ นายประชากล่าวสั้น ๆ ว่า ถ้าองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงมากเกินไป จะเอาตระกร้อไปครอบปาก

"ชวน"เชื่อ"มาร์ค-รมต."ใช้ประสบการณ์หักล้างอภิปรายได้

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า ส่วนตัวตนไม่มีความกังวลในการอภิปรายฯ ของฝ่ายค้าน และไม่กังวลกับการชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เนื่องจากเชื่อมั่นว่า ทุกคนมีประสบการณ์ทางการเมือง ดังนั้น นายกฯและรัฐมนตรีทุกคนคงสามารถชี้แจงให้เกิดความชัดเจนในที่ประชุมได้

"กรณ์"ไม่หนักใจ"มิ่งขวัญ"ร่วมวงซักฟอกประเด็นศก.

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเปิดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มี.ค. โดยยืนยันว่า ไม่รู้สึกหนักใจในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ และเชื่อว่า จะสามารถชี้แจงการอภิปรายได้ทุกประเด็น และแม้ตนจะเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ แต่ก็เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมานาน ทั้งยังเห็นว่า เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลจะใช้โอกาสนี้ชี้แจงให้กับประชาชนรับทราบ และเข้าใจปัญหา รวมไปถึงแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลมากขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่รู้สึกหนักใจ แม้ว่านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และเชื่อว่า นายมิ่งขวัญจะไม่นำประเด็นส่วนตัวมาอภิปรายนอกเหนือประเด็นเศรษฐกิจ

"บุญจง"เผย"เนวิน"ให้หนักแน่น ลั่นพร้อมแจงทุกข้อหา

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ก่อนการเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเปิดอภิปรายญัติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้ง 5 คน โดยยอมรับว่า ได้มีการขอคำปรึกษากับ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ถึงการเตรียมตัวตอบข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน ซึ่งนายเนวิน ก็ได้ให้กำลังใจ พร้อมกับแนะนำให้ตนมีความหนักแน่น มั่นใจในตัวเองและให้ตอบคำถามอย่างมั่นคง พร้อมกันนี้จะถือโอกาสใช้เวทีนี้ ประชาสัมพันธ์ผลงานไปในตัว โดยยืนยันว่า นายเนวินไม่ได้มีการจัดเตรียมข้อมูลให้เป็นพิเศษแต่อย่างใด

นายบุญจง กล่าวต่อว่า ส่วนตัวพร้อมชี้แจงในทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา ขณะเดียวกัน ไม่รู้สึกหวั่นไหว หากจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปราย เพราะยังเป็นเรื่องที่ไกลเกินไป และเป็นอำนาจในการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งในส่วนของพรรค ยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้

สำหรับแนวทางการลงมติ หลังฝ่ายค้านอภิปรายเสร็จสิ้น นั้น พรรคภูมิใจไทย จะมีการหารือเพื่อกำหนดทิศทาง ว่าจะให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. หรือจะให้เป็นไปตามมติของพรรค พร้อมกันนี้ไม่หวั่นว่า จะเกิดงูเห่า เพราะเชื่อ ส.ส. ทุกคนมีวิจารณญาณ

นายกฯยิ้มเข้าสภาไม่กลัวหมัดเด็ด-ไม่คิดนำปี๊บคลุมหัว

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงอาคารัฐสภา เมื่อเวลา ประมาณ 08.50 น. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกล่าวว่า ไม่รู้สึกตื่นเต้นในการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา และสามารถชี้แจงได้ ซึ่งไม่เคยคิดจะนำปี๊บมาคลุมหัว ตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย หัวหน้าทีมอภิปรายพรรคเพื่อไทย กล่าวไว้

นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวว่า ไม่กลัวหมัดเด็ดของฝ่ายค้าน เพราะที่ผ่านมาทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด ส่วนพรรคร่วมมีเอกภาพกันดี โดยไม่ทราบว่า กลุ่ม 12 ของพรรคเพื่อแผ่นดินจะงดออกเสียง แต่เห็นว่า กลุ่มดังกล่าวมีสถานะของฝ่ายค้านอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เห็นว่า หากรัฐบาลชี้แจงการทำงานได้ดี หลังการอภิปรายจะทำงานต่อไปได้ ซึ่งการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มีเป็นประจำถือเป็นปกติ และขอให้ทำตามกฎหมาย

"ปู่ชัย"บอกไม่หนักใจ ใครตีรวนก็ปล่อยไปพวกกันทั้งนั้น

นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ถึงความพร้อมในการทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ไม่ได้หนักใจอะไร และมีความพร้อมเต็มที่

เมื่อถามว่า จะสามารถควบคุมการอภิปรายได้ตลอดหรือไม่ นายชัยกล่าว ติดตลกว่า จะควบคุมได้หรือไม่นั้นคงยังไม่แน่นอน หากใครจะตีรวนคงต้องปล่อยไป เพราะพวกกันเองทั้งนั้น

นับถอยหลังเวลาเปิดศึกอภิปราย จนท.ตรึงกำลังรอบสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา เมื่อเวลา 09.00 น. ว่า เริ่มมีเจ้าหน้าที่ และรัฐมนตรี ของแต่ละกระทรวงที่ถูกอภิปราย ทยอยเดินทางมายังอาคารรัฐสภา เพื่อนำเอกสารหลักฐานรวมไปถึงสิ่งของต่างๆ มาเตรียมการรองรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น.

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย จะเป็นผู้นำอภิปรายอันดับแรก หลังเปิดสภาฯ คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยประเด็นที่ส.ส.ฝ่ายค้านเตรียมอภิปราย และเชื่อว่าจะนำไปสู่การยุบพรรคประชาธิปัตย์ได้นั้น คือ เงินสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ จากบริษัทเอกชน 258 ล้านบาท และการชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และทำเนียบรัฐบาล ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกับพรรคประชาธิปัตย์

สำหรับในการอภิปรายได้มีการจัดสรรเวลาให้กับฝ่ายค้าน 20 ชั่วโมง ส่วนการรักษาความปลอดภัยในอาคารรัฐสภา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยตามปกติทั้งภายใน และนอก และยังไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมปิดล้อม

"สุนัย"ข่มซักฟอกคอรัปชั่น อัดหลายกระทรวงทุจริตรีบเร่ง

นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 19 มี.ค. โดยระบุ ฝ่ายค้านจะพูดในหลายประเด็นสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในครั้งนี้ โดยเฉพาะปัญหาการทุจริต คอรัปชั่น โดยจากการตรวจสอบพบว่า หลายกระทรวงฯ มีการทุจริตกันอย่างรีบเร่ง ส่วนใหญ่มีการคอรัปชั่นกันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ไม่เฉพาะกระทรวงมหาดไทยเท่านั้นที่จะมีการอภิปรายเกี่ยวกับการทุจริต แต่ยังมีกระทรวงฯอื่นๆ อีก ด้วยอาจจะทราบดีว่า อายุของรัฐบาลชุดนี้อาจจะอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้น จึงต้องมีการรีบเร่งแสวงหาผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด จึงอยากให้ประชาชนได้ติดตามการอภิปรายในครั้งนี้

โฆษกปชป.ขอฝ่ายค้านชกตามกติกา-ไม่ถึงขั้นปรับครม.

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ทีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ถึงการเตรียมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านในวันเดียวกันนี้ ว่า หวังว่าการอภิปรายครั้งนี้ คงเป็นไปตามที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ​โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุจะเป็นหมัดเด็ดน็อกรัฐบาล เนื่องจาก หลักฐานแน่น และจะเป็นการชกตามกติกา ข้อเท็จจริง ขณะที่ รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายมีหน้าที่ชี้แจงข้อกล่าวหา หากเป็นไปตามกติกา ไม่พาดพิงบุคคลที่ 3 ที่ไม่มีโอกาสเข้ามาชี้แจง ประชาชนจะตัดสินใจเองว่า เกิดประโยชน์หรือไม่

ส่วนกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทให้พรรคประชาธิปัตย์ ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่าต้องพาดพิงบริษัท ทีพีไอ นั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอร้องอย่าจับแพะชนแกะ เพราะแหล่งเงินของพรรคประชาธิปัตย์ มาจาก เงินบริจาค เงินสนับสนุน และเงินจากกองทุนสนับสนุนพรรคการเมืองของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เท่านั้น ส่วนประเด็นที่ระบุว่า จะมีการใช้เงิน 7-8 หลัก ซื้อ ส.ส. ให้โหวตรัฐมนตรีก็เป็นเพียงการสร้างความสับสน ใส่ร้ายการเมืองแบบเก่าๆ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันจะประท้วงให้น้อยสุดและพร้อมชี้แจงทุกข้อกล่าวหา

เมื่อถามว่า ผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจออกมาอย่างไร รัฐบาลจึงจะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โฆษกพรรคประชาธิปัตย์​กล่าวว่า จากญัตติ ไม่มีเหตุผล ที่การอภิปราย ไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง แต่อย่างใด ทั้งนี้ รัฐบาลหวังว่า ฝ่ายค้านจะเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อาทิ เรื่องราคาสินค้า พืชผลทางการเกษตร ปัญหาการว่างงงาน เลิกจ้างหนี้สินประชาชน การแบ่งเบาภาระผู้สูงอายุ เพื่อรัฐบาลจะได้นำไปแก้ไข อย่างไรก็ตามก็ต้องรอดูการอภิปรายก่อน