แม่ค้า พ่อค้า คลองเตยรับศพเพื่อนแห่ไปรัฐสภา
ออกหมายจับ หัวหน้ารปภ.ยิงการ์ดกลุ่มผู้ชุมนุมตลาดคลองเตย ขณะที่มือยิงตำรวจ 191 รปภ.ตลาด บาดเจ็บสาหัส เข้ามอบตัว อ้างไม่รู้เป็นตำรวจ ทำท่าชักปืนจึงต้องยิงใส่ก่อน ขณะที่แกนนำพ่อค้าแม่ค้า ยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อ เสนอนายกฯ หากไม่ได้รับความสนใจ เตรียมแห่ศพสสวดกลางสี่แยก พระราม 4 นายกฯจี้คมนาคมสางปัญหาตลาดคลองเตย
จากเหตุการณ์ มือปืนบุกกราดยิงนายสุขสันต์ สีหาเลิศ อายุ 36 ปี และนายกนก สุขแก้ว อายุ 43 ปี ทั้งคู่ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลาดคลองเตยเสียชีวิตที่บริเวณตลาดไก่ ภายในตลาดคลองเตยเมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 มีนาคม พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผบก.น. 5 เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับตามภาพผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 1 ราย ทราบชื่อเล่นว่า "นายทร" ซึ่งเป็นหัวหน้า รปภ.ตามพยานที่เห็นเหตุการณ์ได้ชี้ภาพยืนยันว่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวผู้ต้องหาเร็วๆนี้
พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดขึ้นพร้อมกัน 2 จุดเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง โดยจุดแรกคือที่ตลาดไก่ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ส่วนจุดที่สองบริเวณ ถนนกลาง ตลาดคลองเตย ซึ่งมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อ ส.ต.ท.จตุรงค์ ถาวรทรัพย์ ตำรวจ 191 ซึ่งเข้ามาทำงานพิเศษเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาดคลองเตย ขณะนี้ได้พักรักษาตัวที่รพ.จุฬาฯ โดยขณะนี้ได้มีผู้ต้องหาเข้ามอบตัวแล้ว 1 คน คือ นายศราวุธ สายประสม อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 7 ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน สำหรับนายทร และนาย ศราวุธ เบื้องต้น ถูกตั้ง 3 ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาต
ทางด้านนายศราวุธ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงวิทยุสื่อสารว่า มีคนของตนถูกทำร้ายจึงได้วิ่งออกมาดู เมื่อเดินมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณถนนสายกลาง พบ ส.ต.ท. จตุรงค์ ซึ่งขณะนั้นไม่ได้แต่งเครื่องแบบ เข้ามาร้องทักตนและทำท่าจะชักปืน ซึ่งขณะนั้นตนไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ จึงชักปืนยิงเข้าใส่ ส.ต.ท.จตุรงค์บาดเจ็บ จากนั้นได้วิ่งหลบหนีขึ้นรถแท๊กซี่ ให้พาขับวนในกทม.หลายชั่วโมง ก่อนจะตัดสินใจเข้ามอบตัวกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อ 01.00 น.ที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่จุดเกิดเหตุมีผุ้เสียชีวิต 2 คนตนไม่ได้เกี่ยวข้อง และไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิง
ส่วนบรรยากาศที่ตลาดคลองเตย นายประโยชน์ ซื่อผาสุข แกนนำกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า กล่าวว่า กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าถูกมาตลอด ตั้งแต่การชุมนุมกันมา ถูกรังแก มีเหตุการณ์ที่รุนแรงกับทางพ่อค้าแม่ค้ารวม 9 ครั้ง และครั้งนี้เป็นการกระทำที่อุกอาจที่คนร้ายบุกเข้ามายิง ในตลาด ทางกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าคงจะทนต่อไปไม่ได้ จะมีการนำศพของผู้เสียชีวิตแห่ไปประจาน และยื่นข้อเรียกร้องกับทางนายกรัฐมนตรี 5 ข้อ
ข้อ 1. ให้ยกเลิกสัญญาอัปยศ ซึ่งได้ไปด้วยเลือดเนื้อของประชาชนชาวคลองเตย กทม.ภายใน 7 วัน 2. ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมคนร้ายให้ได้ภายใน 7 วัน 3. ให้ปลดผู้บริหารของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ทั้งชุดภายในกำหนด 7 วันเนื่องจากการกระทำกลุ่มผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งจะดำเนินการโครงการใด ๆ โดยไม่มีการทำประชาพิจารณืสอบถามชาวบ้านผู้เดือดร้อน 4. ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกวาดล้างกลุ่มอิทธิพล ออกไปจากตลาดท่าเรือคลองเตยภายใน 7 วัน และ 5. ให้ผู้บัญชกาารทหารสูงสุด ส่งเจ้าหน้าที่ทหารมาดำเนินการจับกุมทหารนอกแถว ที่นำกำลังมาทำร้ายประชาชนตลาดท่าคลองเตยภายใน 7 วัน
"ข้อเรียกร้องต่างๆ เหล่านี้หากไม่ได้รับการตอบรับ ภายในกำหนด 7 วัน ประชาชนชาวคลองเตย จะนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ออกไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่บริเวณกลางสี่แยก ถ.พระราม 4 จนกว่าจะได้ตามข้อเรียกร้อง " นายประโยชน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า สำหรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ทางกลุ่มผุ้ชุมนุมพ่อค้าและแม่ค้าชาวคลองเตย จะตั้งสวดพระอภิธรรมที่บริเวณเต้นท์ของกลุ่มผุ้ชุมนุม โดยกำหนดสวดทั้งหมด 7 วัน
แม่ค้าพ่อค้าคลองเตยรวมตัวรับศพเพื่อนแห่ไปรัฐสภา
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่19 มี.ค. นางพัชนี สุขแก้ว อายุ 61 ปี มารดา นายกนก สุขแก้ว อายุ 32 ปี และน.ส.ศิริวรรณ สีหาเลิศอายุ 32 ปี น้องสาว นายสุขสันต์ สีหาเลิศ อายุ 36 ปี ผู้เสียชีวิตที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตภายในตลาดคลองเตย เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมทั้งพ่อค้าแม่ค้าในตลาดคลองเตยกว่า 20 เดินทางรับศพผู้เสียชีวิตทั้งสองคน ที่สถาบันนิติเวชวิทยา ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าโศก
นางขนิษฐา บุญเจริญ อายุ 42 ปี แม่ค้าขายหัวสุกรในตลาดคลองเตย กล่าวว่า ครั้งนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่พวกตนถูกคุกคาม ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุรุนแรง จนถึงขั้นมีการปาระเบิดและยิงกันมาแล้ว ซึ่งทุกคนต่างก็หวาดกลัวแต่ก็จำเป็นต้องสู้ โดยที่ผ่านมาพวกตนต้องดูแลความปลอดภัยกันเอง มีการจัดเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง
นางขนิษฐา กล่าวว่า หลังจากนี้กลุ่มผู้ค้าแม่ค้าในตลาดคลองเตยรวมตัวกันประมาณ 1 พันคนเพื่อจะแห่ศพทั้ง 2 คน ไปที่หน้ารัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมาได้ไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล ซึ่งหลังนายอภิสิทธิ์รับเรื่องแล้ว พวกตนจะให้เวลา 7 วัน หลังจากนั้นจะพิจารณาว่าจะเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร
"หลังจากนี้หากไม่มีหน่วยงานไหนยื่นมือเข้าช่วยเหลืออีก พวกตนก็จะไม่ทนเป็นฝ่ายถูกกระทำอีกต่อไปแล้ว จะใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟัน หากพวกเขาใช้ปืนได้ พวกเราก็จะใช้ปืนตอบโต้บ้าง ที่ผ่านมาเราถูกทั้งระเบิด ทั้งข่มขู่มามากแล้ว โดยที่ไม่มีใครมาสนใจ ตัวฉันเองตอนนี้ก็ถูกตามล่าเพราะมาเป็นแกนนำให้กับชาวบ้าน ระเบิดทุกครั้งฉันก็อยู่แต่ดวงยังไม่ถึงฆาตเท่านั้น"นางขนิษฐา กล่าวและว่ากลุ่มพ่อค้าแม่ค้าทุกคนยืนยันจะต่อสู้จนถึงที่สุด
ด้านนางพัชนี กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนขยันขันแข็ง หนักเอาเบาสู้ ทำงานทุกอย่าง และถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญหาเลี้ยงครอบครัว โดยจะรับจ้างเข็นของส่งในตลาดคลองเตย ได้เงินค่าจ้างวันละ 200-300 บาท ก็เอามาให้ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับบุตรชาย ให้ตำรวจจับกุมคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
"ก่อนออกจากบ้านลูกชายก็บอกว่าหนูจะไปทำงาน ก็บอกลูกว่าให้ดูแลตัวเองให้ดี ตอนแรกมีคนมาบอกว่าลูกโดนยิงก็ไม่เชื่อแต่พอมาดูข่าวจึงรู้ว่าเป็รเรื่องจริง ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิตกันแบบนี้ ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ถูกเลย"นางพัชรีกล่าว
นายกฯจี้คมนาคมสางปัญหาตลาดคลองเตย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ดูแลการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้รายงานสถานการณ์ให้ทราบว่าความจริงผู้ที่มีปัญหามีจำนวนน้อยลง เพราะสามารถทำความเข้าใจกับผู้ค้าได้แล้ว ซึ่งตนได้เตือนมาตลอดว่าการชุมนุมมีลักษณะของการมีกลุ่มมีอิทธิพลเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ก็ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมติดตามสถานการณ์และรายงานให้ทราบเป็นระยะ
เมื่อถามว่าปัญหาของตลาดคลองเตยมีมานานแล้ว เหตุใดยังปล่อยให้เรื้อรังจนเกิดความรุนแรงเช่นนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ย้ำมา 2-3 ครั้งแล้ว รมว.คมนาคม ก็บอกว่าพยายามเข้าไปแก้ไขอยู่ คิดว่าจะพยายามค่อยๆเข้าไปลดปัญหา แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน เพราะความขัดแย้งค่อนข้างรุนแรง ซึ่งจะต้องมีการเข้าไปสะสางปัญหา เช้าวันนี้( 19 มี.ค.) ตนพยายามติดต่อพูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้
ต่อข้อถามว่าทำไมจึงไม่ปล่อยให้ กทม.เข้าไปสะสางเรื่องดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่จริงแล้ว ปัญหาเริ่มต้นมาจากกในส่วนของการท่าเรือฯ และเป็นเรื่องของสัญญาที่เกี่ยวข้องกับตลาดคลองเตย โดยความขัดแย้งเกิดขึ้นมานานแล้ว
เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ค้าไม่ไว้ใจตำรวจในพื้นที่ จะแก้ปัญหาได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้พยายามบอกแล้วว่าการท่าเรือฯมีความสำคัญมากในการเข้าไปทำความเข้าใจหรือรับฟังปัญหา รวมถึงตัดสินใจในการหาทางออก ต้องมีความโปร่งใส ทั้งนี้ ตนจะกำชับให้ทุกฝ่ายเข้าไปเร่งสะสางปัญหานี้