ทหารพรานดับยกรถ4ชีวิต ป่วนใต้วางบึ้มถังดับเพลิง20กก.ถูกอัดกระเด็นออกนอกรถ คาดอาร์เคเคแก้แค้น
กดระเบิดหนัก20กก.ขณะรถกระบะทหารพรานผ่าน เสียชีวิตยกรถ4ราย คาด อาร์เคเค เอาคืนแกนนำถูกจับ หมอเผยอาการ สุไฮมี หนูน้อยเหยื่อระเบิดเป็นอัมพาตตลอดชีวิต-หายใจเองไม่ได้ วอนผู้ใจบุญช่วยค่าใช้จ่ายอื้อ
กลุ่มแนวร่วมก่อเหตุความไม่สงบใน จ.ปัตตานี วางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 4 นาย โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 มีนาคม ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดร้อยทหารพรานที่ 4403 กรมทหารพรานที่ 44 จำนวน 4 นาย ใช้รถกระบะสี่ประตูเป็นยานพาหนะ กลับจากการตรวจเช็คร่างกายประจำปีที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยขับมาตามถนนสายบ้านโคกวัว-บ้านบือแนลาแล เมื่อมาถึงหมู่ 8 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตตานี คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังเคมีดับเพลิง น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ที่ฝังไว้ใต้ถนน แรงระเบิดทำให้ถนนเกิดหลุมลึกเกือบ 2 เมตร กว้าง 3 เมตร รถกระบะพังเสียหายยับเยิน กระเด็นห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร
ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารพราน 4 นาย ถูกแรงระเบิดอัดกระเด็นตกจากรถเสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย จ.ส.อ.ชัยฤทธิ์ มีแก้ว อายุ 50 ปี ส.ต.สุรพงษ์ จำปา อายุ 21 ปี อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ปรีชา สุวรรณอักษร อายุ 22 ปี และ อส.ทพ.ไกรสิน อินทร์เพชร อายุ 22 ปี
ต่อมา พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.)ปัตตานี พร้อม พ.อ.ปกรณ์ จันทรโชตะ ผบ.ทหารพรานที่ 44 นำกำลังตำรวจ ทหาร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกระจายกำลังปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 1 กิโลเมตร เนื่องจากเชื่อคนร้ายยังคงกบดานในพื้นที่ ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบอาร์เคเคในพื้นที่ ต้องการแก้แค้นและตอบโต้เจ้าหน้าที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นจับกุมแนวร่วมระดับแกนนำหลายรายจึงก่อเหตุสร้างสถานการณ์
ด้านนายกฤษฎา บุญราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นพ.กุลเดช ตชะนภารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา นพ.ประชา ชยาภัม รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ร่วมกันแถลงข่าวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ถึงอาการของ ด.ช.สุไฮมี ดอเลาะ อายุ 9 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2551 โดยถูกสะเก็ดระเบิดกระดูกคอหัก และไขสันหลังฉีกขาด ทำให้เป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงไปถึงเท้า ว่า ด.ช.สุไฮมีได้รับการรักษาถึงปัจจุบันเป็นเวลา 1 ปี กับ 2 วัน สภาพร่างกายดีขึ้น อาการยังคงที่ โดยจะมีความพิการอัมพาตตั้งแต่คอลงไปตลอดชีวิต ไม่สามารถหายใจได้ด้วยตนเอง จะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ วิธีการรักษาที่ดีที่สุดต่อไปคือ การดูแลรักษาตัวที่บ้าน เพื่อให้เด็กได้อยู่กับครอบครัว โรงพยาบาลได้ฝึกให้ญาติใช้อุปกรณ์ทางแพทย์ที่จำเป็น จะมีทีมแพทย์ พยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ และทีมงาน ไปดูแลที่บ้านเป็นระยะๆ ผู้ที่ยังต้องการช่วยเหลือ ด.ช.สุไฮมี ยังสามารถช่วยเหลือได้ที่ บัญชี ดช.สุไฮมี ดอเลาะ ธนาคารกรุงไทย สาขาสิโรรส หมายเลข 932-0-31699-6
นายมะตอเฮ และ นางอังคณา ดอเลาะ พ่อแม่ ด.ช.สุไฮมี กล่าวว่า ขอขอบคุณโรงพยาบาลศูนย์ยะลา หน่วยงานราชการต่างๆ และประชาชนทั้งใน จ.ยะลา และทั่วประเทศ ที่ช่วยเหลือบริจาคเงินให้กับ ด.ช.สุไฮมี อยากจะบอกกับคนที่กำลังหลงผิดในขณะนี้ ให้เลิกกระทำ อยากให้รู้ว่าถ้าเป็นลูกหลานของพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร
นพ.ประชา ชยาภัม รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ กล่าวถึงอาการของ ด.ช.อัสมิง วาเต๊ะ อายุ 9 ขวบ ซึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ด.ช.อัสมิงถูกยิงเข้าที่ท้ายทอย 1 นัด แต่กระสุนแตกภายในออกเป็น 4 ชิ้น ถูกไขสันหลัง ทำให้ไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งร่างกายท่อนล่างเคลื่อนไหวไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีอาการแทรกซ้อน คือมีลมรั่วออกมาในช่องปอด มีอาการปอดบวม มีอาการซึมลงจนกระทั่งไม่รู้สึกตัว ทำให้การรักษายากขึ้นไปกว่าเดิม โรงพยาบาลยังคงมีความพยายามที่จะรักษาชีวิตของ ด.ช.อัสมิง เอาไว้อย่างเต็มความสามารถ ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณในการดูแลค่อนข้างมาก ผู้มีจิตศรัทธา สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือได้ที่ ด.ช.อัสมิง วาเตะ ธนาคารกรุงไทย สาขาสิโรรส หมายเลข 932-0-35588-6