กราดยิงลาสเวกัส รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ยอดตาย 58 ศพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงกลางงานคอนเสิร์ตแห่งหนึ่งใจกลางนครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามเวลาในท้องถิ่น กลางคอนเสิร์ต Route 91 Harvest บริเวณโรงแรม Mandalay Bay Las Vegas ขณะที่นักร้องกำลังเริ่มร้องเพลงอยู่ ปรากฏว่าเกิดเสียงรัวยิงปืนดังออกมา สร้างความสับสนแก่ผู้คนเพราะนึกว่าเป็นเทคนิคพิเศษของโชว์ ก่อนที่การแสดงจะหยุดกะทันหัน และมีเสียงยิงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ผู้คนจึงเริ่มแตกตื่นและวิ่งหนีตาย
รายงานระบุว่า ผู้ก่อเหตุกราดยิงครั้งนี้ เป็นชายผิวขาววัย 64 ปี ชื่อ สตีเฟน แพดด็อก เป็นชาวเนวาด้า เข้าพักที่โรงแรมมัณฑะเลย์เบย์ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนจะลงมือใช้อาวุธปืนกราดยิงจากห้องพักบนชั้นที่ 32 ลงมายังเทศกาลดนตรีกลางแจ้งที่มีผู้ชมกว่า 2 หมื่นคน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 58 คน และบาดเจ็บ 515 คน
หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้วิสามัญฆาตกรรมนายแพดด็อก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบปืนไรเฟิลอยู่ภายในห้อง 19 กระบอก
ต่อมา ตำรวจลาสเวกัสได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายแพดด็อก และพบอาวุธปืนพร้อมกับเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก รวมทั้งสารประกอบระเบิด ส่วนเหตุจูงในการก่อเหตุขณะนี้ ยังคงไม่เป็นที่แน่ชัด โดยตำรวจเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง และไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมใดๆ หรือเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย
น้องชายของนายแพดด็อก เผยความรู้สึกว่า ทุกคนในครอบครัวรู้สึกตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรพี่ชายจึงก่อเหตุ
ด้านกลุ่มไอเอส ออกมากล่าวอ้างผ่านสำนักข่าวอามัค ว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีครั้งนี้ โดยระบุว่า นายแพดด็อกได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทางเอฟบีไอ ยืนยันว่า เหตุดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แถลงที่ทำเนียบขาวว่า เหตุโจมตีดังกล่าวเป็นการกระทำอันชั่วร้ายโดยสิ้นเชิง พร้อมกับกล่าวชื่นชมความพยายามของหน่วยฉุกเฉินที่ปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยชีวิตอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ก็ได้สั่งให้ลดธงครึ่งเสาไปจนถึงเย็นวันศุกร์ และประกาศว่าจะเดินทางไปยังลาสเวกัสในพุธนี้ โดยเหตุดังกล่าวนับเป็นเหตุสังหารหมู่ครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสหรัฐฯ
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ