ผัวเมียร้อง ตร.หลอกเซ็นชื่อรับสารภาพ ผกก.ยันผู้ต้องหาผิดจริง
ผัวเมียชาวอุดรธานี ร้องถูก ตร. หลอกเซ็นชื่อรับสารภาพ เผาหญ้าลามสวนยางพารา ทั้งที่ไม่ได้ทำ ด้าน ผกก.สภ.สุวรรณคูหา เผย มีหลักฐานยืนยันสองสามีภารยาเป็นผู้จุดไฟเผา ขณะที่ สนง.ยุติธรรมจังหวัด รุดช่วยเหลือพร้อมประกันตัว 200,000 บาท
นายนิรันต์ และ นางโสวภา สองสามีภรรยาใน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาในคดีเผาหญ้าแล้วลามไปติดสวน เปิดเผย ผ่านรายการ เป็นเรื่องเป็นข่าว ช่องพีพีทีวี ว่า ถูกตำรวจหลอกให้เซ็นชื่อรับสารภาพ อ้างว่าเซ็นชื่อเป็นพยาน และไม่ให้อ่านเอกสารทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าอ่านทั้งวันก็ไม่หมด และในวันนั้นมีผู้ที่พิมพ์ลายนิ้วมือด้วยกันทั้งหมดอีก 4 ราย แต่กลับไม่ตกเป็นผู้ต้องหาด้วย ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุไฟไหม้นั้น พวกตนอยู่ที่บ้าน และยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้จุดไฟ
ด้าน พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ ผู้กำกับสถานีภูธร สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ระบุว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุเกิดเหตุไฟไหม้สวนยาง ตำรวจร้อยเวรได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนในฐานะพยานก่อน หลังจากพบว่าใครเป็นคนจุดไฟ จึงได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งที่สอง เพื่อมาแจ้งข้อกล่าวหาในฐานะผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การปฏิเสธว่าไม่ได้จุด
โดยในขั้นตอนการสอบสวน ตำรวจจะต้องอ่านเอกสารให้ทราบหรือผู้ต้องอ่านเอกสารด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่จะหลอกให้เซ็นชื่อรับสารภาพ เพราะจะทราบกฎหมายกันทุกคน ส่วนการพิมพ์ลายนิ้วจะมีเพียงสามีภารยาที่เป็นผู้ต้องดังกล่าว 2 ราย เท่านั้น ไม่มีบุคคลอื่น และขณะนี้ได้ดำเนินการสั่งฟ้องไปแล้ว พร้อมมีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในสำนวนคดีที่ยืนยันได้ว่า สามีภารยาทั้ง 2 ราย เป็นผู้จุดไฟเผาไร่อ้อย และมั่นใจว่าการสอบสวนถูกต้องตามกฎหมาย
ขณะที่ นายทวีศักดิ์ สารทรัพย์ ยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ทำช่วยเหลือประกันตัว และทนายความที่เชี่ยวชาญด้านคดีนี้ โดยจะนำกองทุนยุติธรรมมาประกันตัวรายละ 100,000 บาท และค่าจ้างทนายสูงสุด 50,000 บาท
ทั้งนี้พยานหลักฐานในกระบวนการทั้งหมดของคดีดังกล่าว ยังพบว่ามีช่องโหว่ที่ไม่ชอบมาพากล ในกรณีของนางโสวภา ที่ไปทำอาหารและเลี้ยงบุตรเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นผู้ต้องหาจุดไฟเผา ดังนั้นจึงต้องมีการสอบสวนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุใหม่ทั้งหมด เพื่อนำสืบในชั้นศาลต่อไป