กรณ์ แจงเช็คช่วยชาติไม่เอื้อแบงก์กรุงเทพ
กรณ์ แจงเช็คช่วยชาติไม่เอื้อธนาคารกรุงเทพ ชี้เลือกธนาคารที่ให้ประโยชน์ต่อรัฐสูงสุด ระบุเช็คต้นทุนสูงเพราะออกแบบกันของปลอม ยันตั้งหม่อมเต่านั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติไม่เกี่ยว โบ้ยกก.สรรหารัฐบาลของรัฐบาลเดิมตั้ง
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 20 มี.ค. นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง(รมว.คลัง) ชี้แจงในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เรื่องเช็คช่วยชาติที่มีการกล่าวหาว่าตนปฏิบัติขัดต่อกฎหมายนั้น เรียนว่าตนไม่ได้ปฏิบัติผิดข้อกฎหมายหรือกติกาใดๆต่อกระทรวง ซึ่งการที่กรมบัญชีกลางได้มีแผนใช้ธนาคารกรุงเทพในการผลิตเช็คช่วยชาตินั้น เนื่องจากได้มีการคัดสรรธนาคารที่ให้ประโยชน์กับรัฐมากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายธนาคารที่ได้ยื่นเงื่อนไขเข้ามาแต่มีข้อจำกัดในเรื่องการผลิตเช็ค
ธนาคารรัฐอย่างธนาคารทหารไทย เสนอมาราคาใบละ 2 บาทเท่ากับธนาคารกรุงเทพฯ แต่มีข้อจำกัดที่ทำได้ 1 ล้านใบจึงต้องใช้ของธนาคารกรุงเทพ หรือธนาคารไทยพานิชย์ก็เสนอมาใบละ 2 บาทแต่ผลิตได้แค่ 3 ล้านฉบับ ส่วนราคาที่ผู้อภิปรายระบุว่าต้นทุน 50 สตางค์ต่อใบ เช็คช่วยชาติต้องมีรายละเอียดออกแบบเช็คธรรมดาไม่ได้ ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย ไม่ให้มีการปลอมเช็ค ทำให้ต้นทุนสูงกว่าปกติ รวมกับค่าธรรมเนียมอำนวยความสะดวกประชาชนให้ขึ้นเงินที่ธนาคารใดก็ได้จึงมีต้นทุนที่สูง อย่างไรก็ตาม งบโครงการนี้ประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท จะโอนไปทางธนาคารกรุงเทพ ในวันที่ 24 -25 มี.ค. ไม่เกิน 1-2 วัน จึงไม่น่าจะทำกำไรได้
นายกรณ์ กล่าวว่า การแต่งตั้ง ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เนื่องจากการดำเนินการของรัฐบาลชุดที่ผ่านมามีปัญหา ซึ่งตนเองเป็นผู้ยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบและได้วินิจฉัยไว้ชัดเจน ทำให้ต้องสรรหาใหม่ อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งม.ร.ว.จัตุมงคล เป็นการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาที่อดีตรัฐบาลโดยนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรมว.คลังเป็นผู้ที่ลงนามแต่งตั้ง เสนอ 6 ชื่อ และธปท.เสนอ 12 ชื่อ รวมแล้ว 18 ชื่อและให้คัดเลือกประธานกันเอง โดยตนเองไม่ยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด