เพื่อไทย จี้ต่อมสำนึก ไส้ศึก ภายในพรรค
สุรพงษ์ เผย เห็นธาตุแท้ไส้ศึกในพรรค 7-8 คน ที่งบออกเสียงไม้ไว้วางใจ 2 รัฐมนตรี ภูมิใจไทย ด้าน อภิวันท์ ระบุ งูเห่า พท.ไม่ขับออก ให้พิจารณาลาออกเอง
(21มี.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายฯครั้งนี้ฝ่ายค้านไม่ได้แพ้ เราทำให้จอมโจรรับสารภาพทั้งกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ยอมรับสารภาพโดยไม่รู้ตัวเรื่อง SMS ซึ่งตรงนี้ชัดเจนว่า รัฐบาลไปเบียดบังผลประโยชน์ เกินกว่าเกณฑ์ที่ ป.ป.ช.กำหนด รวมทั้งกรณีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์กว่า 260 ล้านบาท ที่ถือว่าหลักฐานชัดเจนมาก พรรคประชาธิปัตย์ดิ้นไม่หลุด
"การอภิปรายเรื่องนี้ทำให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคออกอาการในช่วงร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.สรุปการอภิปรายฯ ตรงนี้ถือว่า นายสุเทพ เสียมารยาท เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะตามมารยาทแล้ว ควรปล่อยให้ผู้อภิปรายฯ พูดให้จบก่อน" นายสุรพงษ์ กล่าว
ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผลการลงมติครั้งนี้ทำให้รู้ว่า ใครอยู่ฝ่ายไหน โดยเฉพาะส.ส.กลุ่มหนึ่งในพรรคเพื่อไทย ที่ตัวอยู่เพื่อไทยแต่ใจอยู่พรรคอื่น เมื่อตรวจสอบพบส.ส.พรรคเพื่อไทย 7-8 คน งดออกเสียงลงมติ นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ตรงนี้สะท้อนธาตุแท้ที่ ส.ส.กลุ่มดังกล่าวไปสนับสนุนรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย
"ผมคงไม่ไปเรียกร้องให้พรรคดำเนินการกับส.ส. กลุ่มนี้ เพราะส.ส.ทุกคนควรมีจิตสำนึกตัวเองอยู่พรรคไหน ควรปฏิบัติอย่างไร แต่เชื่อว่าต่อไปพรรคเพื่อไทยจะดูอะไร ๆ มากขึ้น" นายสุรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
ด้านพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เสียงส.ส.เพื่อไทยที่หายไปในการลงมตินั้น ถือว่าไม่เกินเป้าหมาย ที่พรรคได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะมีส.ส.เพื่อไทยเสียงหายไปประมาณ 10 เสียง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เสียงส.ส.หายไป 5 เสียง ทราบแล้วว่าเป็นใครบ้าง แต่มองว่าไม่ใช่ปัญหา หลังทราบผลการลงมติ พรรคคงไม่ประเมินถึงสถานการณ์ที่ส.ส.เพื่อไทยเสียงหาย เพราะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ที่ผ่านมาตนเคยบอกกับพรรคแล้วว่า การล้มรัฐบาลในสภา ไม่เคยเกิดขึ้น แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทย หวังจะเห็นคือ การนำหลักฐาน เอกสารที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.เพื่อไทย ไปยื่นต่อ กกต.ให้ตรวจสอบต่อไปว่า องค์กรอิสระจะทำงานเป็นสองมาตรฐาน หรือบังคับใช้กฎหมายด้วยความเป็นธรรมหรือไม่
เมื่อถามว่า เสียงที่หายไปถือเป็นงูเห่าในพรรคหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่ถือเป็นงูเห่า เพราะส.ส.มีอิสระในการลงคะแนน ไม่สามารถห้ามได้ และที่ผ่านมาพรรคก็ไม่เคยห้าม ตนไม่อยากเป็นกังวลเรื่องเสียงที่หายไป เพราะได้พูดตลอดว่า เป็นพรรคเล็ก แต่มีคุณภาพ แต่ถ้าหวังทำพรรคใหญ่ พรรคจะไม่เติบโต และอยากให้กลับไปดูในคะแนนที่หายไปของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ 9 เสียง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีมาตรการดำเนินการอย่างไรกับ 5 เสียงที่หายไปของส.ส.พรรคเพื่อไทย พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ 5 เสียงที่หายไป ก็ยืนยันว่า ไม่มีการถูกซื้อตัวตามที่มีข่าวออกมา แต่ที่สำคัญมากกว่าคือเสียงรัฐบาลหาย 9 เสียง แสดงให้เห็นว่า ส.ส.พรรครัฐบาลยังปันใจเหมือนส.ส.เพื่อไทย เป็นเรื่องธรรมดา อย่าไปคิดมาก
เมื่อถามว่า หากความเห็นของส.ส.ไม่ตรงกับพรรค จะพิจารณาขับออกจากพรรคหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะถือว่า เป็นอิสระ เพราะถือเป็นมารยาททางการเมืองที่จะไม่ขับออก แต่จะให้พิจารณาลาออกเอง ทั้งนี้สิ่งที่เราต้องคิดคือ ถ้าอยากให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้คะแนนไว้วางใจน้อยกว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆนั้น นายกษิตต้องไปพิจารณาตัวเองว่า จะปรับปรุงการทำงานอย่างไร เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเป็นสุภาพบุรุษของนายกษิตเอง เพราะกรณีนายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ ที่ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจน้อย ในกรณีประสาทเขาพระวิหาร ซึ่งแม้รัฐบาลจะไม่ได้ดำเนินการกับนายนพดล แต่นายนพดลก็พิจารณาตัวเอง ดังนั้นเรื่องนี้นายกษิตต้องไปพิจารณาตัวเองว่าจะตัดสินใจอย่างไร