สาวจุกอก! สั่งกระเป๋าแบรนด์เนม แต่ได้ลายการ์ตูนมาแทน

พิษสั่งของออนไลน์ สาวหอบหลักฐานแจ้งความ หลังสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ราคากว่าครึ่งหมื่น แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ได้รับเป็นกระเป๋าลายการ์ตูนของเด็ก โทรติดต่อกลับไปแม่ค้าก็ไม่ได้

เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (7 ต.ค.) ร.ต.อ.ภพธร ดวงกลาง ร้อยเวร สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งความจาก น.ส.ศิวะพร อายุ 48 ปี หลังโอนเงินจำนวน 6,000 บาทให้กับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ที่ตกลงซื้อกระเป๋าถือสตรีแบรนด์เนม รุ่นสปีดดี้ 30 ที่มีการนำมาโพสต์ขายออนไลน์เว็บไซต์แห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าสินค้าที่ได้รับกลายเป็นกระเป๋าลายการ์ตูน Stitch แทน ไม่ตรงกับที่โฆษณาไว้ จึงได้แจ้งความให้ดำเนินคดีฐานฉ้อโกง

น.ส.ศิวะพร เปิดเผยว่า ตนได้พบเห็นสินค้าดังกล่าวในเว็บไซต์ขายของชื่อดังแห่งหนึ่ง ก่อนจะมีการติดต่อขอซื้อสินค้า พร้อมกับโอนเงินไป สินค้าชิ้นแรกเคยสั่งไป แต่ยังไม่มีการส่งสินค้ามา เมื่อติดต่อกลับไปก็ติดต่อไม่ได้ ขณะที่สินค้าชิ้นที่ 2 ถูกนำมาส่งแต่ก็ไม่ตรงกับสินค้าที่สั่งไป เพราะได้สั่งกระเป๋าแบรนด์เนม แต่กลับได้กระเป๋าลายการ์ตูนมาแทน
ผู้เสียหายยังระบุว่า มูลค่าความเสียหายครั้งนี้ได้โอนเงินไปให้ผู้ขาย 6,000 บาท ซึ่งยังเก็บมีหลักฐานการโอนเงินเอาไว้ รวมทั้งพยายามติดต่อไปหาผู้ขายแล้ว แต่ก็ไม่รับโทรศัพท์ กระทั่งล่าสุดได้รับสินค้าเป็นกระเป๋าลายการ์ตูนมา จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้เบื้องต้นให้ใช้แบบเรียกเก็บเงินปลายทาง เพื่อความสะดวกและปลอดภัย อาจต้องจ่ายเพิ่มอีกนิดหน่อย ถ้าสินค้าที่ให้โอนเงินก่อนถึงจะได้รับสินค้า ต้องระวังว่าเคยซื้อขายสินค้ากันมาก่อนหรือไม่ หรือให้ดูประวัติในคอมเมนท์ว่าบุคคลที่ขายเคยมีปัญหาหรือไม่

สำหรับกลโกงการขายสินค้าออนไลน์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แค่นำภาพสินค้าที่มีราคามาโพสต์ขายเพื่อให้มีการต่อรอง จนผู้ซื้อพอใจและรีบโอนเงินมาให้ ซึ่งคดีนี้ทางผู้ขายได้มีการส่งบิลที่จัดส่งสินค้ามาให้ผู้ซื้อ ทำให้เกิดความวางใจและโอนเงินไปให้ เพราะคิดว่าได้มีการส่งสินค้ามาให้แล้ว แต่ปรากฏว่าสินค้าที่ได้ไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ

โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนประสานไปทางบริษัทที่จัดส่งสินค้าเพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิดตรวจสอบหารูปพรรณคนร้าย อยากฝากเตือนผู้ที่จะซื้อของออนไลน์ให้ตรวจสอบสินค้าให้รอบคอบมากกว่านี้ ควรใจเย็นๆของดีราคาถูกไม่มีแน่นอน ซื้อกันตามตลาดหรือร้านค้าโดยตรงจะปลอดภัยกว่า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมายเลขบัญชีที่มีการโอนเงิน และจะตรวจสอบชื่อเจ้าของบัญชีว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับผู้ที่โพสต์หรือไม่ จากนั้นจะออกหมายเรียกให้เข้าพบและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป