สิ้น หลวงปู่ทิม เกจิ ชานหมาก

ศิษยานุศิษย์อาลัย หลวงปู่ทิม พระเกจิชื่อดังอยุธยาละสังขารอย่างสงบ หลังอาพาธเข้ารักษาที่ร.พ.โรคทรวงอกมานาน แพทย์ระบุติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง ปอดบวม ร่างกายไม่รับตัวยาที่จัดให้ ชีพจรเต้นช้าลง ต้องปั๊มหัวใจขึ้นมาหลายครั้ง สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ มรณภาพเมื่อเวลา 10.55 น. ด้วยอายุ 96 ปี ลูกศิษย์เตรียมเคลื่อนศพออกจากร.พ.วันนี้ ไปตั้งที่วัดพระขาว ชาวบ้านแห่เช่าวัตถุมงคลหลวงปู่แน่นวัด

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูสังวรสมณกิจ หรือหลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต อายุ 96 ปี เจ้าอาวาสวัดพระขาว ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา พระเกจิชื่อดังมรณภาพลงอย่างสงบเมื่อเวลา 10.55 น. ที่ห้องผู้ป่วยหนักโรคหัวใจ เตียง 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลโรคทรวงอก อ.เมือง จ.นนทบุรี ขณะเข้ารักษาอาการป่วย ท่ามกลางความเศร้าโศกของศิษยานุศิษย์ รวมถึงญาติโยมที่ทราบข่าวและเดินทางมากราบร่างของหลวงปู่ทิม

ด้านน.พ.สุขุม กาญจนพิมาย ผอ.โรงพยาบาลโรคทรวงอก แพทย์เจ้าของไข้ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้หลวงปู่ทิมเข้าออกโรงพยาบาลตลอดเวลา ล่าสุดเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโรคทรวงอกตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะแพทย์ตรวจพบว่าหลวงปู่ทิมติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง มีอาการปอดบวม และร่าง กายไม่รับตัวยาที่คณะแพทย์จัดให้ ทำให้ชีพจรเต้นช้าลง จนแพทย์ต้องปั๊มหัวใจขึ้นมาหลายครั้ง แต่ไม่สามารถจะยื้อชีวิตไว้ได้ หลวงปู่ทิมมรณภาพลงอย่างสงบเมื่อเวลา 10.55 น. นับเป็นการสูญเสียพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูปหนึ่งของวงการพระพุทธศาสนา

นายกนกศักดิ์ ธนหิรัญกิจ อายุ 47 ปี ลูกศิษย์ก้นกุฏิที่คอยอยู่ดูแลหลวงปู่ทิมขณะเข้ารับการรักษาโรงพยาบาล กล่าวว่า หลวงปู่เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา จนวันที่ 13 มี.ค. หลวงปู่ออกจากโรงพยาบาลเพื่อเป็นประธานเปิดงานประจำปีของวัดพระขาว จากนั้นวันที่ 14 มี.ค. หลวงปู่ฉันอาหารไม่ได้ และหายใจไม่ออก คณะลูกศิษย์จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโรคทรวงอกอย่างเร่งด่วน เมื่อเวลา 01.00 น. หลวงปู่เกิดอาการหัวใจหยุดเต้น คณะแพทย์จึงปั๊มหัวใจขึ้นมาจนเป็นปกติ กระทั่งเวลา 10.00 น. หัวใจของหลวงปู่เกิดหยุดเต้นอีกครั้ง คณะแพทย์จึงปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ โดยหลวงปู่ละสังขารอย่างสงบเมื่อเวลา 10.55 น.

"สำหรับหลวงปู่ทิมนับว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง จนได้รับขนานนามว่า "เทพเจ้าแห่งบาง บาล" ก่อนหน้านี้หลวงปู่บอกกับบรรดาลูกศิษย์ว่า จะละสังขารเมื่ออายุ 96 ปี และที่อัศจรรย์ที่สุดคือหลวงปู่เกิดวันอาทิตย์ เดือนมี.ค.2456 และวันที่หลวงปู่ละสังขารเป็นวันอาทิตย์ เดือนมี.ค.ซึ่งตรงกับวันและเดือนเกิดของหลวงปู่พอดี" นายกนกศักดิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.45 น. เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเคลื่อนศพของหลวงปู่ทิมไปที่อาคารด้านหลัง เพื่อฉีดยา หลังจากฉีดเสร็จแล้วจึงเคลื่อนศพของหลวงปู่ทิมไปเก็บไว้ที่อาคารปทุมรัตน์ และปิดประตู เนื่องจากเกรงว่าจะมีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมากราบไหว้กันจำนวนมาก และจะเกิดความวุ่นวาย โดยจะเก็บศพหลวงปู่ทิมไว้ที่โรงพยาบาล 1 คืน และในวันที่ 23 มี.ค. เวลา 12.00 น. จะเคลื่อนไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระขาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนบรรยากาศที่วัดพระขาว มีศิษยานุศิษย์ และประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าวการละสังขารของหลวงปู่ทิมเดินทางมาที่วัดเพื่อสอบถามเกี่ยวกับกำหนดการและพิธีสรงน้ำศพตลอดเวลา ขณะที่นายวิทิต ปิ่นนิกร นายอำเภอบางบาล และนายสำเนา เกสรโอสถ นายก อบต.พระขาว ร่วมกับพระภิกษุสงฆ์ สามเณร กรรมการวัดพระขาว ช่วยกันทำความสะอาดศาลาการเปรียญ พร้อมทั้งตกแต่งผูกผ้าสีประดับวัดเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพิธีสรงน้ำศพหลวงปู่ทิม นอกจากนี้ประชาชนแห่เช่าวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม รุ่นครบ 8 รอบของหลวงปู่ด้วย

พระครูสมุห์สุนทร สุนทโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระขาว เปิดเผยว่า ทางวัดปรึกษากับคณะกรรมการวัด อำเภอ และส่วนราชการทุกส่วน โดยจะเคลื่อนศพจากโรงพยาบาลเวลา 12.00 น. วันที่ 23 มี.ค. เมื่อมาถึงวัดแล้วจะให้ประชาชนร่วมแสดงความอาลัยและสรงน้ำศพ

ด้านนายวิทิตกล่าวว่า ในวันที่ 23 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่เคลื่อนศพมาที่วัด เชื่อว่าจะมีประชาชนนับหมื่นคนมาสรงน้ำศพหลวงปู่ จึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บางบาล และ สภ.พระขาว กว่า 100 นายอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เชื่อว่าจะมีบุคคลสำคัญและพระเถระชั้นผู้ใหญ่จำนวนมากมาร่วมพิธี โดยทางอำเภอจะทำหนังสือขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพหลวงปู่ทิม

นายสำเนากล่าวว่า ทันทีที่ทราบข่าวตนซึ่งเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดกับหลวงปู่ รู้สึกขนลุกที่ท่านจากชาวอำเภอบางบาลไป ท่านละสังขารด้วยอายุ 96 ปี ถือว่าท่านจากไปด้วยความสงบ ก่อนหน้านี้เข้าพักรักษาตัวที่สถาบันโรคทรวงอกบ่อยครั้ง จนล่าสุดออกมาที่วัดเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นวันที่มีอายุครบ 96 ปี หรือ 8 รอบ และมีการทำบุญอายุวัฒนะ จากนั้นกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลโรคทรวงอก ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มี.ค. หลวงปู่ทิมกลับมาที่วัดอีกครั้ง เพื่อประกอบพิธีอธิษฐานจิต วัตถุมงคลที่ระลึกอายุวัฒนมงคล 8 รอบ ถือเป็นวัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายที่หลวงปู่สร้าง เสร็จพิธีแล้วกลับไปรักษาตัวต่อ จากนั้นวันที่ 12 มี.ค.กลับมาที่วัดเพื่อร่วมพิธีเปิดมณฑป ลายรดน้ำทรงไทย ในวันที่ 13 มี.ค.กลับไปรักษาตัวที่เดิม จนละสังขารในที่สุด

สำหรับหลวงปู่ทิมเป็นพระเกจิชื่อดังของเมืองกรุงเก่า ปัจจุบันอายุ 96 ปี นามเดิมชื่อทิม ชุ่มโชคดี เกิดวันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค.2456 ปีฉลู ที่หมู่ 3 ต.พระขาว อ. บางบาล เป็นบุตรคนที่ 5 ของนายพร้อม นางกิ่ม ชุ่มโชคดี

ในวัยเด็กศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดพิกุล จนถึงอายุ 13 ปี เมื่อจบ ป.4 จึงออกจากโรงเรียนมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพทำนา ก่อนจะถูกเกณฑ์เป็นทหาร ถูกส่งตัวไปปฏิบัติราชการสงครามฝรั่งเศส รวมทั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกระทั่งปลดประจำการ จึงเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่อเดือนก.ค.2478 ที่วัดพิกุล อ.บางบาล บวชอยู่ได้ 1 พรรษาจึงลาสิกขา ต่อมามีครอบครัวและมีบุตร 4 คน

หลังจากนั้นอุปสมบทอีกครั้งเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2491 ขณะอายุ 35 ปี ที่วัดพิกุล ได้รับฉายา "อตฺตสนฺโต" โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดพิกุล ก่อนจะมาจำพรรษาที่วัดพระขาว เมื่อปี 2492 และเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี 2498 จนถึงปัจจุบัน

ด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม หลวงปู่ทิมสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก เมื่อปี 2500 กระทั่งปี 2510 ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลน้ำเต้า-ตำบลพระขาว พร้อมทั้งได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ในปี 2512 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นตรี พร้อมทั้งได้รับพระราชทินนามว่า "พระครูสังวรสมณกิจ" ปี 2520 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นโท ในราชทินนามเดิม ส่วนผลงานด้านการพัฒนา หลวงปู่ทิมบูรณปฏิสังขรณ์สภาพของวัดที่เก่าแก่แต่เดิมให้มั่นคงถาวรทั้งหมด

หลวงปู่ทิมเป็นพระนักปฏิบัติ และชอบการปลีกวิเวกอยู่ในป่าช้า สมถะ รักสันโดษ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ไม่จับต้องปัจจัยเงินทอง มีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ มีความเมตตาต่อทุกคนที่ไปกราบไหว้

ทั้งนี้หลวงปู่ทิมศึกษาวิชาอาคมจากหลวงพ่อสังข์ พระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ธนบุรี จนมีความเชี่ยวชาญชำนาญด้านวิปัสสนากรรมฐาน และคาถาอาคมต่างๆ รวมทั้งการสร้างและเสกวัตถุมงคลจนเลื่องชื่อ เป็นที่ต้องการของนักสะสมและลูกศิษย์ลูกหา โดยเฉพาะ "ลูกอมชานหมาก"

สำหรับพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังที่โด่งดัง ได้แก่พระหลวงปู่ทิมรุ่นต่างๆ จำนวนมาก กำไลหลวงปู่ทิม ผ้ายันต์ พระขุนแผน ปลาเงินปลาทอง ลูกอมชานหมาก ภาพถ่าย ทั้งหมดมีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม และโชคลาภสูง ขลังด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จนได้รับขนานนามว่า เทพเจ้าแห่งความเมตตา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนนับพันคนเดินทางมาเช่าวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม ส่วนใหญ่เช่าบูชาเหรียญทองแดงครบ 8 รอบ ราคาบูชาองค์ละ 100 บาท นอกจากนี้ ตามร้านเช่าพระเครื่องพิมพ์ต่างๆ ที่อยู่ภายในวัดจำนวน 5 ร้าน ประชาชนเช่าบูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมจำนวนมากตลอดทั้งวัน

นายสุธี ศรีวิไล เจ้าของร้านให้เช่าจองวัตถุมงคลที่อยู่หน้ามณฑป เปิดเผยว่า เชื่อว่าหลังจากหลวงปู่ทิมมรณภาพแล้ว วัตถุมงคลจะมีราคาสูงขึ้น เช่น รุ่นชนะจน เหรียญทองที่สร้างครบอายุ 84 ปี มีเพียง 84 เหรียญ จากราคา 16,000 บาท เป็น 200,000 บาท แม้กระทั่งชานหมากที่หลวงปู่ทิมมักจะแจกให้กับลูกศิษย์และประชาชน เกลี้ยงวัดไปแล้ว เพราะลูกศิษย์มีความเชื่อว่าชานหมากมีสรรพคุณมากมาย โดยเฉพาะการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ