ลีเกิ้ลแจงถูกพ่อค้าคลองเตยยั่วยุก่อน

ลีเกิ้ลแจงถูกพ่อค้าคลองเตยยั่วยุก่อน

ลีเกิ้ลแจงถูกพ่อค้าคลองเตยยั่วยุก่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตลาดคลองเตยยังไม่จบ! กลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 20 คน ยกพวกรุมตื้บพ่อค้าแม่ค้าเจ็บระนาว ตะโกนขู่"ที่ของกู ยังไงกูก็จะเอาคืน" พร้อมขู่ฆ่าคนมาร่วมงานศพเหยื่อกระสุน หน.รปภ.โหด แม่ค้าโวยตำรวจเมินช่วย เผยถ่ายวีดีโอเหตุการณ์หวังแจ้งจับ

เมื่อเวลาประมาณ 06.20 น.วันที่ 23 มีนาคม ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 20 คน พร้อมอาวุธครบมือได้บุกเข้ามาทำร้ายพ่อค้าแม่ค้าพร้อมแพงขายของภายในตลาดคลองเตย ถนนพระราม 4 โดยได้เข้ามาลงมือก่อเหตุเป็นเวลาประมาน 10 นาที ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาระงับเหตุ แต่ไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายทั้ง 20 คนได้ ต่อมาทางกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดคลองเตย ได้รวมตัวกันเดินทางไปยังอาคารมาลีนนท์ เพื่อเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลย ไม่ยอมเข้ามาจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ ได้แต่ยืนดูขณะที่พ่อค้าแม่ค้าถูกทำร้าย

กระทั่งเวลา 08.00 น. พ่อค้าแม่ค้าได้เดินทางกลับมารวมตัวกันอีกครั้งที่ตลาดคลองเตย โดยนายถนอม โถทอง อายุ 29 ปี พ่อค้ารายหนึ่ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการครั้งนี้ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังขายของตามปกติ พ่อค้าขายนำแข็งได้โทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่า มีการนำชายฉกรรจ์กว่า 20 คน บุกข้ามาข่มขู่ที่ร้านขายน้ำแข็ง โดยบอกให้หยุดเครื่องบดน้ำแข็ง และยังสั่งห้ามไม่ให้ส่งน้ำแข็งให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาด เมื่อตนทราบจึงวิ่งไปดูก็เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังข่มขู่จึงบอกให้หยุด พร้อมกันนั้นได้เป่านกหวีดเพื่อแจ้งให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดทราบว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว

"ตอนนั้นชายฉกรรจ์วิ่งตามมาชกต่อยผม ผมพยายามวิ่งหนีไปที่เต้นท์ ตะโกนให้เพื่อนๆช่วย แต่พวกนี้ก็ยังวิ่งตาม พอมาถึงเต้นท์เพื่อนๆก็ช่วยกันขวางไว้แต่ก็ถูกพวกนี้กระชากลากถูจนเจ็บตัวไปตามๆกัน แม้แต่ผู้หญิงก็ยังไม่เว้น พอซ้อมผมเสร็จก็เขาขู่ไม่ให้ผมเป็นแกนนำพวกพ่อค้าแม่ค้า ยังบอกว่า

"ไม่ใช่พวกมึงฝ่ายเดียวที่ตาย แล้วพวกกูหละ" เขาพูดต่อหน้าศพเพื่อนผม 2 คนที่ถูกยิงตายแล้วตั้งศพไว้ในเต้นท์ นอกจากนั้นนายธรรมนัส ได้กระชากไมโครโฟนของเพื่อนอีกคนที่กำลังพูดเรียกให้เพื่อนในตลาดออกมาช่วย เขาพูดข่มขูต่างๆ นานา ส่วนตำรวจที่กางเต้นท์ห่างออกไประมาณ 50 เมตรก็ไม่ได้เข้ามาช่วยได้แต่ยืนดู ทั้งๆที่มีอยู่หลายสิบนาย ตำรวจไม่สนใจ ไม่เข้ามาห้ามผมโดนกระทืบที่เต้นท์แต่ตำรวจชั้นสัญญาบัตรหลายคนได้แต่ยืนดูเฉย ๆ ผมเสียใจมาก และไม่ไว้ใจตำรวจอีกแล้วว่าจะคุ้มครองพวกผมได้หรือเปล่า" นายถนอม กล่าวพร้อมทั้งโชว์บาดแผลรอยฟกช้ำที่แขนให้ผู้สื่อข่าวดู

นางฟาติเมาะ เย็นใจ อายุ 32 ปี แม่ค้าขายเนื้อในตลาด กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตนอยู่ในเหตุการณ์ก็เห็นนายถนอม วิ่งหนีกลุ่มชายฉกรรจ์ ตนพยายามเข้าไปห้าม เพราะตอนนั้นนายถนอมถูกรุมทำร้ายจนล้มลงไปนอนกับพื้น ตนจึงนั่งคร่อมตัวนายถนอมเพื่อกันไม่ไห้ถูกทำร้าย แต่ตนถูกกระชากแขนให้ลุกขึ้นจนเป็นแผลที่แขนหลายแห่ง ขณะนั้นก็ยังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ข่มขู่คุกคามต่างๆ นานา ทั้งนี้ ทางกลุ่มพ่อค้าไม่มีอาวุธ แต่กลุ่มชายฉกรรจ์มีอาวุธทุกคน ทั้งมีดและปืน ขนาดตำรวจเข้ามาจับแขนกลุ่มชายฉกรรจ์เพื่อห้ามปรามก็ยังโดนสบัดจนหลุด แต่หลังจากเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาจริง กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดได้เดินกลับออกไป แต่ระหว่างนั้นนายธรรมนัส ยังประกาศว่า "ที่ของกู ยังไงกูก็จะเอาคืน ถ้าใครใส่เสื้อดำมางานศพจะฆ่าให้ตายทั้งหมด"

"หลังจากขู่แล้วพวกนี้ก็เดินกลับไป มีตำรวจเดินตามไปด้วย 4 คน แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมไม่จับพวกนี้ เพราะตำรวจก็เห็นว่าพวกนี้ทำร้ายพวกฉัน เรื่องนี้เหมือนตำรวจจะเป็นใจ เพราะกลุ่มชายฉกรรจ์ ทำแบบไม่กลัวใคร ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าตำรวจอยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่เมตร เหตุการณ์ทั้งหมดฉันถ่ายวิดีโอกับภาพนิ่งเอาไว้ใช้เป็นหลักฐานเอาผิดคนพวกนี้ ในภาพเห็นชัดเจน ฉันอยากจะรู้เหมือนกันว่ามีหลักฐานขนาดนี้แล้วตำรวจจับใครไม่ได้" นางฟาติเมาะ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น.ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย ทั้งนี้ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้แจ้งความจำนงค์ว่า จะไม่ไปแจ้งความที่ สน.ท่าเรือ เนื่องจากเชื่อว่าจะไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ หากจะแจ้งก็ขอแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยงานอื่น ต่อมา พล.ต.ต.วิบูลย์ ได้ประสานไปยัง สน.ท่าเรือ เพื่อให้ส่งพนักงานสอบสวนเดินทางมาที่เกิดเหตุโดยด่วน เพื่อทำการรับแจ้งความและสอบปากคำกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า

ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยได้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ภายในเต้นท์รักษาการณ์เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้อธิบายถึงแผนการป้องกันเพื่อระงับเหตุ โดยใช้เวลาในการพูดคุยและปรับเปลี่ยนแผนประมาน 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ

ตร.เพิ่มกำลังตรวจเข้ม

พล.ต.ท.วรพงษ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุวิวาทในตลาดคลองเตย ได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา จึงเดินทางมาตรวจสอบเพื่อสอบถามถึงที่มาที่ไป และจุดบกพร่อง เพื่อหาทางแก้ไข โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงเรื่องแผนการทำงานที่วางไว้ ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ต้องมีการเปลี่ยนวิธีรักษาความปลอดภัยใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพ่อค้าแม่ค้า จากเดิมที่เคยจัดกำลังสายตรวจเดินเท้า 4 นาย 10 จุด ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ยังถือว่าน้อยและไม่เพียงพอ ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ ของตำรวจค่อนข้างลำบาก ไม่สามารถเข้าไประงับเหตุการณ์ได้ทันที

พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ต้องปรับเปลี่ยนใหม่ จาก 4 นายต่อ 1จุด เพิ่มเป็น 1หมู่ ต่อ 1จุด และจะมีตำรวจเดินเท้าคอยป้องกันเหตุรอบๆตลาด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับพ่อค้าแม่ค้า และผู้มาจับจ่ายตลาดในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นพื้นที่เขตปลอดอาวุธเหมือนเช่นเดิม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องคอยตรวจตราอย่าคุมข้ม หากพบผู้ต้องสงสัยก็สามารถตรวจค้นได้ทันที

"เหตุการณ์วันนี้ ได้รับฟังจากผู้เสียหาย และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เห็นเหตุการณ์ บ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องรวมรามข้อมูลรายละเอียดพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด จากพบตัวผู้กระทำผิดจะกระทำการแจ้งข้อหาและออกหมายจับโดยทันที ในส่วนที่ทางพ่อค้าแม่ค้าบอกว่า มีวีดีดโอภาพ รวมถึงภาพนิ่งขณะเกิดเหตุ ซึ่งภาพปรากฏตัวผู้กระทำผิดชัดเจน ตรงจุดนี้หากส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบก็จะนำมาประกอบในคดีและออกหมายจับโดยทันที " ผบช.น. กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ได้เดินไปตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในตลาด เพื่อดูร่องรอยการเสียหายทั้งหมด ระหว่างนั้นได้มีพ่อค้าแม่ค้าในตลาด เดินเข้ามาร้องเรียน เรียกร้องความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ลีเกิ้ลแจงถูกพ่อค้าคลองเตยยั่วยุก่อน

นายภูโมกข์ นุ่นจันทร์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชันแนล ชี้แจงกรณีนายธรรมนัส พรหมเผ่า กรรมการผู้จัดการบริษัท ลีเกิ้ล ฯ พาพวกบุกทำร้ายพ่อค้าแม่ค้าในตลาดคลองเตยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า นายธรรมนัส เดินทางไปที่ตลาดกับลูกน้องประมาณ 4-5 คนเท่านั้น เพื่อเดินไปจับจ่ายซื้อของในตลาดตามปกติ พร้อมทั้งตรวจดูความเรียบร้อยในตลาด นอกจากนี้นายธรรมนัส ในฐานะผู้บริหารตลาดรายใหม่ต้องการที่จะช่วยเหลือค่าทำศพผู้ตายทั้งสองคน จากเหตุการณ์ยิงกันในตลาด จึงเดินไปที่เต็นท์ที่ตั้งศพผู้ตายทั้งสอง เพื่อพูดคุยกับญาติผู้ตาย แต่กลับถูกฝ่ายผู้ชุมนุมขับไล่ว่า "มึงมาทำไม ตลาดของกู ออกไป" พร้อมกับด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายต่างๆนาๆ ทำให้นายธรรมนัส ทนไม่ได้จึงปรี่เข้าไปชกต่อย ก่อนเกิดการชุลมุนกัน

"ที่นายธรรมนัส ไปเมื่อเช้านี้เป็นการเดินตลาดตามปกติ มีลูกน้องติดตามไปด้วย 4-5 คน ไม่มีการพกมีดหรือปืน อาวุธอะไรก็ไม่มี มีเพียงมือเปล่า ทางบริษัท ลีเกิ้ลฯ ก็ดำเนินการทุกอย่างมาถูกต้อง ตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง สะดวกไปเดินตอนไหนก็ได้ แต่มีเพียงพวกเสียผลประโยชน์ พ่อค้าแม่ค้าส่วนน้อยเท่านั้นที่ร่วมชุมนุมสร้างความรำคาญ และเหตุที่นายธรรมนัส เดินไปที่เต็นท์ตั้งศพ เพราะต้องการไปพูดคุยกับญาติผู้ตาย เพื่อให้การช่วยเหลือค่าทำศพ เจตนาจริงๆเป็นอย่างนั้น " นายภูโมกข์ กล่าว

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook