เก๋งแคมรี่พุ่งมาแรง ชนศาลาริมทางถล่ม ทับจ่าทหารเรือดับ
2 หนุ่มขับเก๋งแคมรี่มาด้วยความเร็ว ก่อนเสียหลักพุ่งเข้าชนศาลาริมทางอย่างจัง จ่าทหารเรือกำลังนั่งรอรถอยู่หนีไม่ทัน ศาลาทั้งหลังถล่มลงมาทับเสียชีวิต ตร.แจ้งข้อหาหนักคนขับเก๋ง
(18 ต.ค.) เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.ท.พัฒนนันท์ สมนวล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเก๋งพุ่งชนศาลารอรถ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย เหตุเกิดบริเวณหน้าประตูใหญ่ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ ถนนสุขุมวิท ขาเข้าสัตหีบ หลักกิโลเมตรที่ 178 ม.2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน
จุดเกิดเหตุพบรถเก๋งโตโยต้า แคมรี่ สีดำ สภาพพลิกคว่ำตะแคงข้างอยู่ภายในศาลาริมทาง ส่วนตัวศาลาได้พังเสียหายลงมา โครงสร้างหลังคาพังถล่มทับตัวรถอีกที ตรวจสอบพบร่าง จ่าเอกสิงขร อายุ 39 ปี ที่ออกมานั่งรอรถถูกโครงสร้างหลังคาทับติดอยู่กับตัวรถ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส
เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างตัดเหล็กช่วยเหลือนำร่างออกมา แต่ปรากฏว่า จ่าเอกสิงขร ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียในเวลาต่อมา ขณะที่ห่างไป 10 เมตร ภายในร่องน้ำริมถนน พบ นายปุรเชษฐ์ อายุ 23 ปี คนขับรถเก๋งคันดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส พร้อมกับเพื่อน นายอนุพงศ์ อายุ 22 ปี สภาพขาซ้ายหัก หลังกระเด็นออกมาจากตัวรถ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
จากการสอบถามพยานทราบว่า ช่วงเกิดเหตุ จ่าเอกสิงขร ได้ออกนั่งรอเพื่อนมาเดินทางรับไปทำธุระในตัวเมืองพัทยา ระหว่างที่นั่งรออยู่ภายในศาลาริมทางนั้น มีรถเก๋งของนายปุรเชษฐ์ ขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะเสียหลักพุ่งชนศาลาด้วยความเร็วและรุนแรง เป็นเหตุทำให้ศาลาทั้งหลังพังถล่มลงมาทับร่างดังกล่าว ก่อนที่ จ่าเอกสิงขร จะเสียชีวิตในที่สุด ส่วนคนขับและเพื่อนได้กระเด็นออกไปนอกตัวรถ
ร.ต.ท.พัฒนนันท์ สมนวล รองสารวัตรสอบสวน กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุก่อนจะสอบสวนพยานและคนขับรถเก๋งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา นายปุรเชษฐ์ คนขับรถเก๋ง ฐานขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ของหลวง (ศาลารอรถ) พังเสียหาย