จับตาน้ำเหนือไหลเข้าเขื่อนป่าสักฯ รัฐให้ความมั่นใจจัดการได้

น้ำจากจังหวัดเพชรบูรณ์ และ น้ำจากสระเก็บน้ำหนองโสน จังหวัดลพบุรี อยู่ในเส้นทางน้ำที่จะไหลไปยังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แนวทางบริหารจัดการมวลน้ำเหล่านี้ให้ส่งผลกระทบน้อยที่สุดและตัวแปรสำคัญคือปริมาณฝนที่จะตกลงมาเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำ และฟ้าฝนในช่วงนี้ยังวางใจไม่ได้ เพราะแม้ว่าจะไม่มีพายุเคลื่อนเข้าไทยในช่วงนี้ แต่หลายพื้นที่ก็มีฝนตกหนักจากร่องมรสุมตามฤดูกาล ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในบางจุด ถือเป็นไปตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ เพราะร่องมรสุมตามฤดูกาล ยังคงพาดผ่านอยู่ช่วงภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก แต่วันนี้ขยับออกมาทางฝั่งตะวันตกมากขึ้น ทำให้ช่วง 1-2 วันนี้ อาจจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ดังกล่าว เช่น ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก รวมถึงกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำที่ค่อนข้างวิกฤตตอนนี้ ยังอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ ล่าสุดมวลน้ำจากเขาหลวง รวมถึงที่ท่วมอยู่ใน อ.หล่มเก่าเมื่อวานนี้ ไหลมาถึงที่ อ.หล่มสัก เป็นที่เรียบร้อย มวลน้ำส่วนใหญ่มาจากลำน้ำป่าสัก เพราะฉะนั้นจุดไหนที่มีพื้นที่ต่ำอย่าง ต.ตาลเดี่ยว ก็ถูกน้ำจากลำน้ำป่าสักเอ่อทะลักเข้าท่วม กรมชลประทานระบุว่า น้ำจากเขาจะไหลผ่านอ.หล่มสักลักษณะนี้ไปอีกประมาณ 3 วัน หลังจากนั้น น้ำที่นี่จะค่อย ๆ ลดลงไปอย่างรวดเร็ว ส่วนพื้นที่ที่ต้องรับน้ำต่อจากนี้ อย่าง อ.เมือง คาดว่าน้ำจะใช้ระยะเวลาเดินทางอีกประมาณ 2 วัน

สำหรับ เส้นทางไหลของน้ำ มวลน้ำก้อนนี้จะไหลต่อไปที่เขื่อนป่าสัก ก่อนจะไปรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่กรมชลประทานยืนยันว่า กว่าน้ำจากเพชรบูรณ์จะไหลไปถึงเขื่อนป่าสักก็ต้องใช้ระยะเวลาอย่างเร็ว 4-14 วัน ฉะนั้น แม้เขื่อนป่าสักจะมีน้ำมากถึง 98 % ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำก้อนนี้ในเวลาอันใกล้

นอกจากที่ จ.เพชรบูรณ์ แล้ว ที่ จ.ลพบุรี มีเหตุการณ์คันดินของสระเก็บน้ำขาด จนมวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมทุ่งจำนวนมาก เรื่องนี้พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า สถานการณ์ยังไม่น่ากังวล เพราะไม่ใช่พนังกั้นน้ำขนาดใหญ่ สามารถควบคุมได้ และมั่นใจว่าปริมาณน้ำที่ไหลออกมาจะไม่ส่งผลกระทบต่อเขตเมือง หรือ พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของลพบุรี

พล.อ.อนุพงษ์ สอดคล้องกับข้อมูลของกรมชลประทาน ที่ระบุว่า สระเก็บน้ำหนองโสนนี้ มีปริมาตรกักเก็บอยู่ในอ่างประมาณ 6 แสนลูกบาศก์เมตร ส่วนมวลน้ำที่ไหลทะลักออกมามีประมาณ 3 แสนลูกบาศก์เมตร หรือครึ่งหนึ่ง ซึ่งมวลน้ำที่ทะลักออกมาจะไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร มีระดับน้ำสูงประมาณ 25 เซนติเมตร

ทั้งนี้ กรมชลประทานอธิบายว่า มวลน้ำทั้งหมดนี้จะไหลไปลงคลองห้วยปลาหมอ จนไปเจอฝายห้วยหนองชนะชัย ซึ่งปริมาณน้ำหน้าฝายอยู่ต่ำกว่าสันฝายประมาณ 1 เมตร จึงมั่นใจว่า มวลน้ำส่วนใหญ่จะถูกกันไว้ที่จุดนี้ และมีมวลน้ำล้นออกไปด้านล่างไม่มาก ส่วนมวลน้ำที่ล้นออกไป จะไปสมทบกับพื้นที่ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ซึ่งขณะนี้ก็มีน้ำท่วมอยู่แล้ว โดยต้องจับตาว่า มวลน้ำที่จะล้นออกจากฝายห้วยหนองชนะชัย จะมีมากน้อยแค่ไหน หากมีมาก ระดับน้ำที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำของ อ.บ้านหมี่ อาจจะยกระดับสูงขึ้นอีก