มหากาพย์หญิงไก่! ตุ๋นลวงโลกจากสูงสุดคืนสู่สามัญ
ศาลสั่งจำคุกหญิงไก่ 3 ปี ไม่รออาญา คดีค้ามนุษย์บังคับหญิงสาวทำงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง พร้อมให้ชดใช้ 5.9 แสนบาท นั่นคือคำพิพากษาล่าสุดจากความผิดทั้งหมด 3 ข้อหาของหญิงไก่ หรือ นางมณตา หยกรัตนกาญ ผู้สร้างมหากาพย์ตุ๋นลวงโลกอันลือลั่นเมื่อปี 2559
โดยเรื่องราวของเธอกลายเป็นที่สนใจของสังคมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเพราะเธออุปโลกน์ตัวเองว่าเป็นคุณหญิงเพื่อสร้างอภิสิทธิ์หลอกหากินกับผู้บริสุทธิ์จนมีผู้ตกเป็นเหยื่อราย สุดท้ายถูกจับดำเนินคดีถึง 3 ข้อหา ได้แก่ พยายามค้ามนุษย์, การกระทำความผิดตามมาตรา 112 และแจ้งความเท็จ
ซึ่งคดีที่ทำให้หญิงไก่ถูกกระชากหน้ากากคุณหญิงจากผู้บริสุทธิ์กลายเป็นคนร้ายนั่นคือ คดีที่เธอแจ้งความจับหญิงสาวอายุ 17 ปี พร้อมครอบครัวในข้อหาลักทรัพย์นายจ้างคือตนเอง โดยแจ้งทรัพย์สินที่หายไปมีมูลค่าถึง 10 ล้านบาท สุดท้ายผู้ร้ายตัวจริงกลับกลายเป็นหญิงไก่นั่นเอง
ย้อนเส้นดูทางชีวิตหญิงไก่จากสูงสุดคืนสู่สามัญ พังเพราะคดีลักทรัพย์ 10 ล้านบาท
18 มีนาคม 58 หญิงไก่ได้แจ้งความจับ น้องก้อย วัย 17 ปี ในข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งมีทรัพย์สินที่หายไป คือ ทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท รวม 40 แท่ง ทองรูปพรรณ , เพชร และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ที่วางไว้ตามโต๊ะ และจุดต่างๆ ภายในห้องพัก สูญหายไป รวม 11 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
23 มิถุนายน 59 น้องก้อย พร้อมด้วย ทนายความสงกานต์ เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดเพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับคดีระหว่างพิจารณาคดี
27 มิถุนายน 59 หญิงไก่ออกมาชี้แจงพร้อมแสดงหลักฐานภาพนิ่งจากกล้องวงจรปิดของน้องก้อยและครอบครัวขณะถือกระเป๋านำทรัพย์สินออกมาทางบันไดหนีไฟเพื่อหลบหนี ยืนยันว่าตนเองถูกลักทรัพย์จริงและไม่ได้กลั่นแกล้งในการดำเนินคดีกับนักเรียนหญิง
28 มิถุนายน 59 ทนายสงกานต์ พา น้องก้อย และ น้องมีน บุตรสาวคุณสุกัลญา ศิริม่วง ผู้เสียหายอีกคนที่ถูกขังในเรือนจำ หลังโดนหญิงไก่แจ้งความลักทรัพย์กว่า 3 ล้านบาท ไปพบกองปราบปราม เพื่อยืนยันว่าโดนบังคับเขียนคำรับสารภาพด้วยภาษากฎหมาย
30 มิถุนายน 59 เพื่อความบริสุทธิ์ใจหญิงไก่เปิดห้องพักที่คอนโดให้นักข่าวเข้าไปดู พร้อมจะนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเป็นหลักฐานต่อสู้คดี ขณะที่ผู้สื่อข่าวหลายสำนักเห็นความผิดปกติจากพาสปอร์ตกองโต กว่า 20 เล่ม รวมถึงไปพาสปอร์ตสีนำเงินเข้ม ที่ออกให้สำหรับข้าราชการเท่านั้น
5 กรกฎาคม 59 ทัณฑสถานหญิงกลางบางเขน ได้ปล่อยตัว นางสุกัลยา ศิริม่วง อายุ 54 ปีผู้เสียหายที่ถูกหญิงไก่แจ้งความจับข้อหาลักทรัพย์ ด้วยเงินประกัน 2 แสนบาท โดย มีน้องมีน บุตรสาว และญาติมารอรับ ซึ่งทั้งคู่เมื่อได้เห็นหน้ากันต่างโผเข้ากอดกัน ร้องไห้ด้วยความดีใจ
6 กรกฎาคม 59 เพื่อความบริสุทธิ์ใจอีกครั้ง หญิงไก่ ปรากฏตัวที่จังหวัดพิษณุโลก ไหว้พระพุทธชินราช เพื่อสาบานให้มีอันเป็นไปหากเธอแจ้งความเท็จ ก่อนที่จะเดินทางกลับด่วน เพื่อเข้าพบตำรวจ สน.ประชื่น เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้หนีไปไหน
7 กรกฎาคม 59 หญิงไก่ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา พยายามค้ามนุษย์ และผิด มาตรา 112 ที่กองปราบปราม ก่อนจะนำตัวไปฝากขังและศาลไม่ให้ประกันตัว เพราะมีความผิดร้ายแรงแอบอ้างสถาบัน
6 มิถุนายน 60 ศาลมีคำพิพากษาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มาตรา 112 หญิงไก่กลับคำให้การเป็นรับสารภาพ คดีหมิ่นเบื้องสูง ศาลสั่งจำคุกรวม 15 ปี แต่สารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือ 6 ปี 18 เดือน
19 ตุลาคม 60 ศาลสั่งจำคุกหญิงไก่ 3 ปี คดีค้ามนุษย์บังคับหญิงสาวทำงานแต่ไม่จ่ายค่าจ้าง โดยไม่รออาญา พร้อมให้ชดใช้ 5.9 แสนบาท
ทั้งนี้จากการตรวจประวัติข้อมูลเพิ่มเติมพบว่ามีลูกจ้างที่ถูกหญิงไก่ฟ้องดำเนินคดีอีก 5 ราย ซึ่งมีบางรายได้ถูกศาลตัดสินจำคุกแล้ว นอกจากนี้ยังมีเด็กชาวเขา 6 คน ถูกหญิงไก่ชักชวนไปอยู่ด้วย ก่อนที่ภายหลังจะถูกส่งไปต่างประเทศ หากใครปฏิเสธจะถูกแจ้งความว่าลักทรัพย์หลายล้านบาท จนถูกจำคุกกว่า 2 ปี ซึ่งทั้งหมดถูกแจ้งความไว้ที่ สน.ประชาชื่น
สอดคล้องกับน้องก้อยผู้เสียหายอีกคนที่ถูกแจ้งจับขโมยทรัพย์สินมูลค่า 10 ล้าน ซึ่งชนวนเหตุของเรื่องราวทั้งหมดว่าน่าจะเกิดจากความไม่พอใจของหญิงไก่ที่ชวนตนเองไปทำงานต่างประเทศ โดยเห็นว่าเราหน้าตาดีและพยายามชักจูงโดยบอกว่ามีรายได้สูงถึง 2-5 ล้านบาท แต่ตนได้ปฏิเสธไปทุกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานก็ถูกตำรวจจับข้อหาลักทรัพย์มูลค่า 10 ล้านบาทขณะทำงาน
ทีนี้ลองมาดูเส้นทางที่หญิงไก่สร้างบารมีเอาไว้เพื่อยกระดับให้กับตัวเองเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยย้อนไปเมื่อปี 25 ปีที่แล้ว หญิงไก่เป็นที่โด่งดังลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยครั้งเพราะเธอมีชื่อเสียงจากการแจกเงินให้คนจน และผู้ทุกข์ยากเดือดร้อน ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับความเมตตาจากเธอจึงขนานนามให้ว่า “คุณหญิงไก่” และในปัจจุบันก็ยังมีภาพของหญิงไก่ที่กำลังแจกทองให้ชาวบ้านอีกด้วย
ส่วนวีรกรรมต้มตุ๋นสุดแสบของหญิงไก่มีพยานปากสำคัญ เล่าว่า นางไก่มักอวดอ้างว่ามีญาณวิเศษสามารถให้เลขเด็ดได้ แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย และยังตั้งเพจในเฟซบุ๊ก ชื่อ “รวยแน่นอน” พร้อมประกาศอวดอ้างสรรพคุณการใบ้หวย โดยใช้ชื่อท่านแม่สุชาดา มีผู้หลงเชื่อจำนวน และยังมีพฤติกรรมการจ่ายเช็คเด้งเป็นค่าเช่าบริษัทให้กับทางเจ้าของอาคารอีกด้วย
และเมื่อปี 2556 "หญิงไก่" เคยไปเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอาเงินมาถวาย โดยอ้างว่าหลังเสร็จสิ้นพิธีการ จะนำเช็คเงินสดไปเข้าธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงครามทันที แต่ท้ายสุดก็ไม่ได้นำเงินถวายวัดตามที่อ้างไว้
ไม่น่าเชื่อว่าหญิงไก่จะสามารถสร้างเรื่องราวที่ไม่มีจริงทำให้คนเชื่อว่าเป็นจริงได้ แต่ถึงแม้ว่าจะสามารถบิดบังซ่อนเร้นเอาไว้ได้ช่วงเวลาหนึ่ง สุดท้ายแล้วไม่วันนี้ก็วันหน้าความจริงก็จะปรากฏ ความเท็จก็จะหายไปเพราะมันไม่มีอยู่จริง นี่คือสัจธรรม