ร้องดีเอสไอถูกขับพ้นที่ดินรุกป่าสงวนฯ แต่นายทุนออกโฉนดได้

หญิงชาวจังหวัดกระบี่ ร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อ่าวนางหางนาค จังหวัดกระบี่ หลังเคยถูกดำเนินคดีฐานบุกรุก แต่กลับมีกลุ่มนายทุนขอออกโฉนดในพื้นที่เดียวกันได้

นางแสงระวี ชาวจังหวัดกระบี่ เข้าร้องเรียนกับกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติอ่าวนางหางนาค พื้นที่ติดทะเล ในตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ที่นางแสงระวีอ้างว่า เคยครอบครองมาตั้งแต่ก่อนปี 2529 จำนวน 75 ไร่ และเคยได้รับการออก ภบท.5 ทำกินในพื้นที่

ต่อมามีกลุ่มคนเข้ามาแผ้วถาง ล้อมรั้ว กระทั่งเธอถูกดำเนินคดีฐานบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ และศาลฎีกาตัดสินว่าผิดฐานบุกรุกในปี 2545 โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ 2 ปี พร้อมสั่งให้ออกจากพื้นที่ ต่อมาปี 2548 สำนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ ได้ออกโฉนดในพื้นที่ป่าสงวนเนื้อที่รวม 200 ไร่ และในจำนวนนั้นเป็นที่ดินที่นางแสงระวีเคยครอบครองและถูกดำเนินคดี 6 แปลง เนื้อที่ 26 ไร่

พันตำรวจโทมนตรี บุญยโยธิน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ระบุว่า ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษเมื่อปี 2550 และส่งสำนวนการสอบสวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตั้งแต่ปี 2552

ล่าสุดคดีนี้ยังอยู่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช.ที่ดินทั้ง 200 ไร่ ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างหรือการดัดแปลงพื้นที่ แต่มีการประกาศขายไร่ละ 20-30 ล้านบาทแล้ว