คนเบื้องหลังขอทำดีเพื่อพ่อปิดทองหลังพระ ไทด์ เอกพันธ์

พื้นที่อันกว้างใหญ่แลดูคับแคบไปถนัดตาเมื่อประชาชนจากทั่วทุกสารทิศได้ทยอยกันเดินทางมาจากทั่วประเทศเพื่อเข้ามายังท้องสนามหลวงสถานที่จัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยความหวังอย่างเต็มเปี่ยมเพื่อน้อมส่งในหลวง ร.9 สู่สวรรคาลัย

และหากมองไปยังท่ามกลางผู้คนมากมายที่เบียดเสียดยัดเยียดกันมีกลุ่มบุคคลหนึ่งที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเหล่านั้นโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นั่นคือบรรดาเหล่าจิตอาสาทุกคนที่ยอมปิดทองหลังพระทำความดีรับใช้ประชานชนเพียงเพื่อรอยยิ้มของคนไทยที่สุขใจทุกครั้งเมื่อได้เข้าไปส่งในหลวง ร.9 สู่สวรรคาลัย

หนึ่งในนั้นคือคุณ ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ได้เปิดใจกับทางทีมข่าว Sanook News! ว่าผมมาประจำการตั้งแต่ก่อนที่จะมีพิธีซ้อมโดยมีประชาชนเยอะแยะมากมายตั้งแต่วันซ้อมวันแรกจนถึงวันสุดท้ายและต่อเนื่องจนมาถึงวันที่ทางการได้เปิดให้ประชาชนเข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อที่จะได้ชมริ้วขบวนเสด็จวันจริง

ซึ่งก็มีปัญหาที่เกิดขึ้นเยอะแยะมากมายรวมทั้งกับจิตอาสาอย่างพวกเราด้วยเนื่องว่าจำนวนประชาชนที่เข้ามาในพื้นที่ท้องสนามหลวงนั้นมีมากทำให้การรอเข้าคิวนั้นใช้เวลานานและด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวด้วยจึงอาจจะทำให้ประชาชนบางท่านมีอารมณ์ร้อนใช้คำไม่สุภาพกับจิตอาสาและเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดความกดดันกันทั้งสองฝ่าย

แต่พวกเราก็ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างอดทน ยกตัวอย่างเช่นบางท่านมาจากต่างจังหวัดที่ไกลๆ ค้างที่นี่ตั้ง 2-3 คืน แต่แล้วทำไมถึงให้ประชาชนที่มาแค่ 7-8 ชั่วโมงได้เข้าไปก่อน จึงทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นมา

ฉะนั้นแล้วทางเราจิตอาสาและเจ้าหน้าที่จึงต้องปฏิบัติงานอย่างรัดกุมจัดระเบียบให้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลัดคิวหรือแทรกคิว ซึ่งทางเรามีการถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานว่ากลุ่มไหนมาก่อนมาทีหลังเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา

ในฐานะที่ปฏิบัติงานมาหลายวันรู้สึกเหนื่อยบ้างหรือไม่

ผมยอมรับว่าเหนื่อยมาก แต่ผมเหมือนมีพลังที่เห็นประชาชนมารอส่งเสด็จในหลวง ร.9 สู่สวรรค์คาลัย ซึ่งทุกคนรออย่างใจจดใจจ่อโดยมีจุดประสงค์เดียวกันและไม่รู้ว่าวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงในหลวง ร.9 น้ำตาของประชาชนจะไหลท่วมสนามหลวงเท่าไหร่

และผมมองเห็นสายตาของคนไทยทุกคนที่มีความหวังว่าจะได้ส่งเสด็จพระองค์ท่านสู่สวรรค์คาลัย ถามว่าผมมีความรู้สึกอย่างไรเหนื่อยแค่ไหนอดนอนมามากเท่าไหร่ ผมได้พียงสั้นๆว่าผมรู้สึกมีพลังอยู่ข้างในทุกครั้งที่เห็นประชาชนมากันมากมายขนาดนี้ซึ่งผมอยากจะช่วยเหลืออยากให้พวกเค้ามีความสุขมีความพึงพอใจที่มานั่งรอ

ถึงแม้ว่าจะต้องรอถึง 2-3 วันกว่าจะได้เข้าไป เพียงแค่พวกเค้าผ่านตรงจุดคัดกรองทุกคนก็ต่างยิ้มอย่างมีความหวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีถวายพระเพลิงในหลวง ร.9 และมีโอกาสเพียงครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้เห็นริ้วขบวนเสด็จ

พี่มีคำแนะนำอย่างไรบ้างกับประชาชนที่กำลังจะทยอยเดินทางเข้ามาสมทบ

ส่วนหนึ่งผมก็มีความกังวลใจว่าประชาชนเริ่มทยอยกันเข้ามาในพื้นที่มากขึ้นทำให้เกิดความแออัด ผมขอแนะนำว่าพี่น้องประชาชนที่มาชมริ้วขบวนมารับเสด็จอาจจะไม่ได้เข้าไปข้างในแล้วเนื่องจากว่าทุกพื้นที่ข้างในค่อนข้างเต็มแล้ว จึงใคร่ขอให้พี่น้องประชาชนไปวางดอกไม้จันทน์ตามบริเวณที่ทางการจัดให้ซึ่งอยู่ใกล้ๆบ้านของพวกท่านจะดีกว่าครับ

และหากต้องการชมพระราชพิธีถวายพระเพลิงในหลวง ร. 9 แนะนำให้เปิดดูการถ่ายทอดสดทางทีวีจะดีกว่าครับเพราะจะได้ชมทุกมุมทุกส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพระราชพิธี แต่ถ้าพี่น้องประชาชนมาตรงที่บริเวณท้องสนามหลวงนี้อาจจะไม่ได้เข้าไปและไม่ได้เห็นพิธีการทั้งหมดเท่านั้นเอง

และขอย้ำเตือนว่าพี่น้องประชาชนที่มีโรคประจำตัว มีเด็กหรือผู้สูงอายุมาด้วยขอให้เตรียมตัวให้ดีเพราะจิตอาสาที่รู้เรื่องการการปฐมพยาบาลของเรานั้นมีน้อยมากและรถพยาบาลก็ไม่สามารถที่จะออกไปส่งผู้ป่วยได้ทันทวงทีเนื่องจากว่าจราจรติดขัดเคลียร์คนได้ยากมาก

เหตุผลที่ประชาชนทุกคนทนเหนื่อยมารวมกันตรงท้องสนามหลวงคืออะไร

คือพระองค์ท่านครับ ประชาชนทุกคนที่ยอมเหน็ดเหนื่อยอดหลับอดนอน เสียเงินเสียทองเหมารถเหมารามานั่งรอเป็นวันๆ ก็เพื่อพระองค์ท่านในหลวง ร.9 ที่ประชาชนทุกคนรักและเทิดทูนเหนือหัวเท่าชีวิต ไม่มีใครห้ามความรู้สึกนี้ได้เลย นี่คือแผ่นดินไทยที่มีพระเจ้าอยู่หัวชื่อภูมิพล

อีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการทำความดีแบบไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น ไม่มีค่าตอบแทนใดๆ และสิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงรอยยิ้มของผู้รับ แต่สิ่งนี้คือพลังที่ทำให้จิตอาสาทุกคนมีแรงฮึดสู้ทำดีเพื่อสังคมอย่างไม่รู้จัดเหน็ดเหนื่อย