ทำกันได้ลง เภสัชกรสาวยืมเงินเพื่อนไม่คืน 3 ล้าน เจ้าหนี้เดินหน้าแจ้งความ
ทำกันได้ลงคอ เภสัชกรสาวยืมเงินเพื่อนไม่คืน 3 ล้าน ผู้เสียหายเพียบเดินหน้าแจ้งความ
(2 ต.ค.) ผู้เสียหายที่เป็นกลุ่มแพทย์ เภสัชกร และ ข้าราชการ นำหลักฐานเป็นเอกสารข้อความแชทและสัญญากู้ยืมเงิน รวมตัวกันเข้าแจ้งความที่ สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.วัชราภรณ์ อายุ 32 ปี อดีตเภสัชกรในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ลำพูน โดยกลุ่มผู้เสียหายอ้างตรงกันว่าถูก น.ส.วัชราภรณ์ ยืมเงินหลายครั้งและไม่ใช้คืนรวมเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท
นายแพทย์คนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย เผยพฤติกรรมของเภสัชกรหญิงคนนี้ว่าจะใช้โปรแกรมไลน์แชทไปพูดคุยกับเพื่อนและคนรู้จักเพื่อขอยืมเงิน โดยจะเลือกเพื่อนที่เคยเรียนมัธยม มหาวิทยาลัย เพื่อนร่วมงานในโรงพยาบาลที่เคยทำงานมาก่อน รวมทั้งเพื่อนของเพื่อน เพื่อขอยืมเงิน อ้างเหตุผลในการขอยืมเงินกับแต่ละคนต่างกันไป ทั้ง เอาไปลงทุนทำธุรกิจ ปล่อยกู้ ญาติไม่สบาย
ในส่วนของตนเองถูกอ้างว่าขอยืมเงินไปลงทุนทำธุรกิจ ช่วงสองปีที่ผ่านมายืมหลายครั้ง ครั้งละ 3–4 หมื่น ช่วงแรกได้คืน แต่ช่วงหลังเริ่มบ่ายเบี่ยงและไม่จ่าย รวมเป็นเงินกว่า 3 แสนบาท กระทั่งปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้ปิดไลน์ เฟซบุ๊ก และ ปิดเบอร์โทรศัพท์หายตัวไป ส่วนร้านขายยาของ น.ส.วัชราภรณ์ ที่เปิดในอำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ก็ปิดไปแล้วเช่นกัน
ส่วนเภสัชกรหญิงอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ถูกยืมเงินไปหลายครั้ง ที่ให้ยืมเพราะเป็นคนทำงานในวิชาชีพเดียวกันจึงไว้ใจ นอกจากที่การใช้ชีวิตของ น.ส.วัชราภรณ์ ยังดูมีฐานะมีบ้านมีรถ เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ทั้งยังเปิดร้านขายยาของตัวเอง จึงไม่เชื่อว่าจะถูกหลอก โดยตนเองโดนไป 3 แสนบาท และ ยังถูกแอบนำบัตรประชาชนไปปลอมลายเซ็นเป็นผู้คำประกันเงินกู้ จนทำให้ถูกเจ้าหนี้ตามทวงอีก 1 แสนบาท ขณะที่จากการตรวจสอบยังพบว่า น.ส.วัชราภรณ์ ได้ไปเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.วิรยา เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา
นอกจากอ้างเหตุผลขอยืมเงิน กลุ่มผู้เสียหายยังมาทราบภายหลัง น.ส.วัชราภรณ์ ได้ปลอมไลน์ของเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ไปหลอกขอยืมเงินของเพื่อนอีกคนหนึ่ง กระทั่งมาความแตกภายหลัง
ขณะที่ทางด้าน น.ส.จิตสุภา อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ในส่วนของตนนั้นถูก น.ส.วัชราภรณ์ ยืมเงินไปทั้งสิ้น 500,000 บาท ซึ่งสาเหตุที่ให้ยืมไปนั้น เนื่องจากเรียนคณะเดียวกัน และรู้จักมาประมาณเกือบ 10 ปี โดยก่อนหน้านี้ทาง น.ส.วัชราภรณ์ ก็เคยมาติดต่อขอยืมเงินกับตน 2-3 ครั้ง แต่ก็ได้คืนเงินให้ทุกครั้ง กระทั่งมาถึงเงินก้อนนี้ทาง น.ส.วัชราภรณ์ ได้มาติดต่อขอยืมไป 2-3 ครั้ง โดยที่ไม่ได้ใช้ของเดิมคืน ทำให้มียอดรวมกันถึง 500,000 บาท แต่เนื่องจากทางตนไว้ใจประกอบกับ น.ส.วัชราภรณ์ ก็เป็นคนที่น่าเชื่อถือ จึงไม่ได้ทำสัญญากันแต่อย่างใด
จนกระทั่งช่วงหลังๆ ที่ได้ติดต่อทวงเงินไปแต่ก็ถูกพูดบ่ายเบี่ยง ผ่อนผันบ้าง จนสุดท้ายก็ไม่ได้คืน และพอมาถึงช่วงวันที่ 20 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ทางตนก็ไม่สามารถติดต่อกับทาง น.ส.วัชราภรณ์ ได้อีกเลยทั้งทางเบอร์โทรศัพท์ และทางไลน์ของเจ้าตัว นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปพบกับ พ่อแม่ของ น.ส.วัชราภรณ์ ที่บ้าน แต่ทางครอบครัวก็ปฏิเสธที่จะไม่รับผิดชอบกับกรณีที่ลูกสาวได้กระทำมา
นายก่อเกียรติ หนึ่งในผู้เสียหายบอกว่า ยอดเงินที่ตัวเองไม่ได้คืนรวมประมาณ 3 แสนบาท ที่ผ่านมาทวงถามมานานกว่า 4 ปี แต่ก็ยังไม่ได้คืนจึงรวมตัวกับผู้เสียหายรายอื่น ๆ เข้าแจ้งความ โดยล่าสุดมีผู้เสียหายแสดงตัวแล้ว 12 คน และเชื่อว่าจะมีมากกว่านี้