พลทหารเครียด-ร้อนโมโหเด็กอายุ 3 ขวบน้องสาวคู่หมั้นงอแงกระหน่ำเตะท้องจนหมดสติและตายในที่สุด
พลทหารจากร้อยเอ็ดไปปฏิบัติราชการที่ภาคใต้ กลับมาพักที่บ้านคู่หมั้น เครียดโมโหสุดขีดเด็กอายุ 3 ขวบน้องสาวคู่หมั้นร้องไห้งอแงทนไม่ไหว กระหน่ำแตะจนสลบก่อนตายในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (23 มี.ค.2552 ) พ.ต.ท.วีรชัย พุดหล้า พงส.(สบ.3) นำกำลังไปจับกุมตัว พลทหารคมสัน โยธาจันท์ (โอ) อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 11 ชาวบ้านหนองตากล้า ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ได้ที่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 6 บ้านมลชัยศรี ต.อุ่มเม่า อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด มาสอบสวนปากคำ และดำเนินคดี
หลังจาก ได้รับแจ้งจาก นางคำใหม่ โฮมแพน อายุ 42 ปี ว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2552 ตนเอง ได้นำ ด.ญ.ศิรินภา (หรือน้องแพนด้า )โฮมแพน อายุ 3 ปี บุตรสาวคนเล็ก มีอาการฟกช้ำตามร่างกาย นำส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด และต่อมา เวลา 09.30 น.วันที่ 23 มี.ค. นี้ ปรากฏว่านำ ด.ญ.ศิรินภา (หรือน้องแพนด้า )โฮมแพน อายุ 3 ปี บุตรสาวคนเล็ก ซึ่งรักษาตัวที่รพ.ร้อยเอ็ดว่าเด็กเสียชีวิตจากสาเหตุ จากร่างกายที่ถูกทำร้าย จนมีรอยฟกช้ำทั้งตัว และสงสัยตั้งแต่ต้นว่า พลทหาร คมสัน จะเป็นคนทำ แต่ไม่มีหลักฐาน และเมื่อสอบถามก็อ้างว่าเด็กหกล้มเอง และจนกระทั่งเมื่อลูกสาวของตนเสียชีวิตไปแล้ว จึงทราบจากนายสุริยันต์ โมขรัตน์ ว่าเห็นเหตุการณ์ พลทหารคมสันเตะเด็กตัวน้อยเหมือนลูกฟุตบอล จนกระทั่งไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ซึ่งจากการสอบสวนปากคำ พลทหารคมสันก็ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านั้น ตนเองเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารกองประจำการที่ ร.16 พัน 1 จังหวัดร้อยเอ็ดผลัดที่ 1 เมื่อปี 2550 ก่อนจะถูกส่งตัวไปปฏิบัติการชุดเฉพาะกิจที่ 2 จ.ปัตตานี และเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2551 ได้ถูกโจรก่อการร้ายวางระเบิดมีทหารได้รับบาดเจ็บจำนวนทั้งสิ้น 7 นาย และตนเองถูกสะเก็ดระเบิดที่โคนขาซ้ายและขวา ต้องเย็บกว่า 50 เข็ม ทางผู้บังคับบัญชาจึงให้เข้ามาพักรักษาตัวต่อที่บ้านเตรียมปลดประจำการในเดือน พ.ค.นี้ และได้มารู้จักกับนางสาวอำภา โฮมแพน พี่สาวของเด็กหญิงเคราะห์ร้าย และเป็นคู่หมั้นกัน และมาพักที่บ้านของฝ่ายหญิง ก่อนเกิดเหตุขณะพ่อและแม่ของเด็กหญิงเคราะห์ร้ายไม่อยู่บ้าน พลทหารคมสันและคู่หมั้นได้พา ด.ญ.ศิรินภาไปนั่งเล่นกอไผ่ ท้ายบ้าน ปรากฏว่าน้องสาวคนเล็กอายุ 3 ขวบ เกิดการอาเจียน จึงฝากน้องไว้กับพลทหารคมสัน แล้วไปหายามาให้น้องกิน เมื่อกลับมาปรากฏว่าน้องสาว ได้รับบาดเจ็บจนไม่ได้สติ สอบถามคู่หมั้นอ้างว่า เกิดจากการวิ่งเล่นหกล้มจนหมดสติ จนต้องนำส่งโรงพยาบาลจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนปากคำ พลทหารคมสันให้การรับสารภาพว่า ไม่พอใจที่ ด.ญ.ศิรินภางอแง ตามประสาเด็ก พูดไม่รู้เรื่อง ประกอบกับอากาศร้อนมาก จึงเกิดความโมโหสุดขีด ลุกขึ้นเตะที่หน้าท้องอย่างแรง 1 ครั้ง และเตะซ้ำอีกหลายจุดด้วยความโมโหและคิดว่าไม่มีใครเห็น เมื่อเรื่องมาแดงขึ้นเพราะคำบอกเล่าของเพื่อนบ้านที่แอบเห็นตนทำร้ายน้องสาวคู่หมั้นจนเสียชีวิต จึงยอมเปิดปากรับสารภาพ จึงบันทึกปากคำไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อไป
