พิษรักขม หนุ่มหึงโหดยิงปลิดชีวิตเมียสาว หนีไปผูกคอตายตาม

พิษรักขม หนุ่มหึงโหดยิงปลิดชีวิตเมียสาว หนีไปผูกคอตายตาม

พิษรักขม หนุ่มหึงโหดยิงปลิดชีวิตเมียสาว หนีไปผูกคอตายตาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สามีหนุ่มตามง้อขอคืนดีเมียสาวไม่สำเร็จ จ่อยิงใส่หัวเสียชีวิตคาที่ ก่อนหนีไปผูกคอเสียชีวิตอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กฯ กลายเป็นปมสลดของความรัก

(7 พ.ย.) ร.ต.อ.สยุมพร อินทะเรืองศร ร้อยเวร สภ.เก้าเลี้ยว อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ ได้รับแจ้งคนใช้อาวุธปืนยิงและมีผู้เสียชีวิต อยู่บริเวณเส้นทางเข้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลมหาโพธิ หมู่ 2 ต.มหาโพธิ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน หน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลเก้าเลี้ยว

ที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.สุวิมล อายุ 29 ปี เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ มีรอยบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะด้านหลัง 1 แผล และในที่เกิดเหตุยังพบรถกระบะมิตซูบิชิ สีขาว และอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อนอริงโก้ของจีน ไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่บนพื้นถนนอีก 2 ปลอก จึงเก็บไว้ตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังไล่ล่าติดตามตัวคนร้าย ซึ่งทราบว่าเป็นสามีของผู้ตาย คือ นายกิติพงษฺ์ อายุ 37 ปี หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลมหาโพธิ ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 300 เมตร

จนกระทั่งมาพบว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้เสื้อยืดคอกลมสีดำที่สวมใส่ ใช้ผูกกับเหล็กดัดหน้าต่างอาคารของศูนย์ดังกล่าว เสียชีวิตไปตามอีกคน

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่มีการชันสูตรตรวจสอบศพ บิดาของ น.ส.สุวิมล ได้เดินทางมาดูศพบุตรสาว พร้อมกับให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน โดยฝ่ายชายเป็นชาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มาแต่งงานอยู่กินกับบุตรสาวของตน และยึดอาชีพเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งอยู่ในพื้นที่ อ.เก้าเลี้ยว มานานหลายปีแล้ว

แต่ในระยะหลังๆ นายสุชาติ มักจะมีปากเสียงทะเลาะกับบุตรสาว เพราะเรื่องหึงหวงเป็นประจำ ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ตนต้องตัดสินใจพาบุตรสาวหนีไปฝากไว้กับพี่สาวที่ จ.ชัยภูมิ อยู่นานนับสัปดาห์ ก่อนหน้านี้ช่วงก่อนวันลอยกระทง นายกิติพงษฺ์ ได้เข้ามาขอโทษและรับปากว่าจะไม่ทำอย่างที่ผ่านมาอีก โดยขอให้พาภรรยากลับมา ตนก็รู้สึกเห็นใจจึงยอมพาบุตรสาวกลับมา แต่ให้ไปอยู่ด้วยกันได้แค่ 2 วัน ก็มาเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่นำศพผู้เสียชีวิตทั้งคู่ส่งไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีก่อนจะมีการมอบศพคืนให้กับญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook