เพื่อนสื่อช็อก อดีตนักข่าวสาวหายหน้า 5 เดือน ที่แท้ติดคุก

อดีตผู้สื่อข่าวสาวหายหน้า 5 เดือน ที่แท้ต้องโทษในเรือนจำ เพื่อนสื่อช็อกไม่มีใครรู้เรื่องมาก่อน ครอบครัววอนช่วยเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม

(5 พ.ย.) เฟซบุ๊ก จตุรงค์ สุขเอียด นักข่าวชื่อดัง โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ นางสาวณัฐชา อดีตผู้สื่อข่าวสาว ที่ตอนนี้ต้องโทษจำคุกอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์ ในข้อหาสนับสนุนพยายามฆ่า โดยครอบครัวของเธอแจ้งข่าวมายังนายจตุรงค์เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจาก น.ส.ณัฐชาไม่ได้มีความผิด แต่ต้องรับโทษอย่างไม่เป็นธรรม

"รัตติ้ว หรือ รัตน์ เป็นอดีตผู้สื่อข่าวไอทีวีและสปริงนิวส์ เขาเป็นน้องคนหนึ่งของผม วันนี้แม่ น้อง และแฟน บอกว่า เขาให้บอกผมว่า เขาเป็นแพะถูกปรักปรำ ต้องโทษจำคุก 6 ปีกว่า ติดคุกมาแล้ว 5 เดือน ไม่มีใครรู้ เพราะก่อนหน้านี้ มีคดีว่ากับน้องชายพยายามฆ่าคู่กรณี ที่พิพาทที่ดินมานาน เขากลับบ้านเยี่ยมแม่พอดีตอนน้องชายกับคู่กรณีทะเลาะกันแล้วยิงปืนไปที่ขาคู่กรณี เขาอยู่ด้วย จึงถูกฟ้องสนับสนุนพยายามฆ่า ด้วยไม่คิดว่า คดีตัวเองมีมูล ก็ไม่เคยบอกหรือขอความช่วยเหลือจากองค์กรหรือผู้ใหญ่ ให้เสียจริยธรรมนักข่าว

ที่สุดศาลเชื่อปากคำคู่กรณี จึงต้องโทษจำคุกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เธอร้องไห้ทุกวัน จนวันนี้บอกแฟนว่า ให้เอาพาสเวิร์ดเฟชบุ๊คเขามาแจ้งผม ทีแรกคิดว่า ถูกแกล้ง จนตัดสินโทรกลับ จึงทราบ ถ้ารัตน์ไม่ใช่คนที่เรารู้ว่าพื้นฐานเขาเป็นอย่างไร ก็ไม่รู้สึกแย่อย่างนี้ หลายวันความคิดสุดท้ายก่อนนอนคือ งานในสวนที่เราอยากเอาไปฝัน แต่คืนนี้ก็เป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้ ผมขอแจ้งเพื่อนในวงการข่าวไว้ตรงนี้ ว่า ตอนนี้ เธอ ติดคุกที่ประจวบฯมา 5 เดือนแล้ว เพื่อได้หาว่า แล้วความจริงที่เป็นธรรมทั้งสองฝ่ายคืออะไรกันแน่ครับ ภาพที่ไล่ดูในเฟช ก็อัพล่าสุดเดือนพฤษภาคม ก่อนไปศาล ไม่มีท่าทีว่ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ เบอร์แฟนเขาเผื่อเพื่อนนักข่าวจะขอข้อมูลครับ"

นอกจากนี้ เพื่อนของน.ส.ณัฐชา ได้ระบุว่าเมื่อได้ทราบข่าวก็ตกใจ เพราะผู้สื่อข่าวสาวไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง เพื่อนๆพยายามติดต่อ เดินทางไปหาถึงบ้านที่ประจวบฯ แต่แม่ของณัฐชาบอกว่าไปเปิดร้านอาหารกับน้องชาย ถ้ากลับมาจะให้ติดต่อกลับ ซึ่งผ่านไป 5 เดือน ไม่มีใครทราบเคยว่าแท้ที่จริงแล้วเธอต้องโทษอยู่ในเรือนจำ 

สำหรับคดีนี้ นายสุรไกร น้องชายของน.ส.ณัฐชา ให้ข้อมูลว่า กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2556 นายสุชาติ พี่ชายตนได้ทะเลาะกับคู่กรณี ซึ่งเป็นญาติกันเรื่องที่ดินที่เป็นข้อพิพาท ระหว่างนั้น นายสุชาติได้ยิงปืนไปที่คู่กรณีรวม 3 นัด ทำให้ได้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 ราย เป็นจังหวะเดียวกับที่ น.ส.ณัฐชา และตนวิ่งไปถึงที่เกิดเหตุพอดี แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อมา นายสุชาติถูกดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งนายสุชาติรับสารภาพและไม่สู้คดี

ถัดมาอีก 2 เดือน คู่กรณีได้มาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับตน และ น.ส.ณัฐชา อ้างว่า น.ส.ณัฐชา เป็นผู้บงการให้ นายสุชาติ ยิง โดยตะโกนว่า ยิงเลยๆ แต่ในชั้นอัยการมีความเห็นไม่ฟ้องตน ส่วน น.ส.ณัฐชา ได้ปฏิเสธและสู้คดีมาตลอด อีกทั้งมีพยานบุคคลที่ทางบ้านว่าจ้างมาปักรั้วลวดหนามทำแนวเขต ยืนยันในชั้นตำรวจว่าไม่ได้ยิน น.ส.ณัฐชา พูดว่ายิงเลยๆ ต่อมาศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุก น.ส.ณัฐชา 6 ปี 8 เดือน ส่วนนายสุชาติถูกจำคุก 10 ปี ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา และศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จากนั้นถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา