น้องชายนักข่าวสาว เผยเรื่องราวพี่สาวตั้งแต่เกิดคดีจนกระทั่งติดคุก

น้องชายนักข่าวสาว เผยเรื่องราวพี่สาวตั้งแต่เกิดคดีจนกระทั่งติดคุก

น้องชายนักข่าวสาว เผยเรื่องราวพี่สาวตั้งแต่เกิดคดีจนกระทั่งติดคุก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่องราวของ น.ส.ณัฐชา หรือ รัตติ้ว อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวสปริงนิวส์ และอดีตพิธีกรรายการสปริงนิวส์อาสา ที่อยู่ๆ หายหน้าหายตาไปจากหน้าจอ และเพื่อนฝูงในวงการข่าวเกือบ 6 เดือน รู้อีกทีเล่นเอาเพื่อนๆ ในวงการช็อกไปตามๆ กัน เพราะขณะนี้เธอต้องโทษอยู่ในเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 6 ปี 8 เดือน ในข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า โดยเรื่องราวของเธอถูกเผยแพร่ ผ่านเฟซบุ๊ก จตุรงค์ สุขเอียด นักข่าวรุ่นพี่ชื่อดัง ที่มีความเชี่ยวชาญข่าวสืบสวนสอบสวน ที่ได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจากแฟนหนุ่มของเธอ อ่านรายละเอียดข่าวเพิ่มเติม

เพื่อตอบคำถามว่าระหว่างที่สู้คดีตั้งแต่ปี 2556 ทำไมเธอไม่ปรึกษาเพื่อนร่วมงาน ที่อาจจะช่วยเหลือกันได้ให้ทราบเรื่องเลยแม้แต่น้อย Sanook News จึงสอบถามไปยัง นายสุรไกร น้องชายคนเล็กของ น.ส.ณัฐชา ซึ่งเขาอยู่ในวันเกิดเหตุยิงกันด้วย ก็ได้ความว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา พี่สาวของตน และครอบครัว มั่นใจในความบริสุทธิ์มาโดยตลอด และเห็นว่าคดีไม่มีมูลความจริง จึงไม่จำเป็นจะต้องบอกให้ใครทราบ กรอปกับระหว่างสู้คดีคุณพ่อป่วยหนัก กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง จึงทำให้พี่สาวใช้เวลาส่วนมากใส่ใจกับการรักษาดูแลคุณพ่อ มากกว่าเรื่องของตัวเอง จนสุดท้ายคุณพ่อเสียชีวิตไปเมื่อปี 2558

393190

นายสุรไกร ยังเปิดเผยว่า ทุกครั้งเวลาที่ศาลนัดพี่สาวไม่เคยผิดนัด จนวันที่ศาลฎีกามีคำตัดสิน วันนั้น น.ส.ณัฐชา และทุกคนในครอบครัว ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีคำตัดสินแบบนี้ เพราะทนายก็ให้ความมั่นใจว่าไม่มีความผิดแน่นอน อีกทั้งตัวพี่สาวของตนเองก็ทำรายการสปริงนิวส์อาสา ที่ใกล้ชิดกับกระบวนการยุติธรรม ช่วยเหลือคนมาตลอด จึงเชื่อว่าจะต้องได้รับความยุติธรรม แต่วันนั้นเมื่อคำตัดสินออกมาทุกคนต่างตกใจ ไม่มีใครพูดอะไรกัน ได้แต่ร้องไห้กันทั้งครอบครัว เขาบอกว่าวันนั้น คุณแม่ นางเรียม พูดเพียงว่า เข้มแข็งนะลูก

ตลอดเวลาที่ น.ส.ณัฐชา อยู่ในเรือนจำ น้องชายของเธอบอกว่า พี่สาวยังยืนยันว่าไม่อยากบอกให้ใครทราบ ช่วงแรกๆ ที่ไปเยี่ยมพี่สาวยังร้องไห้และปรับตัวไม่ได้ แต่ช่วงหลังมานี้พี่สาวก็เข้มแข็งขึ้น แต่จริงๆ เชื่อว่าพี่ยังทำใจไม่ได้อย่างที่พยายามแสดงออก นายสุรไกร บอกว่า "เชื่อว่าพี่ห่วงเรื่องหน้าที่การงาน และภาพลักษณ์ขององค์กรด้วย และตั้งแต่ต้องเข้ามาอยู่ในคุก ก็รู้แล้วว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และก็ยอมรับสภาพ"

นายสุรไกร ยอมรับว่าที่ผ่านมาที่บ้านอึดอัดใจที่ไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครทราบได้ แต่เมื่อนักข่าวสาว ตัดสินใจฝากแฟนหนุ่มใช้เฟซบุ๊กของเธอติดต่อนักข่าวรุ่นพี่ ก็ทำให้ครอบครัวเบาใจลง และกำลังยื่นเอกสารเพิ่มเติม และรอผลต่อไป หลังจากเมื่อวานนี้ได้นำหลักฐานยื่นต่อ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อรื้อฟื้นคดีอาญาที่เกิดขึ้น โดยในวันพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงครอบครัวจะเดินทางไปเยี่ยม น.ส.ณัฐชา เป็นครั้งแรกหลังจากที่เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผย

584717

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook