“ไทด์” ซัด “คิตตี้” เมียกิตติ ดัสกร ต้องพูดความจริง อย่าใส่หน้ากาก
รายการ “โหนกระแส” ได้นำเสนอกรณีดราม่า “คิตตี้ ศศิประภา” ซึ่งอ้างตัวเป็นลูกสาว เป็นหลานอดีตดาวร้าย “กิตติ ดัสกร” ออกมาโพสต์ข้อความขอเงินบริจาคช่วยเหลือนักแสดงรุ่นใหญ่ ก่อนจะถูกชาวเน็ตแฉว่าแท้จริงแล้วเป็นภรรยา และสงสัยในเรื่องเงินบริจาคว่าอยู่ที่ไหน
“หนุ่ม กรรชัย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.30 - 21.00 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์เจ้าตัว พร้อม “ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” หัวหน้าอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เข้าไปดูแลช่วยเหลือ และ “คุณอภินันท์ รัตนะวิศ” ซึ่งเป็นประธานหมู่บ้านผู้เห็นเหตุการณ์และยืนยันว่าคิตตี้ยังอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวด้วย
ตกลงคุณเป็นอะไรกันแน่?
คิตตี้: “เคยเป็นเมียค่ะ”
แล้วเกี่ยวอะไรกับการออกมาบอกว่าเป็นหลาน?
คิตตี้: “เพราะหนูจะเลิกกับแกแล้วค่ะ”
ตอนแรกบอกว่าเป็นลูก แล้วออกมาบอกว่าเป็นหลาน เพื่ออะไร?
คิตตี้: “หนูต้องการแค่เพียงช่วยแกค่ะ รูปที่ลงก็เพื่อเอาเงินไปช่วยแกค่ะ”
ทำไมไม่บอกความจริง?
คิตตี้: “เราเลิกรากันไปแล้วค่ะ เลยบอกว่าเป็นหลานเป็นลูก เพื่อให้คนมาบริจาคช่วยแก แต่ที่ออกมายอมรับว่าเป็นเมียเพราะมีคนเปิดโปงค่ะ มีลูกด้วยกัน 2 คนค่ะ คนแรก 10 ขวบกับ 3 ขวบ คนโตเป็นผู้หญิง ชื่อน้องปิ๊ก คนเล็กชื่อน้องเปรม”
ก่อนหน้านี้คุณกิตติเป็นอะไร?
คิตตี้: “เพราะทะเลาะกันค่ะ หนูบอกว่าหนูเจอคนที่ดีแล้ว หนูไม่อยากอยู่กับป๋าแล้วนะ หนูไม่อยากถูกทำร้ายอีกแล้ว ปล่อยหนูไปเถอะ(ร้องไห้) หนูพูดกับเขาวันที่ 1 ต.ค. ปี 60 ทะเลาะกันค่ะ”
ไหนก่อนหน้านี้ เคยบอกว่าแยกกันอยู่ เลิกกันไปนานแล้ว?
คิตตี้: “เลิกไป 2 ปีค่ะ แต่ปี 60 มาเจอกันอีก แกรู้ว่าหนูมีคนใหม่ มีคนไปบอกแก หนุเลยบอกว่าปล่อยหนูไปเถอะ หนูไม่อยากอยู่กับแกแล้ว”
ตลอดระยะเวลาอยู่ที่หมู่บ้านนี้?
คิตตี้: “แวะเวียนไปหาค่ะเขาอยากให้หนูกลับมาคืนดีด้วย หนูบอกว่าปล่อยหนูไปเถอะ หนูไม่อยากถูกทำร้าย ถูกทุบตี เขาก็หมดสติ เป็นลมไปค่ะ”
ก่อนหน้านั้นขับรถตกคลอง?
คิตตี้: “หนูอยู่ในเหตุการณ์ค่ะ คนละวันกัน แกมีอาการสลึมสลือแล้วก็ตกคลอง ไปรับหลาน หลานๆ ก็อยู่ในรถ พอหลังจากนั้นหนูบอกว่าหนูจะเอาลูกไปอยู่หัวหินแล้ว เขาบอกว่าเขาไม่ให้ หนูบอกว่าหนูจะรับผิดชอบเอง ไม่อยากเวียนมาหาแกแล้ว แต่แกไม่ยอม”
เงินที่ได้จากการบริจาคอยู่ที่ไหน?
คิตตี้: “บัตรเอทีเอ็มอยู่ที่หนูค่ะ ไม่ได้เบิกค่ะ ถ้าจะพิสูจน์ก็ได้ค่ะ”
มีคนบริจาคเข้ามามั้ย?
คิตตี้: “ไม่ทราบค่ะ”
ไม่ถอนเงินมาให้คุณกิตติใช้เหรอ?
คิตตี้: “หนูไม่รู้หมายเลขบัญชีแกค่ะ หนูไม่รู้รหัสเอทีเอ็มแก”
แต่โพสต์ขอเงินบริจาคให้คนมาบริจาค?
คิตตี้: “หนูรู้หมายเลขบัญชี แต่ไม่รู้เอทีเอ็ม วันนี้แกยังไม่ได้ใช้ เพราะมีคนเอาเงินมาช่วยเหลือแกที่บ้าน เอทีเอ็มหนูจะให้แกเก็บไว้ค่ะ ตอนนี้แกป่วยอยู่ ไม่อยากให้แกเก็บไว้ เดี๋ยวบัตรหายไป เรื่องอื่นๆ หนูก็ไม่กล้าไว้ใจ รอให้แกหายแล้วค่อยให้บัตรแก”
ชาวบ้านเขายืนยันว่าคุณอยู่บ้านหลังนั้น หลายปี ไม่ได้ไปไหน?
คิตตี้: “อยู่ แต่ไม่ได้ตลอด เอาลูกมาเยี่ยมแก มีนอนบ้างค่ะ แต่นอนคนละห้อง ไม่ได้นอนห้องเดียวกับแก”
แต่บ้านหลังนั้น สภาพที่ไทด์ เอกพันธ์ไปในวันนั้นเหมือนมีแต่กองขยะ?
คิตตี้: “แกหอบสมบัติมาจากโคราช ตอนที่เลิกกันแล้ว ที่เห็นเป็นกองขยะๆ นั่นแหละค่ะ”
สภาพที่ไปเห็น คุณไทด์ยืนยันว่าเป็นคุณกิตตินอนอยู่ใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ตัวเดียว?
คิตตี้: “หนูซื้อเสื้อให้แล้ว แต่แกให้เด็กถอดออกให้”
ทำไมไม่พาไปแกไปทำกายภาพ?
คิตตี้: “ไปไม่ไหว เพราะหนูไม่มีแรงพอ แกลุกขึ้นไม่ได้เลย ไม่มีแรงพอพยุง”
ชีวิตทำได้อย่างเดียวคือขอยอดเงินบริจาค?
คิตตี้: “ยินดีคืนให้ค่ะ หนูแค่อยากให้เพื่อนในเฟซช่วย แต่ไม่คิดว่าเขาจะเอามาออกทีวี หนูต้องการแค่ให้เฉพาะเพื่อนหนูรู้ ไม่คิดว่าเรื่องมันจะมาใหญ่ขนาดนี้ แค่อยากให้เพื่อนช่วย 300-500 แค่นั้นเอง”
มีเด็กคนนึงที่คุณไทด์ไปช่วยเหลือ แล้วไปอยู่อีกห้อง สภาพนอนหมดเรี่ยวแรง มีบาดแผลที่ขา?
คิตตี้: “เด็กคนนั้นเป็นลูกหนูค่ะ หนูออกไปซื้อข้าวต้มให้คุณอาค่ะ แล้วหนูกลับมาที่บ้าน ตอนออกไปยังไม่บาดเจ็บค่ะ ออกไปประมาณครึ่งชม. กลับมาลูกบาดเจ็บ คุณไทด์เข้ามาไม่นานเท่าไหร่ น่าจะประมาณ 10 นาที”
บาดแผลน้องเท่าที่หมอวิเคราะห์ หมอบอกว่าบาดเจ็บมาหลายชั่วโมงแล้ว ไม่ใช่แค่ครึ่งชั่วโมง จนเลือดแห้งไปแล้ว เด็กนอนซมไปเลย เด็กอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง?
คิตตี้: “หนูบอกพี่ไทด์ว่าเดียวจะพาไปรพ.เองแต่พี่ไทด์บอกว่าไม่ต้อง เดี๋ยวแกพาไปเอง หนูจะไปแต่ว่าเขาไม่ให้ไป เขามาหลังหนูไม่กี่นาทีเองค่ะ หนูจะพาไป แต่เขาไม่ให้พาไป เด็กไม่ได้บาดเจ็บก่อนหนูออกไปค่ะ กลับมาถึงเห็นเขาเจ็บ ไม่ใช่อย่างหมอพูดค่ะ”
มีข่าวว่าคุณต้องกินยาระงับอาการเครียดหรือไปรักษาที่ รพ.จิตเวชแห่งหนึ่ง?
คิตตี้: “หนูไม่เคยกินค่ะ ไม่มีค่ะ หนูแค่โพสต์ในเฟซเล่นๆ ค่ะ ไม่เคยไป สามารถพิสูจน์ได้เลย ไปเช็กได้เลย”
เรื่องชอบตีลูกแรงๆ หนักๆ?
คิตตี้: “หนูตีนิดเดียว ไม่ได้ตีหนัก แต่พ่อเขาเป็นคนตีหนักค่ะ คนเห็นก็ยอมรับค่ะ ตีสั่งสอนเด็ก ตีลูกสาว 10 ขวบค่ะ”
คุณไทด์ เมื่อวานได้เจอแล้ว?
ไทด์: “เจอทุกวันครับ (หัวเราะ) เพราะช่วงนี้อยู่บ้านคุณกิตติ”
ย้อนกลับมาถามเรื่องคุณกิตติ ตกลงเป็นอะไรกันแน่?
ไทด์: “แกประสบอุบัติเหตุ เบาหวานขึ้นตา ขับรถไปรับลูกที่โรงเรียน สายตาแกก็พร่ามัว แกก็มองเห็นรั้วสังกะสีบ้านคนอื่นเป็นถนน แกก็ขับตู้มเข้าไป รถก็ตกคลอง แกเล่าให้ฟังว่าประมาณปลายเดือนกันยายน ตอนแรกไม่เจ็บไม่ปวดอะไร แกก็ไม่ไปหาหมอ จะเอารถขึ้นมาก็ไม่ได้เพราะเจ้าของบ้านให้จ่ายค่าเสียหาย แล้วก็ไม่มีสตางค์ ก็ไปขอยืมคนโน้นคนนี้มา รู้สึกต้องจ่าย 5 พัน แล้วเขาก็กลับมาอยู่บ้านไทรน้อยของเขา"
"เรื่องน้องเขาจะเล่าอะไรสังคมไม่มีใครรู้เขารู้กันแค่สองคน เขาจะเล่าอะไรเราไม่มีใครรู้เห็น ทีนี้สิ่งที่ผมรับรู้คือพี่ปื้ดแกป่วยแล้ว เราต้องดูแลพี่ปื้ด ไปสะสางเรื่องบ้าน ความเป็นอยู่ ชีวิตและลูกๆ แก ทีนี้ผมเจอน้องครั้งแรกที่บ้าน เขาบอกว่าเขาเป็นหลาน ผมก็โอเค เป็นหลาน พี่ปื้ดป่วย ทำไมถึงไม่มีใครดูแล เขาบอกเขาเป็นหลาน ไม่สามารถดูแลพี่ปื้ดได้ เพราะเขาไม่มีเวลา เขาต้องทำงานหาเงินมาเลี้ยงลูก ทีนี้ใครดูแลพี่ปื้ด เขาบอกว่าเขาเป็นคนดูแล ปล่อยให้พี่ปื้ดนอนอยู่ในห้อง มีข้าวเหนียวบ้าง มีข้าวอะไรก็แล้วแต่ให้เขากิน มีนมกล่อง"
"สิ่งที่ผมเห็นที่เข้าไปตอนแรก ถ้าเขาบอกว่าเขาเป็นภรรยาก็โอเค จะได้ดำเนินเรื่องอีกอย่างหนึ่งแต่เขาไม่ได้บอกว่าเป็นภรรยา แล้วพี่ปื้ดก็มาบอกว่าเป็นเมียแต่ไม่ยอมบอกว่าเมีย ผมก็ถามพี่ปื้ดว่าทำไมเหตุผลเพราะอะไร ถ้าผมช่วยพี่ปื้ดสังคมก็ต้องถามผมเรื่องความจริง ผมก็ต้องพูดความจริง ว่าใครดูแล พี่ปื้ดอยู่กับใคร ทำไมสภาพบ้านเป็นขยะอย่างนี้ ทุกคนก็อยากรู้จากผม ขอให้พี่ปื้ดพูดความจริง เขาเลยพูดมาว่านี่คือภรรยา”
จริงๆ แล้วพี่ปื้ดพูดเอง?
ไทด์: “ใช่เพราะทุกอย่างต้องโปร่งใส จะไม่มีการใส่หน้ากากให้กันอีกแล้ว มาถึงขนาดนี้แล้ว ส่วนน้องคิตตี้เขาก็บอกว่าเขาไปๆ มาๆ”
คิตตี้: “ประมาณ 2 ปีค่ะ เมื่อก่อนเคยอยู่กับแก แต่ตอนหลังก็บอกว่าขอให้ไปเจอคนใหม่ดีกว่า ลูกก็อยู่กับหนูแต่ไปอยู่กับแกบ้าง”
ประธานหมู่บ้าน : “น้องบอกว่าไม่อยู่บ้าน แต่พี่เห็นอยู่ที่นั่นทุกวัน ทุกวัน คุณคิตตี้ก็อยู่”
ไทด์: “ชาวบ้านไม่ใช่พี่ดำคนเดียว หลังต่อไปๆ เขาก็เห็นน้องตื่นเช้าพาลูกไปส่ง รพ.ทุกวัน หนูมาเยี่ยมตอนเช้าเหรอ”
คิตตี้: “ไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันค่ะ หนูอยากอยู่ของหนู แต่ต้องแวะเวียนมาดูลูก เพราะมีพันธะอยู่ด้วยกัน”
ลูกอยู่ยังไง พ่อนอนอัมพฤกษ์?
ไทด์: “พี่ดำเคยเล่าให้ฟังว่าเขาออกจากบ้านไปส่งลูกตอนเช้า ค่ำๆ ก็กลับมา พี่ปื้ดอาการเป็นอย่างนี้ แล้วเด็กอยู่ยังไง”
คิตตี้: “หนูทำงานด้วยค่ะ”
สรุปไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้น?
คิตตี้: “อยู่ค่ะ แต่ไม่ได้อยู่ทุกครั้ง”
ไทด์: “น้องคิตตี้อยู่แต่วันไหนที่ไปทำงานก็ไม่ได้อยู่ตลอดทั้งวัน แต่อาศัยหลับนอนที่นี่”
คิตตี้: “แต่ไม่ได้นอนกับแก อยู่คนละห้องกัน แต่อยู่ในบ้านหลังนั้น ไม่ได้ทุกวัน บางวันก็ออกไปอยู่ที่อื่น พอช่วงอาปื้ดป่วยก็มาอยู่ทุกวัน”
ทำไมปล่อยให้ใส่แพมเพิร์สแค่ตัวเดียวคุณคิตตี้บอกว่าซื้อให้แล้วแต่แกไม่ใส่?
ไทด์: “ผมไม่เห็นเสื้อผ้าพี่ปื้ดแม้แต่ตัวเดียว ผมถามแกว่าทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า แกบอกว่าอยากใส่ แต่ให้แกใส่แพมเพิร์ส แล้วใส่ไม่เป็นใส่แล้วหลุด เหมือนไม่เต็มใจที่จะใส่ให้แก ผมไปเอาเสื้อที่แกแขวนไว้นานมาก มาปัดฝุ่นใส่ให้แกเอง แกไมมีเสื้อผ้า”
กองขยะเขาบอกว่าเป็นสมบัติ?
ไทด์: “ในห้องที่ผมเข้าไป มีอุจจาระ ปัสสาวะ”
คิตตี้: “หนูเก็บค่ะ แต่เด็กรื้อออกมาค่ะ”