นายแพทย์ บิ๊กสธ. ยอมรับผิด ขับรถชนรปภ.ลากไปไกล อาการโคม่า
โลกออนไลน์แชร์คลิปกล้องวงจรปิด รปภ.ถูกรถเก๋งชน ซ้ำลากร่างไปไกลประมาณ 50 เมตร ซึ่งรถคันดังกล่าวได้จอดดูสักพัก แต่ไม่มีคนลงมาดูผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยระบุข้อความว่า...
"คนสาธารณสุขขับรถทับยามปางตาย. จากการเยี่ยม รปภ.สมชาย ยามดี ที่ รพ.พระนั่งเกล้า ห้อง ICU จัดให้อยู่ห้องเดี่ยว อาการ มีเลือดออกสมอง เล็กน้อย กระดูกโหนกแก้มและกรามด้านซ้ายแตก แพทย์รอดูอาการทางสมองก่อน 3 วันหากสมองไม่บวมไม่ต้องผ่าตัด ผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัว ดิ้นบางครั้งมัดมือเท้าไว้ให้ออกซิเจนทางปากใบหน้าซีกซ้ายบวม หลังจากอาการทางสมองดีขึ้นจะทำการผ่าตัดโหนกแก้มและกราม ตาด้านซ้ายซ้ำรอหมอตามาดูวันจันทร์ก่อนว่ามีผลกับตาด้วยหรือไม่ ให้ยาแก้อักเสบยาฆ่าเชื้อ ยาละลายเลือดทางสายน้ำเกลือ"
ล่าสุด (13 พ.ย.) ที่ ร.พ.พระนั่งเกล้า พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำ นพ.ยอร์น สาธารณสุขนิเทศก์ แพทย์ที่ขับรถชน นายสมชาย รปภ.กระทรวงสาธารณสุข บาดเจ็บอาการสาหัสและรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู
โดย นพ.ยอร์น ระบุว่า วันเกิดเหตุขับรถเข้ามาบริเวณกระทรวงสาธารณสุขในช่วงเวลาค่ำ เพราะต้องการทะลุผ่านไปออกซอยอัคนี ซึ่งเป็นอีกด้านของกระทรวงสาธารณสุข แต่เส้นทางนี้ไม่ได้เป็นเส้นทางประจำในการขับรถ แต่ถ้าอธิบายจะเป็นเรื่องแก้ตัว เพราะประตูที่ปิดและบริเวณนั้นมืด ทำให้มองไม่เห็น ซึ่งรถคันหน้าตนได้ขับเข้าไปก่อน เมื่อตนขับแล้วเกิดเหตุแอร์แบคก็ระเบิด ตนจึงหยุดรถ ซึ่งในรายละเอียดในส่วนเหล่านี้จะให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยันไม่ได้ขับรถมาเร็ว แต่ไม่แน่ใจว่าความเร็วเท่าไร ยืนยันว่าตนได้จอดรถและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ไม่ได้เป็นการชนแล้วหนีแต่อย่างใด ส่วนที่ว่าชนแล้วทำไมรถยังเคลื่อนต่อไปข้างหน้านั้น ตนตอบไม่ได้จริงๆ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การชนแล้วหนี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะขับรถได้ดื่มเครื่องอื่มแอลกอฮอล์มาก่อนหรือไม่ นพ.ยอร์น กล่าวว่า ตนได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจแล้ว ซึ่งเรื่องในส่วนที่เป็นคดีขออนุญาตให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ตนคิดว่าขับรถชนประตู ไม่ทราบว่าชนคน จนกระทั่งมีคนตะโกนบอก หลังจากนั้นจึงหยุดรถและให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ให้รถฉุกเฉินมาช่วย แต่ตนไม่ได้เข้าปฐมพยาบาลด้วยตัวเองมาก เพราะสิ่งที่คิดว่าอยากให้ทำเร็วที่สุดคือ นำผู้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ล่าสุด ได้บอกกับแพทย์ที่รักษาให้ช่วยอย่างเต็มที่ พร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง และขอโทษครอบครัวผู้บาดเจ็บอีกครั้ง ขณะที่อาการบาดเจ็บจากการกระแทกจากแอร์แบคในรถขณะที่เกิดเหตุ อาการดีขึ้นมากแล้ว
ด้านความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ทราบว่าคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว เป็นคดีการจราจรทางบก ทางเราต้องมีการสอบสวนและเรียกตัวผู้ขับขี่มาดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ด้านการตรวจแอลกอฮอล์นั้นทางพนักงานสอบสวนมีการเรียกให้ผู้ขับขี่ ทางผู้ขับขี่ไม่ยินยอมให้ตรวจ ให้สันนิษฐานตามกฎหมายได้ว่าให้ถือว่าเมา จากนั้นจะแจ้งข้อกล่าวหาด้วย
เบื้องต้นคดีนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และขับขี่รถในขณะเมาสุรา แต่ถ้าที่ปรากฏตามคลิปมีการขับทับจะมีการสอบสวนพยานประกอบ ถ้านอกเหนือจากความผิด พ.ร.บ.ทางบกแล้ว และมีเจตนาทางด้านอื่นด้วยจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ส่วนผู้ขับขี่ได้เข้ามารับทราบข้อหาแล้วและผู้ขับขี่ได้รับผลกระทบจากแอร์แบคระเบิดขอไปรักษาตัวก่อน ทางเจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นผู้ที่ไม่หลบหนีและให้หลักฐานแสดงตัวไว้จึงได้ให้ไปรักษาตัวก่อน สอบพยานที่เกี่ยวข้องไปหลายปากแล้ว