"หมอดิว" ตัวจริงโร่พบตำรวจ หลังถูกหมอคลินิกเถื่อนแอบอ้างชื่อ
!["หมอดิว" ตัวจริงโร่พบตำรวจ หลังถูกหมอคลินิกเถื่อนแอบอ้างชื่อ](http://s.isanook.com/ns/0/ud/849/4245086/xassdfd.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
"หมอดิว" ตัวจริงโร่พบตำรวจ หลังถูกอ้างชื่อเปิดคลินิกเสริมความงามเถื่อน ผ่าตัดเสริมหน้าอกจนสาวประเภทสอง เสียชีวิต
(14 พ.ย.) ที่ สภ.เขลาค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง นพ.จิรเดช หรือ หมอดิว อายุ 31 ปี แพทย์ศัลยกรรมชื่อดังชาวกรุงเทพ ได้เข้าพบ ร.ต.อ.ณฐชนนท์ เพ็งสิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขลางค์นคร หลังถูก นายธนัชพงศ์ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปางในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา ได้แอบอ้างใช้ชื่อในการเปิดคลินิกเถื่อนชื่อ “ดีไวน์คลินิกเวชกรรม” และทำการผ่าตัดเสริมทรวงอกสาวประเภทสองชาว จ.ลำพูน จนเสียชีวิต
ซึ่งหลังเกิดเหตุได้มีผู้เสียหายหลายคนที่เคยใช้บริการในคลินิก รวมถึงพนักงานในคลินิกได้ให้การว่าแพทย์คนที่ประจำอยู่คลินิกและทำการผ่าตัดนั้นชื่อ หมอดิว หรือ นพ.จิรเดช โดยเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจค้นภายในคลินิกก็พบว่าภายในตู้เสื้อผ้ามีเสื้อกราวหมอซึ่งมีชื่อ นพ.จิรเดช ปักที่หน้าอกเสื้อด้านขวา ส่วนด้านซ้ายปักคำว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทาง สภ.เขลางค์นคร จึงได้เชิญ นพ.จิรเดช มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดย นพ.จิรเดช กล่าวว่าในการเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ได้มาให้ปากคำในฐานะพยานและแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลินิกเถื่อนดังกล่าว อีกทั้งยังได้มีการแอบอ้างใช้ชื่อตนเองในการเปิดคลินิกเถื่อน ซึ่งก็ได้เตรียมหลักฐานต่างๆ รวมถึงเสื้อกาวน์มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วน นายธนัชพงศ์ หรือ เบญ ผู้ต้องหาที่แอบอ้างใช้ชื่อตนเองนั้น ตนก็ไม่แน่ใจว่าเป็นคนที่เคยรู้จักหรือไม่ ซึ่งเมื่อ 2-3 ปีก่อนตนได้เคยไปช่วยงานในคลินิกแห่งหนึ่งย่านห้วยขวางที่กรุงเทพคาดว่าน่าจะเป็นคลินิกที่ผู้ต้องหาเคยเปิด และใช้ชื่อว่านายกิม
นอกจากนี้ ยืนยันว่าเสื้อกาวน์ที่เจ้าหน้าที่พบภายในคลินิกเถื่อนแล้วผู้ต้องหาอ้างว่าติดมาตอนขนของย้ายมาที่ลำปางนั้น ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เพราะเสื้อที่พบนั้นเป็นเสื้อแบบที่ใส่ตอนฝึกงาน ขณะเป็นนักศึกษาแพทย์ปี 6 และเสื้อตัวจริงก็จะปักแค่ชื่อ ไม่มีคำนำหน้าว่านายแพทย์แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะทำเสื้อขึ้นมาใหม่และปักชื่อแอบอ้างใช้ชื่อตนในการเปิดคลินิกเถื่อน โดยก็ยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้จะได้เดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กรุงเทพเพื่อการสะดวกในการเดินทางในการแจ้งความเอาผิดและดำเนินคดีกับ นายธนัชพงศ์ ผู้ต้องหาที่แอบอ้างใช้ชื่อจนตนเองได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากอีกด้วย