ไมค์ เร่งรับงานหนัก ทุ่มจ่ายค่าเทอม แม็กซ์เวลล์ ครึ่งล้าน

บินไปบินกลับอยู่บ่อยๆ สำหรับพระเอกหนุ่ม “ไมค์ พิรัชต์” ที่โกอินเตอร์ไปสร้างชื่อเสียงไว้ที่ประเทศจีน ซึ่งงานนี้หลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าที่ทุ่มรับงานหนักส่วนหนึ่งเพราะเรื่องค่าใช้จ่ายของลูกชาย “น้องแม็กซ์เวลล์” หรือเปล่า

ซึ่งหนุ่มไมค์ได้เผยว่า ช่วงนี้น้องแม็กซ์เวลล์เข้าโรงเรียนแล้วทำให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น พร้อมยอมรับค่าเทอมลูกโรงเรียนนานาชาติราคาสูงพอสมควร แต่ที่ทำงานหนักทุกอย่างก็เผื่ออยากให้คนในครอบครัวสบาย

“เพิ่งกลับมาไทยได้ 2 วันเองครับ คงอยู่ต่อประมาณ 5 วันครับ ไปอยู่จีนมา 3 เดือนยังถือว่าเบาๆ รอบนี้ไม่ได้หนักเท่าไหร่ วันนี้ก็เพิ่งไปรับแม็กซ์เวลล์ที่โรงเรียนมาครับ ช่วงนี้จะจับแต่งตัวและไปรับไปส่งที่โรงเรียน ก่อนที่จะกลับมาก็มีฝันว่าถ้าไปรับลูกจะเป็นยังไงนะ ในฝันจะดี๊ด๊าหน่อย ซึ่งพอไปรับจริงก็เป็นสภาพแบบในฝันเลยครับ (หัวเราะ) มันก็ตื่นเต้นดีครับ ไม่รู้ว่าเขาจะเก๊กหรือยังไง เขาโตขึ้นเยอะ พูดเยอะขึ้นด้วยครับ พูดรู้เรื่องขึ้น และค่อนข้างที่จะเจ้าเล่ห์ จะอ้อนผมก็ตอนอยากได้ของเล่นอย่างเดียวเลย พอผมกลับมาก็ขอมาอยู่ด้วยตลอดเลยจนกว่าจะบินอีกรอบไปอเมริกาครับ คือผมกับซาร่าต้องคุยกันตลอด เพราะไหนจะเรื่องสุขภาพ เรื่องโรงเรียน พอเข้าโรงเรียนก็จะมีเรื่องเยอะขึ้นเหมือนกัน เราก็ต้องค่อยๆ ปรับ”

เหมือนก่อนหน้านี้ซาร่าจะไม่ยอมให้น้องมานอนด้วยนาน ?
“ก่อนหน้านี้นานๆ เลยครับ คือช่วงนั้นลูกยังเด็ก ซาร่าก็ต้องให้ลูกกินนมแม่ด้วย ตอนนี้ก็โตเข้าโรงเรียนได้แล้ว เลยสามารถพามาเลี้ยงได้”

ช่วงที่ผ่านมาแม็กซ์เวลล์ก็ป่วยหนัก ตอนเราอยู่เมืองจีนทราบบ้างไหม ?
“ทราบตลอดครับ เพราะต้องคุยกับทางซาร่าตลอดอยู่แล้ว เราก็จะฝากคนที่อยู่ไทยอย่างคุณแม่ถ้าว่างก็ให้ไปเป็นเพื่อนหน่อยครับ เราก็ต้องคอยติดตามอาการครับ โรคป่วยสมัยนี้ก็อันตราย ประมาทไม่ได้เหมือนกัน เราก็มีคุยเฟสไทม์กันบ้างนิดหน่อยครับ”

ช่วงที่บินไปทำงานต่างประเทศ ความห่างกับลูกทำให้ไม่สนิทไหม ?
“เขายังจำได้ครับ ผมไม่ค่อยกลัวเรื่องความห่างเท่าไหร่ เพราะเดี๋ยวนี้มันแคบลงด้วยเทคโนโลยีและใกล้ชิดกันมากขึ้น ต่อให้ผมไปทำงานต่างประเทศแต่การติดต่อสื่อสารก็ไม่น่าจะขาดหายกัน ตอนเราไปทำงานเราก็ต้องค่อยๆ อธิบายให้เขาเข้าใจ เวลาคนถามว่าแด๊ดดี๊ไปไหน เขาก็จะบอกแด๊ดดี๊อยู่จีนไปทำงาน เขาเข้าใจครับ ถึงแม้บางครั้งตอนจะบินเขาจะมีงอแงร้องไห้บ้างว่าไม่อยากให้เราไป อย่างวันแรกที่ไปรับเขาที่โรงเรียน เขาก็เซอร์ไพรส์ เพราะเขาไม่เชื่อว่าแด๊ดดี๊จะไปรับที่โรงเรียน พอเจอก็ไม่ยอมปล่อยเลย เกาะตลอด เขาจะค่อนข้างติด”

เห็นเราเคยบอกว่าขอทุ่มไม่อั้นเรื่องโรงเรียนของลูก ?
“ตอนเลือกโรงเรียนก็ไปดูไว้หลายที่ สุดท้ายเราก็เคารพการตัดสินใจของซาร่าว่าเขาอยากจะได้ที่ไหนมากกว่า ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเราไม่อั้นอยู่แล้ว ถ้ามันเป็นเรื่องการศึกษาของลูกผมก็ยินดีพร้อมจ่ายอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นผมจะทำงานหนักแบบนี้ทำไมใช่ไหมครับ (ยิ้ม)”

มีกระแสข่าวออกมาว่าค่าเทอมของแม็กซ์เวลล์ราคาครึ่งล้านเลย ?
“ก็แพงอยู่ครับ (หัวเราะ) ผมก็รับผิดชอบทั้งหมด”

ก่อนหน้านี้ซาร่าเคยให้สัมภาษณ์ว่าที่เลือกให้ลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติเพราะไม่อยากให้มีคนมาถามลูกเรื่องข่าวต่างๆ ?
“ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดมากกว่าเพราะผมก็แอบเห็นที่เขาพูดแล้วนิดหนึ่ง แต่จริงๆ คงไม่ใช่ความหมายอะไรแบบนั้นนะ ซึ่งเราก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันเลย ผมดูเรื่องของระบบการสอน การศึกษามากกว่า ไม่ยึดติดว่าจะต้องเป็นโรงเรียนไหนมากกว่า ถ้าไปดูแล้วระบบการศึกษาที่นี่ดี ผมก็ยินดีที่จะให้เขาเรียนครับ อาจจะไม่ได้โฟกัสแค่เรื่องของวิชาการ แต่เราต้องดูเรื่องการปฏิบัติด้วย หรือการสอนให้เขาได้อยู่ร่วมกับคนอื่นด้วยครับ และก็มีเรื่องของความปลอดภัยที่ต้องดู ส่วนจะให้เรียนที่นี่จบจบเลยไหม ผมว่าค่อยๆ ปรับดีกว่า เพราะมันต้องแล้วแต่ตัวเขาและความต้องการของเขาด้วย คือเด็กสมัยนี้มีเพื่อนเร็ว เขามีเพื่อน มีสังคมของเขา ถ้าอยู่ๆ ไปเปลี่ยนโดยไม่ถามความต้องการของเขาก่อน มันจะเหมือนการไม่เคารพการตัดสินใจของลูก”

ที่ทุกวันนี้ทำงานหนัก ส่วนหนึ่งเพราะค่าเลี้ยงดูลูกเป็นพิเศษใช่ไหม ?
“ถูกต้องครับ ที่ผมเคยแพลนไว้ว่าในอนาคตจะมั่นคงอีกสิบปีกว่า แต่ตอนนี้เราพยายามบีบทุกอย่างให้อยู่ภายใน 5 ปี เหมือนสุภาษิตไทยที่บอกน้ำขึ้นให้รีบตัก หรือตีเหล็กตอนร้อน ซึ่งตอนนี้มันกำลังร้อนอยู่ก็ต้องรีบตีให้ประสบความสำเร็จเร็วๆ เราจะได้มีเวลาแบ่งมาให้ครอบครัวบ้าง การเป็นนักแสดงถ้าไม่แสดงก็ไม่ได้เงิน ความมั่นคงของผมก็คือต่อให้ผมหลับอยู่ก็สามารถที่จะหาเงินได้ครับ”

ถามถึงเช็คหนึ่งล้านบาทเป็นของขวัญวันเกิดให้คุณแม่ ?
“พอดีคุณแม่เขาจัดงานวันเกิดเป็นครั้งแรกในชีวิตเขา เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้มา เพราะงานที่นู้นถูกฟิกเวลาไว้แล้ว ในเมื่อตัวมาไม่ได้ก็เอาใจมาแล้วกัน (ยิ้ม) จริงๆ หาเงินมาได้ทั้งชีวิตและสิ่งที่คุณแม่เขาให้เรามามันมากกว่านั้นนะครับ คุณแม่ได้ก็แฮปปี้ เจอท่านเมื่อวานก็เข้ามากอด ขอบคุณนะลูก แค่นี้ผมก็ชื่นใจ มีกำลังใจในการทำงานแล้วครับ ในอนาคตอยากจะให้คุณพ่อคุณแม่ได้เยอะกว่านี้ ทุกวันนี้ที่ทำงานก็เพื่อคุณพ่อ คุณแม่ ลูก และคนในครอบครัวครับ”