ปิกอัพชนเด็ก ป.2 ไม่มีที่หลบ เพราะชาวบ้านตากข้าวล้ำถนน

ปิกอัพชนเด็ก ป.2 ไม่มีที่หลบ เพราะชาวบ้านตากข้าวล้ำถนน

ปิกอัพชนเด็ก ป.2 ไม่มีที่หลบ เพราะชาวบ้านตากข้าวล้ำถนน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อุบัติเหตุน่าระทึก เด็กชายกำลังจูงจักรยานกลับบ้านแต่ถูกรถปิกอัพพุ่งชนกระเด็น พบสาเหตุเพราะช่องจราจรเหลือเพียงเลนเดียว เนื่องจากชาวบ้านนำข้าวมาตาก กลายเป็นอันตรายที่เลี่ยงไม่ได้

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (24 พ.ย.) ร.ต.อ.กฤตธัช แก้วประดับกุล รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีรถปิกอัพเฉี่ยวชนเด็กนักเรียน ขณะเดินทางกลับจากโรงเรียน จึงรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ชีพตำบลชุมแสง

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณสะพาน ระหว่างบ้านผาง-บ้านอุดม ต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ มีชาวบ้านและเด็กนักเรียนมามุงดูเป็นจำนวนมาก โดยที่เกิดเหตุพบรอยเลือดติดอยู่บนกองข้าวที่ชาวบ้านตากไว้บริเวณพื้นถนน ซึ่งกินพื้นที่ถนนไปครึ่งเลน และมีผู้สูงอายุนั่งร้องไห้ใกล้กับกองเลือดอย่างน่าเวทนา

จากการสอบถามทราบว่า ผู้สูงอายุคนดังกล่าว เป็นย่าของผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังจากมีชาวบ้านแจ้งให้ทราบจึงรีบมาดูหลาน ด้วยอาการกระวนกระวายใจเพราะเป็นห่วง ถึงแม้จะพบแต่เพียงรอยเลือด โดยไม่ทราบชะตากรรมของหลานก็ตาม ทำให้ร้องไห้ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

ส่วนผู้บาดเจ็บทางกู้ชีพชุมแสง รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลจอมพระอย่างเร่งด่วน เพราะมีเลือดออกตามปากและจมูกพร้อมแผลถลอกบริเวณใบหน้า อยู่ในอาการสาหัสและไม่รู้สึกตัวแต่ยังมีชีพจร แพทย์พยาบาลต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด เพราะต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ทราบชื่อคือ น้องต้น (นามสมมติ) อายุ 8 ปี เป็นนักเรียนชั้น ป.2

ขณะที่บริเวณจุดเกิดเหตุยังพบรถจักรยานสองล้อ สภาพพังยับเยินอยู่ข้างถนน และอีกฟากของถนนพบรอยหญ้าเป็นทางไถลลงไปยังคูน้ำ มีรถปิกอัพอีซูซุสีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน จมอยู่ในคูน้ำข้างถนน ส่วนคนขับรถปลอดภัย ทราบชื่อคือ นายสนั่น อายุ 31 ปี ยืนรอให้การกับตำรวจในลักษณะคล้ายกับคนเมา

นายสนั่น ให้การ ตนกับผู้โดยสารอีกคนขับรถยนต์มาจากอีกหมู่บ้านหนึ่ง กำลังจะกลับบ้านอุดม ระยะทาง 1 กิโลเมตร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนได้ขับรถเฉี่ยวชนกับเด็กที่ยืนหลบรถอยู่กลางถนนอย่างไม่ตั้งใจ ด้วยความตกใจจึงหักพวงมาลัยอย่างแรงทำให้รถตกลงไปข้างทางและจมน้ำอย่างที่เห็น

ตนกับผู้โดยสารที่มาด้วยตะเกียกตะกายออกมาจากรถได้อย่างหวุดหวิด สำหรับผู้โดยสารอยู่ในอาการตกใจร้องไห้ฟูมฟาย ร้องให้คนช่วยตลอดเวลาเพราะตัวเองเกือบจะจมน้ำตาย ท่ามกลางญาติพี่น้องที่มาปลอบจำนวนมาก

ขณะที่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังตากข้าวอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ พบเด็กนักเรียนปั่นรถจักรยานบนถนนแบบสวนเลน เพราะอีกเลนชาวบ้านใช้เป็นพื้นที่ตากข้าวอยู่ พอมีรถวิ่งมาตนจึงตะโกนให้หลบออกจากถนนเพราะอันตราย และผู้ได้รับบาดเจ็บได้ยืนจับรถจักรยานสองล้ออยู่บริเวณเส้นเหลืองรอกลางถนน ที่รถกำลังสวนกัน

แต่อยู่ๆรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วได้พุ่งตรงมาที่เด็กกำลังยืนอยู่ ทำให้เด็กหลบไม่ทันและชนเข้าอย่างจัง ก่อนรถยนต์จะพุ่งตกลงข้างถนนในคู้น้ำ ตนจึงวิ่งมาดูเด็กพบว่าไม่มีสติ จึงได้โทรแจ้งตำรวจให้มาทำการช่วยเหลือ ส่วนคนขับและผู้โดยสารมีชาวบ้านมาช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำในเวลาต่อมา

ทั้งนี้จากการสังเกตุบริเวณถนนที่เกิดเหตุ พบว่าชาวบ้านได้นำข้าวมาตากเป็นทางยาว กินเนื้อที่ของถนนสองไปเลนหนึ่ง โดยที่บรรดาครูและผู้ปกครองต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การตากข้าวบนท้องถนนแบบนี้ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุกับเด็กนักเรียนได้ แต่ส่วนหนึ่งก็ยังเห็นใจชาวบ้านที่ไม่มีที่ตากข้าวในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวพร้อมกัน ทำให้การจราจรเหลือเพียง 1 เลน แม้จะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมากก็ตาม

สำหรับคนขับรถปิกอัพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาขับรถด้วยความประมาท ส่วนอาการเมานั้นต้องนำคนขับไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook