เติ้ล กระแต แถลงนาทีต้องเลือก ชีวิตแม่หรือลูก หลังผ่าคลอดลูกสาว น้องมียา ก่อนกำหนด

ได้กำลังใจจากแฟนๆ รวมถึงเพื่อนพ้องในวงการท่วมท้นเลยทีเดียว สำหรับครอบครัวของคุณพ่อคุณแม่ป้ายแดง "เติ้ล ตะวัน จารุจินดา" และ "กระแต เสาวคนธ์" หลังจากทราบข่าวว่าสาวกระแตต้องทำการผ่าคลอดลูกสาว "มียา อะมีณยา จารุจินดา" ที่มีอายุครรภ์เพียงแค่ 7 เดือน เนื่องจากมีภาวะครรภ์เป็นพิษ เป็นเหตุให้ทีมแพทย์ต้องช่วยดูแลน้องมียาอย่างใกล้ชิด ในห้อง ICU

ซึ่งงานนี้นอกจาก เติ้ล และ กระแต จะออกมาประกาศข่าวดีต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวจารุจินดา อย่างเป็นทางการ ด้วยการแถลงข่าวเปิดใจ ณ ห้องประชุมบัญชา ล่ำซำ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท แล้ว ทั้งคู่ยังก็ยังบอกอีกด้วยว่า ตอนนี้สุขภาพของน้องมียาแข็งแรงมาก ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

เติ้ล - "จริงๆ กำหนดคลอดของลูกเราคือช่วงเดือนมกราคม ประมาณวันที่ 22-29 เป็นช่วงปลายเดือน ซึ่งหลังจากที่เรากลับจากต่างประเทศได้ไม่นาน และพากระแตมาตรวจสุขภาพตามที่คุณหมอนัด ปรากฏว่าความดันเขาขึ้น คุณหมอก็เลยทำการตรวจปัสสาวะเพื่อดูโปรตีน ทีนี้ผลที่ได้คือมันมีโปรตีนรั่วออกมาจริงๆ ตอนนั้นเขาก็เลยสั่งให้เข้าห้อง ICU ทันที เนื่องจากเกรงว่ากระแตเขาจะชัก เพราะมีภาวะครรภ์เป็นพิษ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีอาการให้เห็นเลย ทุกอย่างดูเป็นปกติมากๆ"

เติ้ล - "ตอนที่คุณหมอมาบอกว่าจะต้องผ่า ตอนนั้นคุณหมอเขาสื่อสารกับเราตรงๆ เลยนะครับว่า "เขาขอรักษาชีวิตของคุณแม่ไว้ก่อน" ตอนนั้นเราสองคนมองตากันแล้วรู้สึกตรงกันว่ามันคือนาทีชีวิตจริงๆ เราสองคนตกใจ แต่ว่าในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องยอมรับมัน และสู้กับมันต่อไป เพราะคุณหมอไม่สามารถรับปากได้เลยว่ามีโอกาสกี่เปอร์เซ็นต์ คืนก่อนผ่าตัดคืนนั้นผมนอนไม่หลับจริงๆ นะ เพราะกระแตเขาต้องผ่าตอน 6 โมงเช้า เราก็กังวลไปต่างๆ นานา เราไม่อยากให้เขาต้องจากเราไป มันเป็นการตัดสินใจที่ผมตัดสินใจไม่ได้เลยจริงๆ"

กระแต - "ตอนที่รู้ว่าจะต้องผ่าตัดก็ลูบท้องบอกกับเขาว่า "ให้อยู่ด้วยกัน อยู่ด้วยกันนะ" และช่วงที่จะเข้าห้องผ่าตัดตอนเช้าก็ขอคุณหมอให้เติ้ลเข้าไปด้วยกัน แต่เขาเข้าไปได้แค่แป๊ปเดียว เพราะคุณหมอต้องใช้พื้นที่ในการทำงาน จากนั้นพอคุณหมอบล็อคหลังเสร็จเราก็ไม่รู้เรื่องเลย ถามว่ากลัวไหม ก็กลัวเหมือนกันนะ มันเป็นการผ่าตัดที่กะทันหันมาก เพราะเราเตรียมใจไว้ว่าจะคลอดเดือนมกราคม ซึ่งตอนนั้นมารู้ตัวอีกทีคือตอนที่น้องร้อง ได้ยินเสียงเขาแค่ 2-3 ครั้ง ดีใจค่ะ แต่ก็ยังไม่หายกังวลนะคะ เพราะยังคิดถึงสุขภาพเขาอยู่"

เติ้ล - "ตอนที่ได้ยินเสียงเขาร้องครั้งแรก เสียงเหมือนลูกแมวเลย ผมได้เห็นหน้าเขาแค่นิดหนึ่งเพราะคุณหมอต้องรีบพาไปที่ห้องอื่น แต่ว่ามาเห็นชัดๆ จริงๆ ก็คือตอนที่วิ่งตามเขาขึ้นมาด้านบน จากนั้นก็ค่อยๆ สังเกตหน้าเขา คิดว่าจมูกเขาโด่งเหมือนแม่ ส่วนความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันมีเยอะมาก มีทั้งความน่ารัก น่าเอ็นดู น่าสงสาร เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริงๆ ครับ น้ำหนักแรกคลอดของเขาแค่ 830 กรัม ตัวเล็กมาก แต่คุณหมอบอกว่าเป็นเด็กตัวเล็กที่แข็งแรง หายใจเองได้ หัวใจดี สมองดี ขับถ่ายดี ทานนมแม่ได้ สุขภาพดีเลยครับ (ยิ้ม) หลังจากนี้ก็ต้องดูกันไปเรื่อยๆ เพราะเขายังต้องพักอยู่ในห้อง ICU อีกสักพักใหญ่ๆ"

กระแต - "สำหรับสุขภาพของกระแตตอนนี้ก็ยังสูงอยู่ ความดันยังขึ้นเหมือนเดิม เนื่องจากภาวะครรภ์เป็นพิษ คาดว่าคงต้องรอดูอีก 1-2 เดือนเลย ถึงความดันจะลด แต่ถ้าหากไม่ลดก็อาจจะต้องเป็นความดันโลหิตสูงเรื้อรังตลอดชีวิต ส่วนกำลังใจก็มีเพื่อนๆ มาช่วยเชียร์กันเยอะ พี่เอมี่ กลิ่นประทุม ก็มาหาตั้งแต่วันที่รู้ว่าจะผ่าเลย"

เติ้ล - "ชื่ออะมีณยา ชื่อนี้ได้มาจาก พี่เป๊ก สัญชัย เป็นชื่อที่มีความหมายดีมาก หมายถึง ผู้หญิงแกร่ง ผู้หญิงที่เป็นผู้นำ และในความหมายของภาษาอังกฤษก็ยังหมายถึง ผู้เป็นที่รักของผู้คน ซึ่งเขาก็เป็นที่รักของทุกคนจริงๆ ผมเชื่อว่าถ้าหากทุกคนได้ยินเรื่องของเขา ทุกคนก็คงจะรู้สึกเมตตาเขาครับ (ยิ้ม) ส่วนเรื่องลูกคนต่อไป เอ่อ...ตอนแรกก็ตั้งใจจะมี 2 คนเหมือนคุณแม่ แต่ว่าขอให้ประคองคนนี้ให้เขาแข็งแรงที่สุดก่อนดีกว่า รวมถึงถ้าหากจะมีอีกคนก็ต้องดูแลกันตั้งแต่เบื้องต้น เพราะคุณแม่อาจจะมีภาวะครรภ์เป็นพิษได้อีกเหมือนกัน"

ขณะที่ทางด้านของ คุณย่า "ดวงดาว จารุจินดา" ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญที่เห่อและห่วงหลานสาวคนนี้ไม่แพ้กันเลยทีเดียว

ย่าดวงดา - "ตอนที่เติ้ลเขาโทรมาหาแม่ แจ้งข่าวให้แม่ทราบ ตอนนั้นแม่ก็ช็อคไปเลยเหมือนกัน แต่เราก็ต้องตั้งสติ ต้องเป็นหลักให้ลูก ซึ่งเช้าวันที่เขาผ่าคลอดแม่ก็ไปทำบุตรตักบาตรให้กับเขา จากนั้นก็ไปหาเขาที่โรงพยาบาล และสุดท้ายมันก็เป็นข่าวดีของครอบครัวเรา เพราะพอคุณหมอผ่าท้องออกมาน้องมียาก็ร้องเลย วินาทีนั้นเราแบบสงสารมากเพราะตัวเขาเล็ก และเราก็รักเขาด้วย เขาน่ารักมากๆ จากนั้นคุณหมอก็มาแจ้งรายละเอียดว่า ภายนอกอาการต่างๆ ครบ 32 เพียงแต่ว่าตัวเล็กก็เท่านั้นเอง เชื่อนะว่าเขาสู้ ครอบครัวเราสู้ น้องมียาเขาก็สู้ไปด้วยกันกับเรา น้องมียาจิ๋วแต่แจ๋ว"

"ที่บ้านตอนนี้ก็เตรียมห้องรอแล้วค่ะ เพราะว่าหลังคลอดกระแตและเติ้ลเขาอยากให้ลูกได้อยู่ในครอบครัวใหญ่ ท่ามกลางพ่อแม่พี่น้องปู่ย่า ซึ่งเราเองก็ต้องต่อบ้านทำห้องใหม่หมด ซื้อข้าวของเครื่องใช้เตรียมไว้ให้หลาน แต่ถามว่าเห่อไหม ตอนนั้นยังไม่ได้รู้สึกตรงนั้นเลยค่ะ คงต้องรอให้เขากลับบ้านก่อนถึงจะรู้ว่าเห่อหรือเปล่า (ยิ้ม)"

"คิดว่าเขาหน้าเหมือนกระแตนะ แต่ว่าตอนนี้เขายังตัวเล็ก เขาจะผอมๆ หัวโตๆ ฉะนั้นจมูกเขาจะโด่งมาก คืออย่างอื่นเขายังไม่มีเลย หน้าเขาเล็กมาก (ยิ้ม) ก็อยากจะฝากไปถึงทุกๆ ครอบครัวที่กำลังจะมีน้องหรือตั้งใจจะมีน้องนะคะว่า อยากให้มองไปไกลกว่านั้น เพราะครอบครัวเราเองก่อนหน้านี้ก็คิดมาตลอดแค่คลอดปกติก็จบ แต่พอถึงเวลาจริงๆ มันไม่ใช่แบบนั้น ดังนั้นเราก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับมันให้ได้ รวมถึงเตรียมร่างกายและสติของเราให้พร้อมด้วย"