ก้อง ปิยะ งานเข้า ถูกแอบอ้างลวงนายแบบหลับนอนแลกเงิน

งานเข้าอย่างจัง เมื่อจู่ๆ ก็มีคนนำชื่อของ “ก้อง ปิยะ” ไปแอบอ้างว่ารู้จักตัวเอง เพื่อเชิญชวนเด็กผู้ชายให้มาทำงานถ่ายแบบด้วย ทั้งยังยื่นข้อเสนอหากมีการหลับนอนด้วยกันจะให้เงินทันทีโดยไม่ต้องทำงานใดๆ

ซึ่งพอ “ก้อง ปิยะ” ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด เจ้าตัวก็ออกมาชี้แจงให้กับสื่อมวลชนฟังทันที ในงานแถลงข่าวโครงการการกุศล ประติมากรรม “ธรรมราชา ผู้มีความเพียรอันบริสุทธิ์” โดยได้เผยว่า ไม่ได้มีการรู้จักกับคนที่แอบอ้างเลย ก่อนหน้านี้เคยถูกโดนอ้างชื่อเยอะแต่ตนไม่ได้สนใจเพราะไม่ได้มากระทบผลเสียอะไรมาก แต่ครั้งนี้อยากจะออกมาเตือน หากเกิดแอบอ้างอีกให้สอบถามโดยตรงจะรู้ข้อเท็จจริงกว่า

โดนแอบอ้างชื่อหลอกนายแบบไปหลับนอน ?
“จริงๆ แล้วก็เพิ่งทราบ คือเป็นน้องนายแบบที่เคยร่วมงานกันมาก่อน เคยถ่ายแบบให้ร้านชาบูของพี่กับเพื่อน น้องเขาก็มาบอกว่ามีคนติดต่อเขาไปทำงาน ไปลองแคสติ้งงาน แล้วเขาก็โทรมาบอกว่ามันแปลก เขาบอกว่าเขารู้จักพี่ เราก็เลยถามว่าเขารู้จักเหรอ ชื่ออะไร พอบอกชื่อมาเราก็ไม่รู้จัก น้องเขาก็เล่าให้ฟังว่าคนนี้ติดต่อมาให้ไปแคสติ้งปกติ นัดที่คอนโด เด็กก็เริ่มงงๆ ว่าทำไมนัดที่คอนโด พอไปถึงเขาก็บอกว่าเป็นโฆษณาครีมอาบน้ำยี่ห้อหนึ่ง เวลาถ่ายต้องใส่กางเกงใน ตอนนี้ให้ลองแคสติ้งใส่กางเกงในให้ดูหน่อยได้ไหม น้องก็พยายามบอกว่าขอใส่ที่ไม่โป๊มากได้ไหม แล้วคนนั้นก็บอกว่าถ้ามีการถ่ายทำต่างประเทศ ไปนอนค้างด้วยกันได้ไหม น้องก็บอกว่าได้ เขาก็ถามอีกว่านอนกับพี่ได้ไหม น้องก็บอกว่านอนกับทีมงานก็ได้ครับ แล้วเขาก็บอกว่าแต่ถ้านอนกับพี่แล้วมีอะไรที่มากกว่านั้นพี่ยินดีเขียนเช็คจ่ายให้เลยนะ"

"แต่ในระหว่างที่คุยๆ กันอยู่ก็มีการเอ่ยชื่อเรา บอกว่ารู้จักกับ ก้อง ปิยะ น้องก็เลยบอกว่าผมก็รู้จักครับ เคยถ่ายแบบให้พี่เล็กเพื่อนพี่ก้องที่เป็นเจ้าของร้านชาบู เขาก็บอกว่าเพื่อนพี่ก้องเขาก็รู้จัก น้องก็เลยบอก 'อ๋อ เหรอครับ' หลังจากนั้นเขาก็ยังบอกอีกว่าถ้ามีอะไรมากกว่านั้นพี่ยินดีจ่ายเช็คให้นะ น้องจะได้ไม่เป็นภาระพ่อแม่ให้พ่อแม่ลำบาก น้องก็เลยบอกไปว่าไม่เป็นไร ผมอยากทำงานที่แลกเงินด้วยการใช้แรงงานดีกว่า ไม่ใช่แลกมาจากการหลับนอน เสร็จแล้วน้องก็เลยขอตัวกลับ เราก็เลยบอกว่าแบบนี้พี่ไม่ชอบนะ คนเราจะทำอะไรก็แล้วแต่ เวลาที่ไปพยายามโน้มน้าวให้เด็กทำอะไรในสิ่งที่เกินเลยกว่าการทำงาน มันไม่ยุติธรรมสำหรับเด็กนะ เด็กเขามีความฝันอยากทำงานในวงการ ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว เขาอยากทำงานโดยความบริสุทธิ์ใจ ถ้าเราหรือคนที่ติดต่องาน แล้วใช้วิธีการพูดจาหลอกล่อ มันบาปกรรมนะ”

“คือเรื่องนี้เด็กเขาเล่าให้เพื่อนของพี่เล็กฟัง แล้วพี่เล็กก็มาเล่าให้เราฟัง แล้วเราก็โทรไปถามน้องเอง แล้วน้องก็บอกว่าเขามีการเอ่ยชื่อเรา ซึ่งเราก็รู้จักคนเยอะนะ แต่การรู้จักคนมันมีหลายขั้นตอน รู้จักคือรู้จักทั่วไป ใครๆ ก็รู้จักได้ เพียงแต่ว่าเราสนิทสนมแค่ไหน ถึงแม้รู้จัก แต่จะพูดเพื่ออะไร ถ้าพูดว่าน้องไปทำบุญกับพี่ไหม พี่รู้จัก ก้อง ปิยะ อันนี้อนุโมทนาบุญด้วย ไม่ใช่พูดแล้วมันไปเข้าเรื่องการนอน เรื่องการทำอะไรที่มากกว่าการทำงาน มันไม่ควรพูดถึงชื่อเรา แล้วเด็กเขาไม่ได้เต็มใจ มันก็เสียถึงชื่อ ก้อง ปิยะ”

แล้วบอกน้องพูดชื่อคนที่แอบอ้างชื่อเรามา เรารู้จักเขาไหม ?
“ไม่รู้จัก หรือว่าอาจจะจำไม่ได้ แต่เราไม่รู้จักเขา (จะไปแจ้งความไหม?) คงไม่แจ้งความ แต่คงเตือนออกสื่อเฉยๆ ว่าอย่าทำแบบนี้ เพราะที่ทราบก็มีหลายๆ คนที่ทำแบบนี้ในวงการ ไม่เอ่ยชื่อนะ แล้วหลายๆ คนในวงการก็ถูกเอ่ยชื่อ ก็ขอเตือนให้ระวัง ใครก็ตามที่อยากจะเป็นดาราในอนาคต เวลาจะไปแคสงานที่ไหนก็ขอให้ระวังตัว ให้พาเพื่อนไปด้วย หรือพาพ่อแม่ไปด้วยเพื่อดู อย่าคิดว่าฉวยโอกาสแค่นี้เพื่อเจริญเติบโตในวันข้างหน้า บางทีเราถูกเขาหลอกหรือเปล่าก็ไม่รู้ สำคัญที่สุดคือรบกวนว่าใครที่กำลังทำแบบนี้อยู่ อยากให้คิดว่าถ้าเกิดนายแบบคนนั้นเป็นลูกเป็นหลานเรา เราจะรู้สึกยังไงที่ถูกทำแบบนี้ อยากเตือนเฉยๆ เพราะว่าน้องเขาก็ปลอดภัยดี ไม่ถึงกับต้องไปแจ้งความ แต่ไม่อยากให้เอาชื่อเราหรือชื่อคนในวงการบันเทิงคนอื่นไปอ้าง มันไม่เหมาะสม”

เคยโดนแอบอ้างชื่อแบบนี้เป็นครั้งแรกไหม ?
“เคยทราบมาบ้าง ว่ามีคนพูดว่ารู้จักเรา พาไปแคสงาน แต่เราโอเคเพราะไม่มีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้น แต่ครั้งนี้มันพูดถึงการหลับนอน ซึ่งเราคิดว่าจะทำอะไรมันก็เรื่องของคุณ แต่พอมีชื่อเราไปเกี่ยวข้อง พอมีปัญหาขึ้นมามันไม่ดีกับเรา การพูดแบบนี้ พูดเพื่ออะไรพูดเพื่อโน้มน้าวให้รู้สึกว่าอยากเข้าใกล้หรือเปล่า เราต้องรู้จุดประสงค์ในการพูด”

จะมีการติดต่อไปถึงคนที่เอาชื่อเราแอบอ้างไหม ?
“ไม่ติดต่อหรอก คิดว่าเขาคงรู้ตัว เพราะเราก็ลงไปในไอจี เขาก็คงรู้แล้ว คงต้องหยุดไปเอง ต่อไปนี้ถ้าเกิดน้องๆ นายแบบจะไปทำอะไรก็โทรมาถามเราได้ เราบอกให้ได้ว่ามันน่าเชื่อถือไหม สมัยนี้ต้องยอมรับว่าแมวมองเยอะไปหมดเลย ให้ระวังตัวที่สุด อย่าเชื่อใจใครมาก เช็คให้แน่นอนก่อนว่ามันถูกต้องตามหลักการที่จะไปหรือเปล่า ก็วิงวอนนะ ใครที่ทำแบบนี้อยู่ก็ขอให้หยุดทำเถอะ ทำอะไรที่เป็นสิ่งที่ดีงามต่อตัวเองดีกว่า”