บุ๊คโกะ ทนไม่ไหวทุ่มเงินล้านพา เบลเยี่ยม ศัลยกรรม ร่ำไห้โดนดูถูกอยากลาวงการ
เป็นคู่พี่น้องที่หลายคนรู้จักกันดีในวงการบันเทิง สำหรับ ดีเจบุ๊คโกะ ธนัชพันธ์ กับ เบลเยี่ยม วิภานี ที่ล่าสุดได้เปิดตัวเป็นที่ฮือฮากันมาแล้ว หลัง พี่บุ๊คโกะ ได้ทุ่มเงินหลักล้านพาน้องสาวไปทุบหน้าใหม่จนสวยพริ้งเปลี่ยนเป็นคนละคน
ล่าสุด ทั้งคู่ได้มาร่วมรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง one31 ทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่าก่อนจะมาได้ขนาดนี้ เคยอยู่จุดที่ต่ำสุดของชีวิตมาแล้ว อีกทั้งยังโดนคำครหาดูถูกจากคนรอบข้างอีกด้วย
เหตุผลอะไรเราถึงให้น้องสาวไปทำหน้า?
บุ๊คโกะ "คือเราไปทำก่อน ทำทั้งหน้าเลยค่ะ มีแค่ลูกตาดำอย่างเดียวที่ไม่ได้ทำ"
เบลเยี่ยม "ทำทั้งหน้าเหมือนกันค่ะ คือทำจมูกใหม่ ทำตา ทำคาง แล้วก็เย็บหน้าค่ะ ฉีดไขมันที่หน้าผากแล้วก็ขมับค่ะ"
มีวิธีดูยังไงว่าเป็นศัลยกรรมที่ปลอดภัย?
บุ๊คโกะ "จริงๆ เรื่องศัลยกรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก คือหลายๆ คนถามว่าเราเสพติดศัลยกรรมรีเปล่า แรกๆ เรามีลองผิดลองถูกบ้าง จมูกนี่ทำมา 5-6 ครั้งแล้วค่ะ หลายคนจะถามว่าทำไมเราต้องบินไปทำที่เกาหลี บุ๊คโกะจะบอกเลยว่าทั้งหมอเกาหลี หมอไทย มีสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่บุ๊คโกะชอบสไตล์เกาหลีเลยไปทำที่เกาหลี แล้วเราก็ศึกษาหมอหลายคนค่ะ แต่ในท้ายที่สุดแล้วจะมีหมอที่เก่งๆ แตกต่างกันค่ะ หมอคนไหนเก่งก็เลือกคนนั้นค่ะ เพราะหมอแต่ละคนความสามารถไม่เหมือนกัน แต่โชคดีที่ตัวบุ๊คโกะไปจบที่โรงพยาบาลล่าสุดที่บุ๊คโกะใช้ตัวเองไปลองทำก่อน เลยสามารถบอกได้ว่าโรงพยาบาลไหนเหมาะกับหน้าแบบไหน"
ฉีดไขมันที่หน้าผากมันอยู่ได้นานแค่ไหน?
เบลเยี่ยม "ประมาณ 3 เดือนค่ะ พอครบ 3 เดือนเราก็ต้องบินกลับไปฉีดอีก มันปลอดภัยกว่าฉีดฟิลเลอร์ค่ะ เราใช้ไขมันส่วนหน้าท้อง กับใต้ก้นค่ะ หมอจะเอาตรงนั้นมาที่ฉีดที่หน้าเรา มันเป็นไขมันของเรา พอเราผอมลงหรือออกกำลังกาย มันก็จะสลายไปได้ ไม่ตกค้างเหมือนสารเคมีค่ะ"
มีผลข้างเคียงอะไรมั้ย?
เบลเยี่ยม "ยังไม่มีนะคะ"
การผ่าตัดทั้งหมดใช้เวลากี่ชั่วโมง?
เบลเยี่ยม "รอบแรก 8 ชม.ค่ะ นอนจนปวดหลังเลยค่ะ สรุปทั้งตัวของเราทำหน้าผากเติมไขมัน จมูกที่ทำรอบที่ 4 ตาทำ 2 รอบ แล้วก็คาง ดูดไขมันที่หน้าทั้งหน้า เย็บหน้าขึ้นค่ะ"
บุ๊คโกะ "รอบแรกเราควักเงินไปประมาณ 1.5 ล้านบาท เพราะที่ยอมจ่ายคือเราทำธุรกิจ เรามองหาพรีเซ็นเตอร์เยอะมาก จะใช้ดาราเค้าก็สวยอยู่แล้ว เรารู้สึกว่า มองไปมองมาเราก็มองเห็นเบลเยี่ยม พูดตรงๆ คือเค้ายังขาดตรงนี้ เพราะเค้าไม่มั่นใจ เค้ามองว่าเค้าไม่สวย แต่ความสามารถมีแล้ว บุ๊คโกะเชื่อว่าหน้าตาถ้ามันดีแล้ว มันจะต่อยอดความสามารถเราให้ดีขึ้น เราก็มองว่า เบลเยี่ยมมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เรามันก็จะดี มันไม่หนีไปไหนเพราะมันเป็นน้องเรา”
ตอนที่เราเรียนอยู่ เราไม่มั่นใจในตัวเองมาก เพราะโดนเพื่อนล้อตลอด?
เบลเยี่ยม "ใช่ค่ะ ไม่ใช่แค่เพื่อนที่ชอบแซวนะ พี่เราด้วยชอบแซวว่าตาจะไหลรวมกันแล้ว เพราะตอนนั้นเค้าไปทำจมูกมาแล้วไง"
สาเหตุที่เราต้องไปทำศัลยกรรม มาจากสิ่งที่เราเก็บกดมานาน จากการโดนล้อรึเปล่า?
บุ๊คโกะ "สำหรับบุ๊คโกะโดนล้อมาตลอด อีอ้วน อีหมี ภายนอกเรามีความสุขนะ แต่ภายในเชื่อว่าทุกคนไม่อยากโดนล้อหรอก มันเป็นปมในใจ แต่สำหรับบุ๊คโกะ เราเข้มแข็งกว่าเบลเยี่ยม ถ้าถามว่าพ่อแม่โอเคมั้ย เราโชคดีที่เกิดในครอบครัวที่เป็นข้าราชการทหาร เติบโตในกรมทหาร พ่อแม่ก็เป็นทหาร แล้วพ่อก็เริ่มระแคะระคายว่าเราเป็นตุ๊ดเด็กรึเปล่าในตอนนั้น เพราะเราก็เริ่มเอาส้นสูงมาใส่ เอาผ้าขนหนูมาทำเป็นผมยาว เดินอยู่ในกรม พ่อเห็นก็เตะเราเลยค่ะ"
"พอมาตอน ม.3 พ่อก็รู้ว่าเราเลิกไม่ได้แล้ว ก็เรียกมาคุยเลยค่ะว่าจะทำยังไง แต่เราเป็นคนดีของสังคม เพราะฉะนั้นพ่อก็บอกว่า อยู่บ้านห้ามแรด แต่อยู่โรงเรียนแรดได้เต็มที่เลย พอตอน ม.6 พ่อป่วยหนักใกล้จะเสีย ก็เรียกเราไปคุย แล้วบอกให้เราไปเรียนเป็นเชฟ เพราะมันเป็นอาชีพที่จะเลี้ยงเราได้ แต่เราบอกว่าเราไม่อยากเป็น อยากเป็นดารา อยากสวย แต่โชคไม่ดีเท่าไหร่ พ่อก็เสียตอน ม.6 พอดี จากนั้นมาเราก็เปิดก๊อกเลยค่ะว่าเราจะเป็นดารา เค้าก็ไม่ได้มีโอกาสได้เห็นความสำเร็จของเราเลยค่ะ เพราะช่วงนั้นเราลำบากกันมาก"
เบลเยี่ยมเคยโดนคนดูถูกหนักที่สุดด้วยเรื่องอะไร?
เบลเยี่ยม "มันเหมือนความสะสมอ่ะค่ะ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว แม้กระทั่งช่างแต่งหน้าเค้าก็พูดกัน แม้จะพูดกันแบบอ้อมๆ เราก็พยายามไม่สนใจ แต่มันเหมือนเป็นปม บางครั้งเค้าเรียกงานคุณพี่ แต่พอคุณพี่แคนเซิลเค้าก็มาเรียกเรา หรือบางครั้งติดต่อเรามาก่อน แต่พอเค้าคิดว่าหน้าเราเหมือนกับพี่ เลยไปลองติดต่อพี่ แล้วก็แคนเซิลเรา"
ทำศัลยกรรมเสร็จแล้ว ชีวิตเปลี่ยนมั้ย?
บุ๊คโกะ "โดยเฉพาะเรื่องผู้ชายค่ะ เมื่อก่อนซื้อจริงๆ พอมาตอนนี้ไม่ต้องซื้อเลย ไลน์มาไม่หยุดเลย มีทั้งไลน์มาขอเงินและมาขอกินด้วย ขอโทษค่ะไม่มีทางให้แน่นอน ถามว่ามีแฟนมั้ย มีแฟนแล้วแต่ขอให้โฟกัสที่เรื่องงานค่ะ แฟนเป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่ไม่บอกหรอกว่าเป็นใคร คบกันมา 5 เดือนแล้วค่ะ"
เบลเยี่ยมล่ะ?
เบลเยี่ยม "ยัง ยังไม่มีค่ะ ยังโสดอยู่เลย ก่อนที่จะทำศัลยกรรมมีแฟนนะคะ แต่ก็อกหักเพราะเค้าคิดว่าเราไม่สวย แล้วเค้าก็บอกเลิกไป เราก็โอเค มาตอนนี้ก็ยังอยากทำงาน ยังอยากสนุกกับตรงนี้อยู่ แต่ว่าก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองนะคะ เน้นเป็นเพื่อนคุยกันดีกว่าค่ะ"
เบลเยี่ยมเห็นอย่างนี้ เคยคิดจะออกจากวงการ?
เบลเยี่ยม "ก่อนหน้านี้เราจัดรายการอยู่รายการหนึ่ง แล้วขอหยุดเค้า 3 เดือนเพื่อขอไปทำศัลยกรรมก่อนเพราะเรามีโปรเจ็คกับพี่เรา ก็หยุดไป เสร็จพอไม่กี่วันมานี้เค้าก็โทรมาขอเลื่อนไปก่อน เราก็ถามว่าถึงวันไหนเพราะเรามีคิวไปเกาหลี เค้าก็บอกว่า เหมือนว่าทางผู้ใหญ่ขอดูกระแสก่อนว่าจะกลับมามั้ย จะกลับมาดังเหมือนเดิมมั้ย เบลก็เลยขอหยุดรายการเลยดีกว่าค่ะ เพราะคือว่าเหมือนที่เราไปทำศัลยกรรม เราอยากให้ตัวเองมีความมั่นใจมากขึ้น แล้วอยากให้มูลค่าของรายการมีมากขึ้น เพราะเรารู้ว่าตัวเองไม่ค่อยสวย เราไม่ได้หน้าตาดี คือเราไม่ได้ดูถูกเงินนะคะ แต่อยากให้เค้าเห็นคุณค่าในตัวเรา แล้วเบลเจออย่างนี้มาตลอด เราก็เลยพอละ”
มีกระแสเม้าท์ว่าเราอิจฉาพี่ตัวเอง?
เบลเยี่ยม "ไม่เคยอิจฉาพี่ตัวเอง เพราะถ้าพี่ได้เราก็ได้ เราใช้เงินร่วมกัน"
มีเหตุการณ์อะไรที่รู้สึกแย่หนักมาก ว่าเค้าเอาเราเป็นเงาของบุ๊คโกะ?
เบลเยี่ยม "มีค่ะ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่บอกจะจ้างเราแล้วสรุปไปจ้างพี่บุ๊คแทนเพราะเราหน้าเหมือนกัน เราก็มาคุยกันว่า นี่เธอเค้าคิดต่อฉันมา เราก็อ้าว เค้าก็ติดต่อมาเหมือนกัน บทเดียวกันเลย แต่พี่เค้าไม่รับ เราก็รับค่ะ"
บุ๊คโกะ "คือบุ๊คโกะเคยเป็นเด็กแคสงานมาก่อน เคยไปแคสงาน 100-200 งาน แต่ได้มางานเดียว บุ๊คโกะเข้าใจความรู้สึกดีว่าถ้าความรู้สึกถ้าเราไม่ได้ เราจะสอนให้น้องเข้มแข็งเสมอและสู้ แต่เบลเยี่ยมกับบุ๊คโกะสู้มาตลอด สู้ให้สุดค่ะ”
ทำไมถึงน้อยใจและยอมแพ้ ทั้งๆ ที่เราสู้กันมาตลอด?
เบลเยี่ยม "เพราะว่าเจอแบบนี้มาตลอดค่ะ ก็เลยรู้สึกว่า เราเปลี่ยน ไม่อยากทำตรงนี้ เราไปอยู่เบื้องหลังดีกว่า ทำธุรกิจดีกว่า แล้วให้พี่เราทำไป เพราะพี่เรามีชื่อเสียงอยู่แล้ว และมาก่อนอยู่แล้ว ซึ่งพี่ก็ให้กำลังใจเรา บอกว่าไม่เป็นไรนะ เราสนิทกันมาก พี่เค้าบอกว่า งานอื่นยังมีเยอะแยะ คนที่เห็นคุณค่าในตัวเรา แล้วเราก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีความสามารถค่ะ”
บุ๊คโกะ "เราก็จะบอกน้องให้สู้กันมาตลอดค่ะ ถ้าเค้าไม่เห็นค่าเราก็ไม่เป็นไร วันหนึ่งเค้าก็จะเห็นเอง”
มีอะไรจะบอกพี่มั้ย?
เบลเยี่ยม "พี่บุ๊คเค้าเหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัวมาตลอด ตั้งแต่พ่อเสียไป พี่จะทำงานหาเลี้ยงตลอด โดยไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยเลย เค้าเป็นคนที่ให้ทุกอย่างจริงๆ ถ้าสิ่งที่เคยพูดไม่ดี ทำไม่ดี ต้องขอขมาและขอโทษพี่บุ๊คโกะด้วยค่ะ"
บุ๊คโกะ "เราผ่านความลำบากมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ไม่มีจะกินก็เคยผ่านมาแล้ว ไม่ว่าวันนี้เราจะเหนื่อยแค่ไหน ก็ขอให้มองย้อนกลับไปวันที่เราเหนื่อยมากกว่านี้ ไม่มีแม้กระทั่งไฟ ต้องขอต่อไฟข้างบ้านใช้ เราเคยผ่านอะไรมา เพราะฉะนั้นให้จำบทเรียนเหล่านั้นเอาไว้ แล้วเอามาพัฒนาตัวเองค่ะ”
อยากบอกอะไรกับคนที่เสพติดศัลยกรรม?
บุ๊คโกะ "สำหรับบุ๊คโกะ เรามองว่าเรื่องความสวยความงามเป็นเรื่องที่ทุกๆ คนจะต้องชอบอยู่แล้ว จะบอกว่ามันเป็นเรื่องของบุคคลนะคะ อะไรที่มันมากไปหรือก้าวก่ายในชีวิตเรามากไป นักเลงคีย์บอร์ดที่เคยเจอ เค้าไร้ค่ามากสำหรับเรา มันเหมือนเป็นขยะออนไลน์ เราหันกลับมาพัฒนาตนเองดีกว่าค่ะ จริงๆ แล้วเราจะว่าใครก็ได้ เราจะมีความคิดเห็นอย่างไรก็ได้ แต่ต้องอยู่บนความถูกต้อง และใจเขาใจเราค่ะ”
ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ