4 หมารุมขย้ำกัดสาวแผลเหวอะ แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ

4 หมารุมขย้ำกัดสาวแผลเหวอะ แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ

4 หมารุมขย้ำกัดสาวแผลเหวอะ แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหยื่อสาวถูกฝูงสุนัขของอดีต ตร.รุมฟัดเป็นแผลเหวอะ แต่ไม่กล้าแจ้งความ ยอมฟาดเคราะห์เพราะเจ้าของมีอิทธิพล

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังที่บ้านหลังหนึ่งในตำบลไสหมาก อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พบกับ นางสาวสุธินี เหยื่อฝูงสุนัข 4 ตัว รุมฟัดจนร่างกายเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะ กำลังพักรักษาตัวกับครอบครัวของสามี โดยสภาพบาดแผลบริเวณต้นขาทั้งสองข้าง ยังมีเลือดและน้ำเหลืองซึมออกมาอย่างเห็นได้ชัด ส่วนที่บริเวณสะโพกและลำตัวอยู่ในสภาพเดียวกัน

นางสาวสุธินี เล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่พี่สาวได้โทรศัพท์ให้ไปรับที่ข้างสำนักงานที่ดิน จึงขับรถจักรยานยนต์เข้าไปโดยจุดที่เกิดเหตุนั้นเป็นทางเล็กๆ ข้างสำนักงานที่ดิน แต่เมื่อเข้าไปถึงมีสุนัขขนาดใหญ่ 4 ตัว เข้ามารุมกัด

ขณะนั้นมีเด็กชายเด็กหญิงซึ่งน่าจะเป็นครอบครัวเจ้าของสุนัข ตนจึงได้พยายามร้องให้ช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้นได้พยายามเรียกสุนัขและนำขนมล่อสุนัขจนสุนัขผละออกไป จากนั้นจึงพยายามขอร้องให้นำตัวส่งโรงพยาบาล

เหยื่อฝูงสุนัขบอกด้วยว่า ขณะเกิดเหตุนั้นพยายามที่จะลุกขึ้นยืน หากนอนอยู่กับที่สุนัขอาจกัดคอหรือฟัดถึงแก่ชีวิตได้แน่นอน และพยายามป้องกันส่วนท้องและลำตัว เนื่องจากหากตนถูกกัดอย่างรุนแรงบริเวณท้องอาจส่งผลรุนแรงได้เนื่องจากเป็นคนรูปร่างเล็กและผอมบาง

พ่อตาของนางสาวสุธินี บอกว่า รู้สึกเสียใจที่เจ้าของสุนัขไม่ได้ดูแลคนเจ็บเลย มาเยี่ยมสักหน่อยก็ยังดี เจ้าของสุนัขนั้นชาวบ้านแถวรู้จักกันดีในชื่อ “จ่าชิด” ทราบเพียงว่าเป็นนายตำรวจนอกราชการ ส่งลูกเขยมาดูที่โรงพยาบาล และเมื่อมาดูบาดแผลบอกเพียงว่า โดนแค่นี้ถือว่าน้อยไป คนอื่นโดนมากกว่านี้แล้วกลับไปเลย

ส่วนคนอื่นๆ ที่มาดูบอกว่าสุนัขเหล่านี้กัดคนมาแล้วหลายคน แต่เจ้าของไม่เคยชดใช้ค่าเสียหายให้ใครหรือมาดูแลใคร อ้างว่าเป็นที่ดินส่วนตัวคนเข้ามาแล้วถูกหมากัดเอง และไม่มีใครเคยเอาเรื่องใดๆ ได้

นายพิชัย บอกด้วยว่า ยังไม่ได้แจ้งความใดๆ เพียงแต่ไปปรึกษาร้อยเวร ร้อยเวรบอกว่าจะเรียกมาพูดคุยตกลงกันก่อน และเมื่อมีการมาพูดคุยเขาส่งลูกเขยคนเดิมมาคุยแล้วบอกว่าจะต้องไปถามพ่อพร้อมจะโทรศัพท์มาบอก หลังจากที่เงียบหายไปจึงโทรไปสอบถามปรากฏว่าลูกเขยของบอกเพียงว่า “พ่อบอกว่าจะไม่ชดใช้ใดๆ หากจะทำเรื่องก็ให้ทำไปเลย”

“เข้าใจว่าจะอ้างว่าที่เกิดเหตุเป็นที่ดินของเขา ซอยของเขาแต่เด็กมันหลงเข้าไปนึกว่าจะเป็นทางลัด มาเกิดเหตุขึ้นเด็กมันไม่ได้เป็นโจร และยิ่งเมื่อผมสอบถามเพื่อนฝูงในย่านนั้นต่างบอกว่าเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งอาการสาหัสก็มี ไม่มีใครกล้าเอาเรื่องเอาราว ผมเป็นพ่อตาและได้คุยกับพ่อของสุธินีแล้ว ยอมรับว่าไม่กล้าแจ้งความอีกแล้ว และไม่อยากไปมีเรื่องราวกับเขาเด็กมันยังต้องทำงาน และผมต้องทำงานไปมาหลายที่ผมไม่อยากมีเรื่อง เรื่องนี้ถือว่าฟาดเคราะห์ต้องทำใจ ผมย้อนกลับไปดูที่เกิดเหตุก็พบว่ามีการเปลี่ยนป้ายให้ใหญ่ขึ้น เตือนถึงสุนัขดุแล้ว” นายพิชัยกล่าว

ขณะที่เมื่อผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบในจุดดังกล่าวพบว่าอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานที่ดินอำเภอปากพนัง มีประตูเหล็กสองข้างแต่ไม่ได้ปิดไว้ พร้อมทั้งมีป้ายเตือนสุนัขดุขนาดใหญ่ และไม่พบว่ามีใครผ่านเข้าออกจึงต้องถอยออกมาเนื่องจากเกรงอันตรายจากสุนัข

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook