เปิดใจ พ่อแม่หมอปอ ข้องใจกิ๊กขับรถรับ-ส่ง ว่าที่เจ้าบ่าวฆ่าลูกสาว แต่ไม่ถูกจับ
จากกรณี นายรณชัย หรือ เก่ง อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ว่าที่เจ้าบ่าว สวมหมวกไอ้โม่งไหมพรมอำพรางใช้ปืนลูกซองสั้นบุกยิง นางสาวนนทิญา หรือ ปอ อายุ 25 ปี เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข รพ.แห่งหนึ่ง ว่าที่เจ้าสาวที่จะแต่งงานกันในอีก 5 วัน ตายภายคาห้องนอนชั้นสองบนบ้านพักข้าราชการ
ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันจันทร์ที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจจับกุมตัวสาเหตุไม่อยากแต่งงานด้วย เนื่องจากมีกิ๊กคนใหม่ทำงานอยู่ที่เดียวกันตามข่าวที่เสนอนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด (20 ธ.ค.) เมื่อเวลา 20.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 10 ตำบลทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นางสาวมนทิญา หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “หมอปอ” ซึ่งเป็นคืนแรก หลังจากนำศพกลับมาจากสถาบันนิติเวชสุราษฎร์ธานี
โดยมีบรรดาญาติๆ ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านมาร่วมงานกว่า 100 คน หลังพระสวดพระอภิธรรมศพ ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตจับไมค์ประกาศต่อหน้าแขกเหรื่อว่า ทางพ่อแม่และญาติของนางสาวนนทิญาผู้ตายจะบำเพ็ญกุศลศพไปอย่างไม่มีกำหนดเผา เพื่อรอความเป็นธรรมให้กับผู้ตาย
เนื่องจากคดียังไม่มีความชัดเจนยังไม่มันใจการดำเนินคดีของตำรวจ และหากไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะนำศพไปประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรม ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ขณะที่บรรดาญาติๆ และชาวบ้านต่างยกมือสนับสนุนเห็นดีด้วย
จากการสอบถาม นายเชาว์ อายุ 54 ปี นางสมศรี อายุ 51 ปี พ่อแม่ของ นางสาวมนทิญา หรือ “หมอปอ” กล่าวว่าครอบครัวตนยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นกิ๊กของนายรณชัย หรือ เก่ง ว่าที่ลูกเขย ซึ่งมีพฤติกรรมร่วมกันกระทำความผิดรู้เห็นตั้งแต่เตรียมการ
และยังเป็นคนขับรถเก๋งคันของตนเองไปส่งและรับนายรณชัย ก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุพาหลบหนี แล้วนำของกลางบางส่วนไปทิ้งลงลำคลอง เพราะนายรณชัยไม่มีรถยนต์และขับไม่ชำนาญ
อีกทั้งตนรู้ดีว่านายรณชัยเป็นคนหัวอ่อน จะต้องมีคนชักนำหรือกดดันให้ก่อเหตุ ที่ผ่านมานายรณชัยเข้าออกอาศัยอยู่ที่บ้านของตนเป็นประจำ ไม่เคยมีอาวุธปืนซึ่งจะต้องมีคนจัดหาให้ เพราะก่อนเกิดเหตุ นางสาวนนทิญาเคยมีปัญหาทะเลาะกับฝ่ายหญิงที่เป็นกิ๊กของนายรณชัยหลายครั้ง ทำให้มีความโกรธแค้นส่วนตัวกับลูกสาวของตนมาตลอด
จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีส่วนรู้เห็นและร่วมสนับสุนกระทำความผิดในครั้งนี้ และทรัพย์สินของลูกสาวตนจำนวนหนึ่งหายไปทั้งเงินสินสอด 4 แสนบาท ทองคำ 10 บาท ที่ลูกสาวตนจัดเตรียมไว้ให้เจ้าบ่าวและยังมีทองคำส่วนตัวของลูกสาวตนอีก 5 บาท ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด และเงินในสมุดบัญชีที่ทั้งคู่ฝากร่วมกันอีก 6-7 แสนบาทก็หายไปเช่นกัน
นายเชาว์และนางสมศรี กล่าวต่อว่า การจัดงานแต่งงานลูกสาวตนจะเป็นผู้ดำเนินการและออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ซึ่งก่อนตายยังบอกกับตนว่าทุกอย่างได้จัดเตรียมไว้พร้อมทั้งหมดแล้ว ขณะที่นายรณชัยว่าที่ลูกเขยทางลูกสาวตน จะคอยดูแลช่วยเหลือมาตลอดและพาไปสอบเข้าทำงาน
เพราะเขามีฐานะไม่ค่อยดีไม่มีรถยนต์ขับ ตนก็ให้รถจักรยานยนต์ไว้ใช้ขับทำงาน 1 คัน ครอบครัวตนมีลูกสองคน ผู้ตายเป็นลูกสาวคนสุดท้อง เรียนจบได้ทำงานรับราชการถือเป็นหลักของครอบครัว
ก่อนเกิดเหตุวันเสาร์-อาทิตย์ นายรณชัยยังมานอนที่บ้านอยู่กับลูกสาวตนพอช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 18 ธ.ค. ยังรีดเสื้อผ้าชุดทำงานสีกากีให้นายรณชัยใส่ และยังขับรถเก๋งไปส่งที่สำนักงานการไฟฟ้าหลังสวน แล้วลูกสาวตนก็ขับต่อไปที่ทำงานที่ รพ. แต่ทำไมช่างเลือดเย็นใจร้ายอย่างนี้
พอตกกลางคืนให้กิ๊กขับรถเก๋งพาไปฆ่าลูกสาวตนที่ดีแสนดีกับเขาจนตายอย่างโหดเหี้ยม จากงานวิวาห์ที่ได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเหลือเวลาอีก 5 วันเท่านั้น แต่ต้องกลับกลายมาเป็นงานศพของลูกสาวตนเอง