ไปรษณีย์ชี้แจงกรณีกำไล 1.5 แสน สูญหายในเส้นทางระหว่างขนส่ง

ไปรษณีย์ชี้แจงกรณีกำไล 1.5 แสน สูญหายในเส้นทางระหว่างขนส่ง

ไปรษณีย์ชี้แจงกรณีกำไล 1.5 แสน สูญหายในเส้นทางระหว่างขนส่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่ นายกรวิวัฒน์ อายุ 26 ปี นักออกแบบและเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ในจังหวัดเชียงใหม่ นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.พิชิต เสล่า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีกับไปรษณีย์ หลังจากได้ส่งจิวเวลรี่ทางพัสดุลงทะเบียนอีเอ็มเอส พร้อมซื้อประกันการสูญหายเพิ่มเป็นเงิน 815 บาท แต่ปรากฏว่าพัสดุสูญหายระหว่างการขนส่ง

>>>หนุ่มโร่แจ้งความ กำไล 1.5 แสน สูญหาย ทั้งที่ส่งไปรษณีย์แบบมีประกัน

ล่าสุด วันนี้ (21 ธ.ค.) ไปรษณีย์ไทยชี้แจงกรณีผู้ใช้บริการร้องเรียนเรื่องจิวเวลรี่ที่ฝากส่ง สูญหายในเส้นทางไปรษณีย์ตามที่มีเผยแพร่ไปแล้วนั้น

ไปรษณีย์ไทย หลังจากทราบเหตุการณ์ดังกล่าวก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการเร่งด่วน ในเบื้องต้นขอเรียนชี้แจงว่า สิ่งของที่ฝากส่งทางไปรษณีย์ชิ้นที่ผู้ร้องเรียนอ้างถึง เป็นสิ่งของที่ฝากส่งในบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ซึ่งผู้ใช้บริการฝากส่งจากต้นทางที่ทำการไปรษณีย์ตลาดคำเที่ยง ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ไปยังปลายทางจังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2560 ซึ่งผู้รับปลายทางยังไม่ได้รับสิ่งของตามที่กำหนด จึงเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ไปรษณีย์ไทย ตรวจสอบแล้วพบว่าสิ่งของชิ้นดังกล่าวถูกลักลอบไปโดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทขนส่งเอกชนที่ไปรษณีย์ไทยว่าจ้างขนส่งในเส้นทางไปรษณีย์ ซึ่งมีเจตนาไม่ส่งพัสดุดังกล่าวไปยังจุดหมายปลายทาง และลักลอบแกะกล่องพัสดุพร้อมกับขโมยสิ่งของภายใน

จากเหตุดังกล่าว ไปรษณีย์ไทย ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าพบผู้ร้องเรียนเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม พร้อมแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดีจนเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นไปรษณีย์ไทยพร้อมชดใช้ค่าเสียหายตามมาตรฐานที่ไปรษณีย์กำหนดไว้ และจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหายให้เหมาะสมโดยเร็วที่สุดต่อไป พร้อมกับขออภัยผู้ใช้บริการ มา ณ ที่นี้

พร้อมกันนี้ ไปรษณีย์ไทย ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานทุกสังกัดกำกับดูแลการปฏิบัติงานของพนักงาน/ลูกจ้าง รวมไปถึง  ผู้รับจ้างขนส่งทุกคนอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้มีมาตรฐานเดียวกันเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการควบคู่ไปกับการพัฒนาเครือข่ายการขนส่งให้มีมาตรฐานในระดับสากล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook