พ่อเก่ง วอนสังคมหยุดซ้ำเติม สิ่งที่ลูกชายทำไปก็เสียใจไม่แพ้กัน

พ่อเก่ง ว่าที่เจ้าบ่าวสุดโหดฆ่าหมอปอ เปิดใจวอนสังคมหยุดซ้ำเติมครอบครัว เสียใจกับสิ่งที่ลูกชายทำลงไป รักและเสียดายว่าที่สะใภ้ หวังได้มีโอกาสไปขอขมาแทนลูก

จากกรณีที่ นายเก่ง อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอำเภอหลังสวน จ.ชุมพร ว่าที่เจ้าบ่าว สวมหมวกไอ้โม่งไหมพรมอำพรางใช้ปืนลูกซองสั้นบุกยิง หมอปอ แฟนสาวอายุ 25 ปี เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข รพ.สต.สลุย ว่าที่เจ้าสาวที่มีกำหนดจะแต่งงานในวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา เสียชีวิตภายในบ้านพัก อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เมื่อกลางดึกวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ลงมือก่อเหตุได้ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางไปยังบ้านเกิดของนายเก่ง ก่อนจะก็ได้พบกับ นายวินัย อายุ 58 ปี บิดาของนายเก่ง ที่เพิ่งเดินทางกลับจากไปเยี่ยมลูกชายที่ จ.ชุมพร กำลังนั่งพูดคุยอยู่กับญาติพี่น้องบริเวณหน้าบ้าน เมื่อสอบถามนายวินัย ถึงความรู้สึกในฐานะผู้เป็นพ่อเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะลูกชายตัวเองต้องถูกจับติดคุก ทั้งยังต้องสูญเสียว่าที่ลูกสะใภ้ไปพร้อมกัน

นายวินัย บอกว่า น้องปอนั้น ตนก็รักเหมือนลูก เพราะปอเป็นเด็กนิสัยดี ทั้งตนและครอบครัวก็ดีใจที่ทั้งสองจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น โดยเฉพาะหัวอกคนเป็นพ่อแม่ แทบไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะปกติลูกชายเป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยพูด ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นลูกมีพฤติกรรมกระทำรุนแรงหรือทะเลาะวิวาทกับใคร จึงไม่คิดว่าลูกจะคิดสั้น จบอนาคตตัวเองแบบนี้ หากย้อนเวลากลับไปได้อยากให้ลูกชายโทรมาปรึกษา ก็จะช่วยหาทางออกหรือแก้ไขปัญหาให้

นายวินัย ยังระบุอีกว่า หลังจากสื่อต่างๆ มีการนำเสนอข่าวออกไป ทางครอบครัวก็รู้สึกเครียดมาก ไม่อยากจะเปิดดูข่าว เพราะถูกวิจารณ์อย่างหนัก อยากวิงวอนขอความเห็นใจจากสังคม หยุดโจมตีซ้ำเติมครอบครัว เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทุกวันนี้ครอบครัวก็เสียใจและเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากอยู่แล้ว

ส่วนตัวยืนยันว่าอยากจะไปเคารพศพของน้องปอ ไปแสดงความเสียใจและขอโทษครอบครัวน้องปอด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย แต่ก็จะหาโอกาสไปขอโทษครอบครัวน้องปอแน่นอน ส่วนเรื่องเงินสินสอดตนไม่ขอพูดถึง เพราะไม่อยากให้มีปัญหาโต้กันไปมา

ขณะที่ ลุงของนายเก่ง เปิดเผยว่า ไม่คาดคิดว่าหลานจะก่อเหตุดังกล่าว การกระทำค้านกับนิสัยของหลานมาก แต่ก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าหลานได้ทำจริง แต่ด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง เป็นเรื่องคนสองคนที่จะรู้ดีที่สุด แต่จากกระแสสื่อหรือโซเชียลยอมรับว่า ส่งผลกระทบกับครอบครัวญาติพี่น้องเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลูกหลานที่ไปเรียนหนังสือก็จะถูกเพื่อนล้อว่าเป็นญาติฆาตกร กระทบกับสภาพจิตใจจึงอยากขอความเห็นใจจากสังคมและวิงวอนให้โซเชียลมีเดียหยุดโจมตีซ้ำเติมกัน