ศาลพิพากษาคุก 7 โจ๋รุมฆ่าชายพิการขายขนมปัง 12-19 ปี

ศาลพิพากษาคุก 7 โจ๋รุมฆ่าชายพิการขายขนมปัง 12-19 ปี

ศาลพิพากษาคุก 7 โจ๋รุมฆ่าชายพิการขายขนมปัง 12-19 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

( 26 ธ.ค.) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษา คดีที่วัยรุ่น 7 คน คือ นายพีรพล หรือ เปา อายุ 22 ปี , นายอัครเดช หรือ อั๋น อายุ 23 ปี , นายมนต์มนัส หรือ เต้ย อายุ 22 ปี , นายจตุพร หรือ เบียร์ อายุ 19 ปี , นายเมฆ อายุ 20  ปี , นายอรินทร์ หรือ เตอร์  อายุ 20 ปี และ น.ส. ณัฐณิชา หรือ เกมส์ อายุ 19 ปี จำเลยที่ 1 -7 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังบุกเข้าไปภายในบ้านพักของ นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการ อาชีพส่งขนมปังร้านปังหอม ในซอยโชคชัย 4 แล้วใช้อาวุธมีดแทงฟันนายสมเกียรติจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2559

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้มีพยานบุคคลพยานวัตถุภาพถ่ายภาพเคลื่อนไหว เหตุการณ์ซึ่งเป็นหลักฐานมั่นคงและขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลา 08.00 – 09.00 น. มีแสงสว่างเพียงพอ มีกล้อง CCTV ของกรุงเทพมหานครและกล้องมือถือที่ถ่ายไว้จากพยานซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายใด เชื่อว่าพยานเบิกความไปตามข้อเท็จจริง พิพากษาว่าจำเลยที่ 1 – 7 มีความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม ฐานบุกรุก

พิพากษาความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุกจำเลยที่ 1 ,2 ,3 และ 6 คนละ 18 ปี, ฐานบุกรุกเข้าไปในเคหสถานผู้อื่น จำคุกจำเลยที่ 2, 4, 5 และ 6 คนละ 1 ปี, ฐานช่วยเหลือสนับสนุนอำนวยความสะดวกผู้อื่นกระทำผิด จำคุกจำเลยที่ 4 , 5 และ 7 คนละ 12 ปี, ฐานข้อหาพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ให้ปรับจำเลยที่ 1 - 6 คนละ 1,000 บาท

สรุป คงจำคุกจำเลยที่ 1 และ 3 คนละ 18 ปี ปรับคนละ 1,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 และ 6 รวมโทษจำคุกคนละ 19 ปี ปรับคนละ 1,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 4, 5 และ 7 จำคุกคนละ 12 ปี ปรับจำเลยที่ 4 - 5 คนละ 1,000 บาท

นอกจากนี้ให้จำเลยที่ 1, 2, 3 และ 6 ร่วมกันชดใช้เงินให้กับโจทก์ร่วมค่าขาดไร้ผู้อุปการะและอื่นๆ จากการกระทำละเมิดรวม  5 แสนบาท และให้จำเลยที่ 4, 5 และ 7 ร่วมกับจำเลยที่ 1, 2, 3  และ 6 ชดใช้เงินแก่โจทก์ร่วมเป็นค่าปลงศพอีก 2.5 แสนบาท

ภายหลัง นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ระบุว่า คดีนี้ตนเองชี้แจงตั้งแต่ต้นแล้วว่า พฤติการณ์ของกลุ่มจำเลยเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่พนักงานสอบสวนกลับไม่แจ้งข้อหานี้ตั้งแต่ต้น ทำให้กลุ่มจำเลยได้รับโทษน้อยกว่าที่ควร แต่ทั้งนี้ก็น้อมรับในคำพิพากษาของศาล และเตรียมที่จะอุทธรณ์คดี ในประเด็นของอัตราโทษที่น้อยเกินไป อยากให้ศาลมีการเพิ่มโทษให้มากกว่านี้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook