พชร์ อานนท์ โดนด่าส่งท้ายปี ขอโอกาสให้ ปืน ยืนยันไม่ใช่คนเลว
ดราม่าตั้งแต่มิวสิควีดีโอเพลงประกอบภาพยนตร์อย่างกันเลยทีเดียว สำหรับหนังภาคต่อ “หลวงพี่แจ๊ส 5G” ของผู้กำกับร้อยล้าน “พชร์ อานนท์” ที่ดึงเอาสองแม่ลูกจากคลิปฉาว “ด่าตำรวจ” มาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว
แถมบทบาทที่ทั้งคู่ได้รับก็ยังมีความละม้ายคล้ายคลึงกับพฤติกรรมดราม่าในอดีต จนเป็นเหตุให้บรรดาชาวเน็ตรู้สึกไม่พอใจ ถึงขนาดเปิดประเด็นพิพากษ์วิจารณ์ผู้กำกับชื่อดังอย่างเผ็ดร้อนในโลกออนไลน์
โดยล่าสุดทางด้านของ “พชร์ อานนท์” ก็ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจถึงกระแสวิจารณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรง ณ อาคาร GMM Studio โดยผู้กำกับชื่อดังได้เผยว่า
“สำหรับเพลง สาธุ 5G ที่เราปล่อยออกมาก่อนภาพยนตร์นั้น ก็เป็นเพราะว่าเราอยากให้แฟนๆ ได้ฟังกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ และอยากให้เพลงติดตลาดก่อนที่ภาพยนตร์จะถูกฉายจริงช่วงสงกรานต์ ซึ่งตอนแรกที่เราปล่อยเพลงนี้ออกมาเราก็ไม่ได้คิดอะไรนะ เพราะเราก็แค่ปล่อยให้คนได้ฟังตามปกติ แต่อยู่ดีๆ ก็มีดราม่าออกมา ในส่วนของน้องปืนที่อยู่ในช่วงท้ายของมิวสิควีดีโอ”
“ซึ่งจริงๆ แล้วในตัวภาพยนตร์มันมีเนื้อหามากกว่านั้นนะในส่วนที่เป็นของน้องกับแม่ เพราะมันเป็นฉากที่พระแจ๊สกำลังเดินบิณฑบาตและบังเอิญเจอกับสองแม่ลูกคู่นี้พอดี ซึ่งก็มีบทสนทนากันสั้นๆ ก่อนที่น้องจะเริ่มพูดเหมือนในคลิปที่ตัดออกมาให้ได้ดูกัน แต่มันก็จะมีการสอนของพระแจ๊สสอดแทรกเข้าไปด้วย ก็คือการเตือนน้องปืนว่า “ถ้าหากเขาไม่มีสติชีวิตเขาจะพัง” อีกอย่างตัวเขากับแม่ก็ไม่ได้เล่นทั้งเรื่องนะครับ แค่รับเชิญสั้นๆ เท่านั้น”
สังคมมองว่าเราสนับสนุนคนทำผิดกฎหมาย ?
“ด่าตำรวจผิดกฎหมายตรงไหน เขาหมิ่นประมาทไปแล้ว เขาโดนจับไปแล้วใช่ไหม แล้วน้องเขาไม่ได้ฆ่าคนตายนะ เขาไปยิงใครตาย หรือขายยาเสพติดหรือเปล่า คือเขาไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย เขาแค่โมโหและดันไปด่ากับผู้พิทักษ์กฎหมาย ซึ่งถ้าถามพี่ว่าทำไมพี่ไม่ใช่คนอื่นมาแสดงแทนเขา คือถ้าหากพี่เอาสแตนอินมาเล่นมันก็จะไม่มันส์เท่าตัวจริงหรือเปล่า แต่ว่าตัวจริงเขาก็ไม่ได้เป็นคนเลวคนชั่วเลยนะ และเขาก็ขอโทษสังคมไปแล้วด้วย”
อย่างที่สุดน้องเขาออกมาชี้แจงว่าตอนแรกที่ติดต่อมา คือให้เขาไปด่าลูกศิษย์ ไม่ใช่ให้เขาไปด่าพระ ?
“อย่างที่บอกพี่ติดต่อน้องผ่านโมเดลลิ่งท่านหนึ่ง ซึ่งพี่ก็ไม่รู้ว่าเขาไปคุยกับเด็กแบบไหนอันนั้นเป็นในส่วนของเขา แต่ว่าพอเด็กมาเจอพี่พี่ก็บอกเขาไปว่าให้เขาเนี่ยมาด่าสวนกันกับพระแจ๊ส และบทมันก็เป็นการยกตัวอย่างเพื่อสอนคนดูด้วย เพราะพระแจ๊สเขาจะบอกว่า “โยมต้องมีสตินะ เพราะถ้าไม่มีสติชีวิตโยมจะพัง” พี่จำบทชัวร์ๆ ไม่ได้นะ แต่จำได้คร่าวๆ ว่าประมาณนี้”
กังวลไหมตอนแรกที่ติดต่อน้องมาร่วมงาน ?
“พี่ไม่ได้คิดว่าน้องเขาเป็นคนเลวไง พี่คิดแล้วพี่ถึงได้ทำ เพราะพี่รู้สึกว่าน้องเขาไม่ได้ทำชั่วหรือว่าทำผิดอะไร อีกอย่างน้องเขาก็ต้องเลี้ยงครอบครัวด้วย คือจะไม่ให้โอกาสเขาเลยเหรอ เราจะไม่ให้โอกาสคนคนหนึ่งเหรอ ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องพี่ยังไม่ได้คุยกับน้องเลยนะ แต่คิดว่าเดี๋ยวเย็นนี้คงได้เจอกัน”
หลายคนมองว่าการที่พี่ทำแบบนี้เพราะอยากสร้างกระแสให้ภาพยนตร์ ?
“ฉายตั้งสงกรานต์จะมาสร้างกระแสได้ยังไง แต่ที่มันเป็นกระแสก็เพราะมีคนกลุ่มหนึ่งที่เขาคอยเชียร์พี่ สนับสนุนพี่ ไม่ว่าพี่ทำอะไรก็จะด่า ถ้าไม่มีคนกลุ่มนี้คนคงลืมพี่ไปแล้ว ต้องขอบพระคุณมาก”
แต่เหมือนตอนนี้คนไม่ได้ด่าแค่น้องคนเดียว แต่หลายๆ คนที่มีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็โดนด่าไปด้วย ?
“คือถ้าด่าพี่นะ พี่ถือว่าเป็นปกติ พี่ชินแล้ว แต่ด้วยความคิดของพี่บางครั้งมันอาจจะไม่ถ้วนถี่ ยังไงพี่ก็ต้องขอโทษด้วย”
ณ ตอนนี้เราคิดไว้ไหมว่าจะตัดฉากนี้ออกจากภาพยนตร์ เพราะคนด่าเยอะ ?
“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็คงต้องตัดหนังทั้งเรื่องเลย คงไม่ได้ฉายอะไรอีกแล้ว เพราะพอมีคนด่าพี่ก็ต้องตัด แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจมันต้องมีการประชุมก่อน”
น้อยใจไหมไม่ว่าเราจะทำอะไรก็โดนด่าตลอด ?
“พี่เป็นสายล่อฟ้าไง ไม่ว่าพี่จะทำดีหรือทำชั่วพี่ก็โดนด่าอยู่ดี ทำหนังดีๆ ได้รางวัลก็ดี ทำหนังปัญญาอ่อนก็ด่า แล้วจะให้พี่หากินอะไร”
สรุปแล้วมันคือการตลาดของเราไหม ?
“การตลาด คือจะให้พี่บอกว่าไม่ใช่ได้ยังไง เพราะมันคือการตลาดวิธีหนึ่ง แต่พี่ไม่ได้คิดถึงว่าจะมีคนมาด่าอะไรแบบนี้ พี่แค่คิดว่าในหนังมันจะมีอะไรมากกว่าอีก”
เคยคิดจะเลิกทำหนังแนวนี้หรือเปล่า ?
“ไม่คิดเลิกทำหนังเลย เพราะหนังแต่ละเรื่องมันมีสไตล์ต่างกัน หนังหลวงพี่แจ๊สก็เป็นสไตล์เสียดสีสังคม ที่มีธรรมะเข้าไปสอน”
ล่าสุด พี่อ๊อด บัณฑิต เขาโพสต์อยากให้เราพิจารณาตัดฉากนี้ออก ?
“พี่อ๊อดก็เคยมีปัญหานะ ก็เคยมีปัญหาอยู่นะพี่อ๊อดเกี่ยวกับเรื่องเซนเซอร์”
กลัวไหมว่าจะถูกห้ามฉายสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ?
“จะระงับห้ามฉายได้ยังไง พี่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ลองไปดูหนังสิหนังมันสอนทั้งเรื่อง และฉากที่เห็นมันก็แค่อยู่ในมิวสิควีดีโอ แถมหนังยังถ่ายไม่เสร็จเลยด้วย แต่อย่างที่พี่บอกถ้าหากพี่ผิดพี่ก็ต้องขอโทษ เพราะพี่อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ต้องขอโทษด้วย”
คนที่ไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้อะไร ?
“ได้ความบันเทิง ได้เสียงหัวเราะ และก็อยากจะขอบคุณแฟนๆ ที่ตามด่าพี่มาทุกเรื่อง ขอบคุณที่สนับสนุนพี่มาตลอด และเจตนาของภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ ก็คืออยากจะสอนให้คนมีสติ ถ้าหากได้ดูหนังเต็มๆ แล้วจะรู้ว่าหนังมันเล่าเรื่องยังไง ที่คุณเห็นมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น อย่าเพิ่งเป็นกระต่ายตื่นตูม”
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ