ฟังอีกมุม ลูกชายปู่ 106 ปี ทวงที่ดินคืนจากลูก สุดช้ำ ถูกตราหน้าเนรคุณ

ฟังอีกมุม ลูกชายปู่ 106 ปี ทวงที่ดินคืนจากลูก สุดช้ำ ถูกตราหน้าเนรคุณ

ฟังอีกมุม ลูกชายปู่ 106 ปี ทวงที่ดินคืนจากลูก สุดช้ำ ถูกตราหน้าเนรคุณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภายหลังจากเรื่องราวของพ่อเฒ่าปลอด อายุ 106 ปี ร้องต่อศาลเพิกถอนการให้ที่ดินกลับคืนมา หลังจากยกให้ กับลูกชาย นายปลอบ อายุ 65 ปี และหลานชาย นายพิชิตศักดิ์ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นนายศุภณิช อายุ 32 ปี  ลูกชายของนายปลอบ

จนกระทั่งศาลจังหวัดทุ่งสง สั่งให้สำนักงานบังคับคดีจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำการบังคับคดียึดที่ดินโฉนด เลขที่ 39775 เลขที่ดิน 16 หน้าสำรวจ 2730 ของนายพิชิตศักดิ์ หรือ นายศุภณิช และโฉนดเลขที่ 39776 เลขที่ดิน 12 หน้าสำรวจ 2733 ของนายปลอบ และให้ส่งเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และนายพิชิตศักดิ์ หรือ นายศุภณิช  คืนที่ดินจำนวน 20 กว่าไร่กว่าภายใน 15 วันจากหนังสือสั่งการลงวันที่  21 ,22 ธ.ค.2560

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (28 ธ.ค.) นายปลอบ กล่าวว่า จากกรณีเรื่องที่นายปลอดผู้เป็นพ่อฟ้องร้องตนเองมาจากกรณีที่ดินที่มอบให้นายพิชิตศักดิ์ หรือ นายศุภณิช บุตรชายตนเอง จำนวน 2 ไร่กว่า ทำให้นายประเสริฐ น้องชายต่างมารดา ไม่พอใจ จึงได้มีปัญหามาตลอดถึงขั้นไล่ฆ่ากัน

นายประเสริฐได้ใช้อาวุธปืนขนาด.38 ออกมายิงนายพิชิตศักดิ์อาการสาหัสเมื่อปี 55 และได้รักษาตัวจนหาย โดยขณะเกิดเหตุนายประเสริฐ พร้อมลูกชายของเขาคือนายจักรพันธ์ เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวได้จนเรื่องถึงชั้นศาลทั้งคู่ถูกจำคุก 12 ปีปัจจุบันยังอยู่ในเรือนจำ

เรื่องนี้ทำให้นายปลอด ผู้เป็นพ่อเสียใจมากพยายามขอร้องไม่ให้มีการดำเนินคดี แต่นายพิชิตศักดิ์ถูกยิงปางตายกระสุนถูกท้ายทอยทะลุปาก โชคดีรอดชีวิตหวุดหวิดซึ่งเป็นคดีที่ไม่สามารถยอมความได้อยู่แล้ว แต่หลังจากนั้นได้มีการฟ้องร้องเพิกถอนการให้ ซึ่งศาลได้พิจารณาไกล่เกลี่ยตกลงกันได้

โดยที่ส่วนตัวเองจะต้องจ่ายเดือนละ 5,000 บาท นายพิชิตศักดิ์ ผู้เป็นหลานจ่ายเดือนละ 3,000 บาท และมีการบันทึกแนบท้ายหากนายปลอด  ผู้เป็นพ่อเสียชีวิต ตนเองต้องจ่ายอีก 150,000 บาท จึงได้มีการบันทึกเป็นหลักฐาน โดยหากผิดข้อตกจะทำให้สามารถบังคับคดีได้

“ผมยืนยันว่าผมและลูกซึ่งเป็นหลานปู่ของพ่อผมคือนายปลอด ไปจ่ายเงินเข้าบัญชี ผ่านธนาคาร ธกส.สาขาทุ่งสง ทุกเดือนมีหลักฐานการนำเงินเข้าบัญชี แต่ยอมรับว่าผมไม่รู้เรื่องขั้นตอนศาลไม่ได้นำเอาหลักฐานการเข้าบัญชีไปส่งให้ศาล

จนมาทราบเรื่องว่ามีเอกสารจากศาลแจ้งการบังคับคดียึดที่ดินคืน โดยวันนี้ได้นำเอาเอกสารการนำเข้าบัญชีไปส่งให้ศาลแล้ว และไม่ทราบว่าที่นำเงินเข้าบัญชีไปนั้นมีการเบิกจ่ายโดยใครหรือไม่ ส่วนตัวเองนั้นได้ส่งไปทุกเดือน” นายปลอบ กล่าว

อย่างไรก็ตามช่ วงเย็นที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสมพร ชอบทำกิจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลถ้ำใหญ่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แจ้งว่าหลังจากที่นายปลอบได้นำเอาเอกสารหลักฐานทางการเงินที่ส่งเข้าบัญชีทุกเดือนไปยื่นต่อศาล

ศาลได้รับเข้าสู่ระบบเพื่อแจ้งต่อสำนักงานบังคับคดีเพิกถอนคำสั่งการบังคับคดี เนื่องจากการโอนเงินนั้นยังอยู่ในข้อตกลงแนบท้ายสำนวนการไกล่เกลี่ยเมื่อปี 2559 แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook