รวบน้าพร้อมเพื่อน ลวงหลานชายแท้ๆ ทุบหัวฆ่าโหดกลางทุ่งนา

รวบน้าพร้อมเพื่อน ลวงหลานชายแท้ๆ ทุบหัวฆ่าโหดกลางทุ่งนา

รวบน้าพร้อมเพื่อน ลวงหลานชายแท้ๆ ทุบหัวฆ่าโหดกลางทุ่งนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(28 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้พบศพ นายทศพล อายุ 39 ปี ถูกทำร้ายด้วยการใช้ของแข็งกระหน่ำตีบริเวณท้ายทอยเป็นแผลฉกรรจ์ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บริเวณทุ่งนาติดริมคลองส่งน้ำบ้านทุ่งไผ่ ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์  เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่ทราบสาเหตุ  

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะคำ ก็ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน พร้อมสืบสวนสอบสวนหาชนวนเหตุ และเบาะแสคนร้ายที่ลงมือสังหารนายทศพล กระทั่งต่อมาทราบตัวผู้ก่อเหตุ เนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจน จึงได้ขออนุศาลจังหวัดนางรอง ออกหมายจับผู้ก่อเหตุจำนวน 2 คน คือ นายอำนาจ อายุ 46 ปี  ซึ่งเป็นน้องชายแม่ของผู้ตาย หรือมีศักดิ์เป็นน้าแท้ๆ ของผู้ตายเอง และนายสิม อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเพื่อน 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันลงมือฆ่านายทศพลจริง โดยนายอำนาจ ผู้เป็นน้าได้เป็นคนไปล่อลวงนายทศพล หลานชายมาจากบ้าน โดยใช้อุบายหลอกว่าจะพาไปดูต้นไม้ที่จะพากันไปตัดเพื่อนำไปขายที่บริเวณทุ่งนาจุดที่พบศพ  เมื่อนายทศพล หลงเชื่อเดินทางไปด้วย เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุก็ไปพบกับนายสิม รออยู่ที่จุดเกิดเหตุแล้วโดยมีเยาวชนวัย 14 ปีอยู่ด้วย

 จากนั้นทั้ง 4 คนก็นั่งคุยกันอยู่สักพักแล้วนายอำนาจ ก็ทำทีชวนนายทศพล หลานชาย เดินไปดูต้นไม้ที่อ้างว่าจะพากันตัดไปขาย โดยจังหวะที่นายทศพลเดินไปดูต้นไม้ นายสิมก็ได้ใช้ท่อนเหล็กยาวกว่า 1 เมตร ที่เตรียมมาด้วยกระหน่ำตีที่บริเวณท้ายทอยของนายทศพล  1 ครั้งจนล้มฟุบกับพื้นดินกลางทุ่งนา แล้วตีซ้ำอีก 2 เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิต ก่อนที่จะพากันหลบหนีไป

ผู้ต้องหาทั้งสองอ้างว่า สาเหตุที่ลงมือฆ่านายทศพล เพราะแค้นที่นายทศพล โกงเงินที่ทำธุรกิจร่วมกันหลายครั้งทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงได้วางแผนลวงมาฆ่าดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา

โดยตั้งปมสังหารไว้ 2 ประเด็นหลักๆ คือ ขัดแย้งผลประโยชน์ธุรกิจที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย และอาจจะฆ่าเพื่อหวังเอาเงินประกันชีวิตของผู้ตาย เพราะจากข้อมูลพบว่าผู้ตายมีประกันชีวิต 2 บริษัท มีวงเงินประกันหลักล้านบาท  ซึ่งก็จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม

ส่วนเยาวชนอายุ 14 ปี ที่อยู่ในเหตุการณ์ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมโหดครั้งนี้ แต่ถูกหลอกให้ไปช่วยตัดไม้ ไม่ได้รู้เห็นกับเหตุการณ์ดังกล่าวเลย เจ้าหน้าที่จึงได้กันตัวไว้เป็นพยาน

โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอำนาจและนายสิม ผู้ต้องหาทั้งสองไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อประกอบคำรับสารภาพ ที่จุดเกิดเหตุท่ามกลางประชาชนมามุงดูจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของผู้เป็นน้าที่ฆ่าได้แม้แต่หลานแท้ๆ ของตัวเอง หลังทำแผนเจ้าหน้าที่ก็ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น ได้แจ้งหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook