คุม 2 วินจยย.โขกค่าโดยสารทำแผน สารภาพทำมากกว่า 10 ครั้ง
วันนี้ ( 4 ม.ค.) พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ควบคุมตัว นายธรรมรัตน์ และนายนพรัตน์ คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่ก่อเหตุเรียกเก็บเงินค่าโดยสารแพงเกินกว่าเหตุ มาชี้จุดทำแผนเพื่อประกอบคำรับสารภาพ ที่สถานีขนส่งหมอชิต2
หลังได้ก่อเหตุล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งนายธรรมรัตน์ได้ก่อเหตุเรียกเก็บเงินค่าโดยสารแพง กับนางสาวแพรและนางสาวกี้ ที่เป็นผู้ถ่ายคลิปเผยแพร่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ และนายนพรัตน์ที่ก่อเหตุวันเดียวกันเรียกเก็บเงินค่าโดยสารแพงจากนายณัฐกานต์
พลตำรวจเอกวิระชัย ระบุว่า คนร้ายทั้ง 2 คน มีประวัติโชกโชน เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงมีประวัติยาเสพติด การกระทำของผู้ต้องหาทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศเสียหาย ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าก่อเหตุมามากกว่า 10 ครั้ง
พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อเข้าแจ้งความเพื่อให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ เพราะข้อหากรรโชกทรัพย์ใน 1 กรรม มีโทษโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งหากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความมาก จะเป็นการบวกจำนวนโทษให้ผู้กระทำความผิด ได้รับโทษมากขึ้น
ทั้งนี้ หลังสรุปสำนวนส่งต่อศาลจะทำสำนวนขอเพิ่มโทษ เนื่องจากผู้ต้องหาเคยก่อคดีลักษณะนี้มาหลายครั้ง และเคยต้องโทษจำคุกมาแล้วแต่ไม่เข็ดหลาบ โดยทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกในวันพรุ่งนี้ ( 5 ม.ค.) ก่อนเที่ยง
สำหรับผู้ต้องหาทั้งสอง เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ตรงตามประเภทที่ได้จดทะเบียนไว้ ขับขี่รถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ใช้รถไม่เสียภาษีประจำปีไม่พกพาสำเนาทะเบียนรถ โดยผู้ต้องหาทั้งสองราย เคยมีประวัติต้องโทษ ในคดียาเสพติดแล้วหลายครั้ง รวมถึงคดีลักทรัพย์ ในหลายพื้นที่ด้วย
ด้าน นางสาวแพร และนางสาวกี้ ผู้เสียหาย ที่เป็นผู้ถ่ายคลิป คนขับรถจักรยานยนต์ เรียกค่าโดยสารโหด เล่าเหตุการณ์วันดังกล่าวว่า เดินทางมาจากต่างจังหวัด เมื่อลงรถบัสในสถานีขนส่งหมอชิต ได้เดินออกมาเรียกรถด้านนอกที่บริเวณสะพานลอย เนื่องจากด้านในรถติดซึ่งมีนายธรรมรัตน์ได้ถอยรถมาหา บอกว่าบริเวณดังกล่าวรถติด อาสาจะพาออกไปส่งที่ด้านนอก
แต่เมื่อถึงจุดหมาย นายธรรมรัตน์ได้เรียกเงินค่าโดยสารจำนวน 450 บาท รู้สึกตกใจ จึงโต้เถียงเรื่องค่าโดยสารแพง แต่กลับถูกนายธรรมรัตน์ข่มขู่และกระชากคอเสื้อ จึงรีบเรียกรถแท็กซี่ และขอความช่วยเหลือ
แต่นายธรรมรัตน์กลับตามมา และตนเองรู้สึกตกใจกลัวมาก ไม่คิดว่าจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ และตอนแรกไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถจับตัวได้จึงเดินทางมาแจ้งความ
อย่างไรก็ตาม ระหว่างทำการชี้จุดผู้ต้องหาได้กล่าวขอโทษผู้เสียหาย และบอกว่าสำนึกผิดและได้ตั้งใจ ส่วนเงินที่ได้มานำเงินไปซื้อสุรามาดื่ม