หนุ่มใหญ่ตามหึงแฟนเก่า ขอดูมือถือแต่ไม่ให้ ชักปืนจ่อยิงหัวดับสยอง
สังเวยอารมณ์หึง หนุ่มใหญ่บุกเข้าไปขอเช็คโทรศัพท์มือถือแฟนเก่าที่เลิกเป็นปี อีกฝ่ายไม่ให้ชักปืน 11 มม.ไล่ยิง กราบขอชีวิตก็ไม่ให้ จ่อยิงหัวเสียชีวิตคาร้านชำ
(5 ม.ค.) ร.ต.อ.เฉลิมชัย ปานธรรม รองสว. (สอบสวน) สภ.สรรคบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูชัยนาท เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวร รพ.สรรคบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว เปิดเป็นร้านขายของชำ ภายในบ้านพบศพ นางจันทิมา อายุ 53 ปี สวมใส่เสื้อโปโลสีเทา ใส่กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน สภาพศพถูกยิงเข้าที่บริเวณท้ายทอย จนสมองไหลกองเต็มพื้น นอนจมกองเลือดอยู่ใต้โต๊ะทำงานกลางบ้าน ห่างกัน 2 เมตร พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 11 มม. 1 ปลอก ตกอยู่ที่พื้น
จากการสอบสวนเพื่อนของผู้เสียชีวิต ทราบว่า มือปืนคือ นายจักกฤช หรือ ตี๋ อายุ 51 ปี โดยก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยายนต์ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ เข้ามาในร้านค้าดังกล่าว โดยขณะที่ผู้เสียชีวิตกำลังสนทนาอยู่กับเพื่อน นายตี๋เข้ามาขอดูโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต แต่อีกฝ่ายไม่ให้ จึงมีปากเสียงกัน พร้อมตะโกนว่าใครไม่เกี่ยวอย่ายุ่ง
หลังจากนั้นก็ชักอาวุธปืนออกมากจ่อยิง แต่ในคราวแรกผู้เสียชีวิตโดดหนีไปหลบหลังโต๊ะทำงาน และก้มลงกราบขอชีวิต แต่นายตี๋ได้เข้าไปจ่อยิงระยะเผาขนเข้าที่ท้ายทอย กระสุนทะลุหน้าผาก เสียชีวิตคาที่ โดยที่มือขวาของผู้เสียชีวิตยังกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น เชื่อว่าสาเหตุมาจากความหึงหวง
พ.ต.อ.วิโรจน์ ข้าวบ่อ ผกก.สภ.สรรคบุรี กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตกับเพื่อนเพิ่งเข้าไปซื้อของในตัวเมืองชัยนาท และแวะเข้าไปในร้านขายของชำที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านของเพื่อนที่รู้จักกัน เท่าที่ทราบคนร้ายเป็นแฟนเก่า ได้เลิกรากันมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี แต่คนร้ายยังวนเวียนอยู่ในชีวิต เพราะรักที่ตัดไม่ขาด เพราะความหึงหวงเชื่อว่าอีกฝ่ายมีคนรักใหม่ อีกทั้งทราบว่าผู้ก่อเหตุได้เข้ามาหาเพื่อขอดูโทรศัพท์ เพราะอยากรู้ว่าติดต่อกับใครบ้าง แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ให้ จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว
คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อก สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน ขณะก่อเหตุได้เปิดกระจกหน้าหมวกกันน็อก ทำให้พยานเห็นหน้าได้ชัดเจน ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนและสายตรวจออกสกัดตามเส้นทางและสถานที่ที่คาดว่าคนร้ายจะไปหลบซ่อน อีกส่วนหนึ่งได้เชิญประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุไปสอบปากคำ รวบรวมหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลเพื่ออกหมายจับโดยเร็ว