เสก โลโซ เปิดบ้านแถลงข่าว ยืนยัน ฉี่ม่วงเพราะยานอนหลับ-ไบโพล่าร์

เสก โลโซ เปิดบ้านแถลงข่าว ยืนยัน ฉี่ม่วงเพราะยานอนหลับ-ไบโพล่าร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(7 ม.ค.) ร็อกเกอร์ชื่อดัง "เสก โลโซ" เปิดบ้านพักย่านสุขาภิบาล 5 แถลงข่าวเป็นครั้งแรก หลังถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2560 ในข้อหาพกปืนและยิงปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากยิงปืนขึ้นฟ้า หน้าศาลพระเจ้าตากสินมหาราชภายในวัดขุนเขาพนม จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2560 

ซึ่งหลังจากเสกได้รับการประกันตัว ก็เกิดประเด็นที่ต่อเนื่องกลายเป็นเรื่องดราม่า เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกย้าย พร้อมกับตั้งข้อสงสัยประเด็นเรื่องความสัมพันธ์กับนายตำรวจ

โดย เสก โลโซ ให้สัมภาษณ์แจงทุกประเด็นแบบละเอียด

วันที่ไปวัดเขาขุนพนม ทำไมนึกอย่างไรถึงเอาปืนไปยิงขึ้นฟ้า
"ผมไปวัดเขาขุนพนมหลายครั้งแล้ว เพราะเป็นลูกศิษย์อยู่ที่โน่น นับถือพระเจ้าตากสินมหาราช ผมชอบอ่านประวัติศาสตร์และได้รู้ว่าพระเจ้าตากท่านบวชอยู่ที่วัดนี้และสวรรคตที่นั่น ผมไปมาหลายครั้งแล้วครับ ไปทอดผ้าป่า เอาเงินไปบริจาคที่วัดนี้"

"วันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมารอบการครองราชย์พระเจ้าตากสินครบ 250 ปี ท่านเจ้าอาวาสให้ผมไปช่วยงานวัด ผมไปโดยไม่ได้สตางค์แม้แต่บาทเดียวนะ"

แจงเรื่องพกปืน

"ปกติเวลาเดินทางไปต่างจังหวัดที่ไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน ผมจะพกปืนไปด้วยเสมอ เป็นปืนขนาด 9 มม. ปืนที่เป็นเหตุ เรื่องใบพกพาผมเคยมีใบพกพาอาวุธ แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว เพราะไม่ได้พกไปเดินที่ไหน ใส่ไว้ในรถไว้ป้องกันตัวเท่านั้น"

หลังเกิดเหตุแล้ว 

"หลังจากเล่นคอนเสิร์ตเสร็จก็ไปกราบพระเจ้าตากสิน ได้เคยบนไว้ว่าถ้ามีลูกจะมาแก้บน แล้วเคยมีคนยิงแก้บนอยู่แล้ว ผมไม่ได้บอกท่านก่อนหรอกว่าผมจะยิงปืนแก้บน หลังจากยิงแล้วผมถึงไปบอก ท่านก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ท่านเข้าใจได้ เนื่องจากเวลานั้นเป็นเวลาตีสอง"

เพราะเป็นคนดังและมีการไลฟ์ แน่นอนว่าต้องถูกจับ 

"บังเอิญว่าเรามีการไลฟ์ให้คนอื่นเห็น จึงเป็นเรื่องผิดกฎหมายของประเทศไทย เราเองเข้าใจในเรื่องนี้ วันรุ่งขึ้นก็ไปกราบเรียนท่านเจ้าอาวาส ท่านก็บอกไม่เป็นไร เขาก็ทำกันอยู่แล้ว"

"หลังจากนั้นก็กลับเข้ามาในเมือง พี่ไข่ พี่ที่สนิทในจังหวัดนครศรีธรรมราชเขาก็จะขับรถมาส่ง และพี่ไข่ซึ่งเขาสนิทกับตำรวจ เขาก็บอกว่ามีตำรวจจะไปจับผมที่สนามบิน ผมก็เลยไม่ไป วันรุ่งขึ้นเขาก็ออกหมายจับทันที"

"ตอนแรกผมจะบินกลับนี่แหละ แต่เกิดเหตุแบบนี้ พี่ไข่เลยขับรถมาส่งผมที่กรุงเทพฯ เพราะวันที่ 30 ธ.ค. ผมมีงานคอนเสิร์ตที่หนองคาย แต่เกิดเหตุแบบนี้อีกก็เลยไม่ได้เล่น เพราะตำรวจไปรอจับผมที่โน่นอีก มันจะเสียเวลาเปล่าๆ รอให้เขามาจับที่บ้านดีกว่า"

"ถึงบ้านผมก็นอน ตื่นมาก็ให้ทนายผมโทรไปเคลียร์กับผู้การวันชัย จะเคลียร์ให้เสร็จในช่วงเช้า เพราะช่วงบ่ายผมต้องไปเล่นคอนเสิร์ตที่พัทยา เพราะมีงานเคาท์ดาวน์ ผมได้บอกกับทนายไปว่าให้บอกเขาไปว่า ขอผมไปเล่นคอนเสิร์ตก่อนแล้วผมจะไปมอบตัวที่โรงพัก แต่ผู้การไม่ยอม" 

"เขาออกหมายจับก่อน ผมก็สงสัยเรื่องตรงที่ การไปยิงปืนในวัดแน่นอนว่าเสียหายแน่นอนเพราะผมเป็นคนดัง แต่เป็นคนอื่นคงไปเสียค่าปรับคงจบ ตรงนี้ผมรู้ว่าผิดก็ยอมรับ ก็ได้มีการขอโทษขอโพยกันไปแล้ว" 

"ผมอยากให้สื่อทราบว่าที่ผมไม่ได้เป็นเล่นคอนเสิร์ตที่หนองคายและพัทยา ผมมีเหตุผลครับ คือไปก็คงไม่ได้เล่นอยู่ดี เพราะตำรวจเขาจะไปจับผม"

"ผู้กองยุทธ มาหน้าบ้านเชิญไปมอบตัวที่โรงพัก ผมก็บอกว่าผมจะไปเล่นคอนเสิร์ตก่อนเพราะเสียหายมากกว่า ผมไม่ได้หนีไปไหนผมก็อยู่บ้านนี่แหละ" 

"ผกก.สิงห์ เอาหมายจับมา แต่ไม่มีหมายค้น ผมก็บอกว่าไปเอาหมายค้นมา เขาก็ไปเอาหมายค้นมาอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งชั่วโมง มาพร้อมหมายค้น เขาให้ลูกน้องไปเอาหมายค้นมา ผมขอความเป็นธรรมแล้วกันครับ ผมขอดูก่อน แต่เขาไม่ให้เขาดู ลูกน้องผมยืนอยู่หน้าบ้าน 3 คน แต่เขาก็ไม่ให้ดูเขา เพียงแต่อ่านให้ได้ยินเท่านั้น หากให้ผมดูผมก็ออกมาแล้ว ขอให้ถ่ายรูปมาหน่อยแต่เขาก็ไม่ได้ถ่ายมาให้ดู"

"หลังจากนั้นประมาณ 4 โมงครึ่ง พี่อู้ด พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง ก็เดินทางมาบ้านผม หลังจากนั้นผมก็คุยกับพี่อู้ด ผมจะไม่พูดรายละเอียดแล้วเพราะมีคลิปปรากฏไปแล้ว ไปหาดูได้ พี่อู๊ดบอกว่า เสกออกมาเถอะเชื่อใจพี่ หมายค้นอยู่ที่พี่นี่แหละ"

"สักพักพี่ชาญเทพ ผู้บัญชาการนครบาลก็มานะครับ อีฟอยู่ในห้องกับผมนะครับ สรุปแล้วเขาก็ไม่ได้ถ่ายไม่ได้ส่งมาให้ผมดู เพียงแค่ถ่ายมาให้ผมเห็นเท่านั้นเอง"

"หลังจากนั้นผมได้มาเห็นหมายค้นทีหลัง เนื่องจากว่าหมายค้นมีเวลาแค่ 6 โมงเย็นเท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่เขาเอาหน่วยอรินทราชมาพังประตูผม เพราะหลังจากเวลานี้ต้องออกจากบ้านผมให้หมด ไม่ใช่ว่าผมขัดขืน ผมอยากให้ทนายผมมาก่อน เสร็จแล้วเหตุการณ์ก็อย่างที่เห็น" 

มีการตั้งคำถามว่าทำเกินว่าเหตุ

"อันนี้ต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสินครับ ผมไม่เคยมาก่อนคนที่ยิงปืนขึ้นฟ้า เป็นนักดนตรีดังของประเทศนี้ จะเจอหน่วยอรินทราชถืออาวุธสงครามถล่มประตูเข้ามาในบ้านผม"

การบอกว่า พี่เสก มีการขึ้นลำก่อน เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องทำแบบนี้

"ผมอยู่บนห้อง ผมไม่ได้ออกมายืนกลางแจ้ง แล้วบอกว่าจะยิงใครนะครับ"

เข้ามากูยิง พูดด้วยอารมณ์หรือจะทำจริงๆ

"ผมพูดด้วยอารมณ์ ก็มายืนกันอยู่ข้างหน้าห้องกันแบบนี้ ผมมีสิทธิ์ที่จะพูดหรือเปล่าล่ะ การที่ตำรวจจะเข้ามาค้นบ้านประชาชน ถึงเข้ามาในบ้านได้ ตำรวจต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วย" 

มีเสียงอีกด้านนึงที่บอกว่า หากไปโดนใครแล้วได้รับอันตราย ตรงนี้พี่เสกจะว่าอย่างไร

"คุณฟังผมนะ นั่นคือเวลาตีสอง วัดเขาขุนพนมเป็นภูเขา ข้างๆ เป็นสนามกีฬา มั่นใจแน่นอนว่าไม่โดนคน เพราะผมไม่ได้เมาครับ"

จะฟ้องกลับตำรวจหรือเปล่า

"ฟ้องแน่นอน ถ้าเขาทำเกินกว่าเหตุ"

"ผมอยากจะถามว่าทำไมให้ ตั้ม คนสนิทผมไปนั่งคุกเข่ากับผม คือจะบอกว่าตั้มไม่ได้ทำความผิดอะไรเลย"

"จากนั้นเจ้าหน้าที่พาตัวผมไปที่ บช.น. เขาจะทำอะไรให้ความร่วมมือตลอด ตรวจฉี่ผมก็ให้ตรวจเพราะด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตรวจออกมาเป็นสีม่วง ซึ่งผมก็บอกว่าเพราะผมกินยานอนหลับกับยาไบโพล่าร์ เขาให้อีฟ ตรวจด้วยแต่ไม่เจอเป็นสีม่วง ทำไมตำรวจไม่เอาไปให้ข่าวด้วย และไม่เจอยาเสพติด อุปกรณ์การเสพอะไรในบ้านผมเลยนะครับ" 

 "จากนั้นตำรวจพาผมไปที่ สน.คันนายาว ไปให้การถึงตีสอง เสร็จจากนั้นก็ไปศาลทำเรื่องประกันตัวออกมา จากนั้นก็พาตัวผมไปที่ สน.พรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช  ผมผิดก็ว่าไปตามผิด ผิดผมก็ต้องแก้ไข ผมก็นำดอกไม้มาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น"

แจงสัมพันธ์ตำรวจไม่มี ไม่ได้สิทธิ์พิเศษใดๆ ทั้งสิ้น 

"ผมนอนในห้องขัง ใส่กุญแจมือเหมือนคนอื่นทั่วไป ไม่ได้มีสิทธิ์พิเศษอะไรทั้งสิ้น"

"หลังจากทำเรื่องประกันตัวเรียบร้อยแล้ว ผมก็ได้คุยกับ ผกก.รังสรรค์ ผมขอเลี้ยงข้าวคุณหน่อยที่ร้านอีสานบ้านสวน ผมเสียใจเหมือนกันที่ทำให้นายตำรวจสองท่านเกิดปัญหา วอนนายใหญ่เขาพิจารณาเรื่องการโยกย้ายเขาอีกครั้ง เขาไม่ได้ผิด คนที่ผิดคือผมชวนเขาไปเอง"

"เรื่องถ่ายภาพ ผมเป็นคนชอบถ่ายรูป เพราะรู้สึกว่าตัวเองน่ารักดี ใครมาขอถ่ายผมก็ให้ถ่าย เสร็จแล้วก็โพสต์ ปรากฏว่ามีปัญหา ก่อนจะโพสต์ผมก็ถามเขาก่อน เขาก็บอกว่าได้ๆ ผมถามว่า ผกก.รังสรรค์ ผมขอโพสต์ได้ไหม เขาก็บอกว่าได้ แต่หลังจากนั้นเขาก็บอกว่าขอให้ลบก่อน จากนั้นเราก็ย้ายเข้าในห้องวีไอพี จากนั้น ผกก.รังสรรค์ ก็กลับไปโดนไม่ได้บอกใคร ตื่นเช้ารู้ว่าเขาถูกย้าย เราก็เสียใจที่ทำให้เขาเกิดปัญหา"

แจงปมฉี่ม่วง ยันไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด

"เรื่องประเด็นฉี่ม่วง ผมยืนยันครับไม่ได้เสพยา ผมกินยานอนหลับกับยาไบโพล่าร์ที่รับมาจากโรงพยาบาลวิชัยยุทธ  เรื่องนี้เดี๋ยวต้องไปสู้กันในศาลครับ  ถ้าผิดก็ว่ากันไปตามผิดครับ ผมเชื่อในกระบวนการตัดสินนะครับ" 

"ปกติผมกินยานอนหลับก็บ่อย เพราะผมทำงานดึกและต้องตื่นเช้ามาประชุมผมก็กินยานอนหลับบ้าง ไบโพล่าร์ผมไม่ได้กินต่อเนื่อง กินบ้างไม่กินบ้าง ถ้ามีความรู้สึกว่าหวั่นไหวผมก็กินครับ เรื่องผลตรวจเป็นฉี่ม่วงหากไม่ได้เป็นสารเสพติด ผมไม่ได้จะฟ้องอะไรหรอก แค่จะบอกว่าเวลาให้ข่าวอะไรก็ดูแลกันหน่อยครับ เท่านั้นเอง ถ้าผมไม่ได้เสพก็ขอโทษผมเท่านั้น เรื่องเงินทองผมไม่ได้จะเอาอะไรผมมีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นยาเสพติดจริงก็ไปต่อสู้กันในชั้นศาลครับ เอาตามนี้นะครับ"

"ขอโทษทุกคนประชาชนคนไทยที่เกิดเหตุการณ์นี้ ขอโทษผู้ใหญ่ทุกคนจากใจครับ"

สุดท้าย เสก โลโซ พูดถึงอดีตภรรยา กานต์ ที่จะกลับมาอยู่บ้าน โดยบอกว่าไม่จริงแต่อย่างใด พร้อมกับขอบคุณที่เป็นห่วง แต่ไม่เป็นไรผมดูแลตัวเองได้ และขออย่าทำร้ายผมก็พอครับ เรื่องครอบครัวผมดูแลลูกเป็นอย่างดี และลูกๆ เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้เขาเติบโตมาเขาจะได้แข็งแรงในสังคม

 

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ เสก โลโซ เปิดบ้านแถลงข่าว ยืนยัน ฉี่ม่วงเพราะยานอนหลับ-ไบโพล่าร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook