สาวพาครอบครัว 6 ชีวิตหนีตาย อดีตทหารเรือรัวยิงปืน ทุบบ้านพินาศ

สาวพาครอบครัว 6 ชีวิตหนีตาย อดีตทหารเรือรัวยิงปืน ทุบบ้านพินาศ

สาวพาครอบครัว 6 ชีวิตหนีตาย อดีตทหารเรือรัวยิงปืน ทุบบ้านพินาศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่เพจดัง "แหม่มโพธิ์ดำ" ทำการโพสต์เรื่องราวพร้อมข้อความว่า ถูกทหารปลดประจำการเมาแล้วอาละวาดยิงปืนนับร้อยนัด ทำแบบนี้มานานเกือบ 2 ปี แต่ล่าสุดถึงกับทุบบ้าน แจ้งไปหลายหน่วยงานก็ไม่มีใครช่วยได้   พร้อมคลิปอดีตทหารเรือคนดังกล่าว ถืออาวุธปืนเข้าไปยิงที่ป่ากล้วยหลังบ้าน ก่อนเดินมาหยิบกระถางต้นไม้หน้าบ้านขว้างลงพื้นแล้วเดินจากไป

ล่าสุด (12 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว พบนางสาวจารุวรรณ อายุ 27 ปี มีลูกวัย 1 ขวบเศษ หลานวัย 6 เดือน และครอบครัวรวม 6 ชีวิต เล่าด้วยสีหน้าหวาดกลัว ปากสั่น หน้าซีด บอกว่ากำลังเก็บข้าวของเครื่องใช้ เพื่อไปพักที่รีสอร์ท เพราะกลัวว่า นาวาตรีชนาธิป อายุ 49 ปี อดีตทหารเรือ จะวนกลับมาทำร้ายตนและครอบครัวอีก ซึ่งด้านหน้าประตูบ้าน มีเศษกระจกบานเกล็ดที่ถูกตีจนแตกตกเกลือนพื้น ส่วนภายในบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ถูกทำลายจนกระจัดกระจายไปทั่ว

นางสาวจารุวรรณ เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวาน เวลาประมาณ 5 โมงเย็น นาวาตรีชนาธิป อายุ 49 ปี อดีตทหารเรือ ปลดประจำการมาแล้วประมาณ 4-5 ปี มีศักดิ์เป็นน้าของตน มานั่งกินเหล้าตั้งแต่เช้า ปกติเขามาดูแลปลากระชังที่อยู่ตรงข้ามบ้าน โดยขับรถไปกลับชัยนาท-นครสวรรค์ เป็นประจำไม่ได้นอนพักที่นี่ เวลาเมาจะยิง พฤติกรรมตอนไม่เมาเหมือนคนปกติ แต่พอเมากลับเป็นคนละคน ขุดเรื่องเก่าๆมาพูด ด่าคนโน้นด่าคนนี้ น้อยใจคนโน้นน้อยใจคนนี้

แรกๆ ยิงในป่ากล้วย เขาฉลาดยิง คือยิงเข้าต้นไม้ ยิงลงพื้นดิน ยิงลงแม่น้ำ ลงกระชัง เขาไม่ยิงขึ้นฟ้าจึงไม่มีกระสุนตกบ้านใคร ไม่รู้สาเหตุว่าเขายิงเพื่ออะไร โดยมีพฤติกรรมแบบนี้มาเกือบ 2 ปี เฉลี่ยเดือนละประมาณ 3-4 ครั้ง บางสัปดาห์มาทุกวัน เวลาเขามาทุกคนจะหลบเข้าบ้านหมด ซึ่งตัวน้าได้เคยถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ฯ ได้ยามาเขาก็ไม่ยอมกิน เขายืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่มีการทุบบ้านด้วย จนต้องหนีไปนอนรีสอร์ทใกล้บ้าน

ตอนที่เกิดเหตุ ตนนอนอยู่ในห้องนอนกับลูกและแฟน ส่วนพ่ออยู่ที่ห้องพ่อ น้องสาวกับลูกเขา 6 เดือน ในห้องนอนเช่นกัน เขาทุบบ้านลามเข้ามาเรื่อยๆ โดยใช้ไม้ที่หาได้ทุบกระจกก่อนแล้วเปิดประตูเข้ามา น้องสาวได้อุ้มลูกกระโดดหนีออกมาทางหน้าต่าง ส่วนตนเอง แฟน และลูกหนีออกไปไม่ได้ นั่งร้องไห้กอดกันอยู่ในห้อง รอจนผู้ก่อเหตุกลับไป แล้วไปเสียเงินนอนพักที่รีสอร์ท สิ่งที่ต้องการคืออยากให้เขาได้รับการรักษา และให้ทางคนใหญ่คนโตในองค์กรที่เกี่ยวข้อง ยึดปืน จะได้ไม่พกมาก่อเหตุอันตรายเช่นนี้อีก

พ.ต.ท.ปัณณวิชญ์ นาถึง รอง ผกก. ปกครองป้องกัน สภ.สรรคบุรี เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ ได้สนธิกำลังกันเข้าระงับเหตุก็ไม่พบตัวของนาวาตรีชนาธิป จึงสลายกำลัง ไม่ใช่ไม่รับแจ้งความตามที่ข่าวได้นำเสนอออกไปแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้ ทางเจ้าทุกข์ได้เข้าแจ้งความแล้ว ทางเจาหน้าที่จะทำการรวบรวมพยานหลักฐาน และขอหมายเรียกจากศาล เพื่อเรียกตัวมาสอบปากคำ หากไม่มาตามหมาย 2 ครั้ง ก็จะออกหมายจับ

โดยระหว่างสอบปากคำต้องดูว่าตัวของ นาวาตรี ชนาธิป นั้นสามารถพูดโต้ตอบได้ปกติ หรือมีปัญหาทางจิตตามที่เจ้าทุกข์พูดมาหรือไม่ หากมีปัญหาทางจิตต้องส่งไปยัง รพ.จิตเวช เพื่อรักษาและหยุดการสอบสวน จนกว่าจะหายเป็นปกติ อยากให้ทุกคนเข้าใจถึงกระบวนการ ทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอน ส่วนเรื่องการพกพา และใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องเร่งตรวจสอบและทำการยึดเช่นกัน หากล่าช้าอาจเป็นอันตรายต่อบุคคลรอบข้างได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook