ดราม่ารถทัวร์ โชเฟอร์ทิ้ง 2 ชายชราที่บขส. วิ่งตามก็ไม่ยอมจอด
จากกรณีมีการแชร์ภาพชายชรา 2 คนที่สถานีขนส่งอำเภอเมือง จ.มหาสารคาม พร้อมข้อความจากผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่งว่า
“นั่งรอรถที่บขส.มหาสารคาม จะกลับบ้าน บังเอิญเจอเหตุการณ์หนึ่งที่มีคนแก่ 2 คน ซึ่งตาทั้งสองคนนั่งรถบัสมาจากที่ไหนไม่รู้แต่ปลายทางจะไปร้อยเอ็ด คุณตาทั้งสองลงจากรถเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ คนนึงไปเข้าห้องน้ำส่วนอีกคนยืนรออยู่ข้างๆรถบัส ตาคนที่ยืนรออยู่ก็ได้บอกกับคนขับรถบัสว่ารอหน่อยนะ อีกคนไปเข้าห้องน้ำอยู่.. แล้วตาคนที่ยืนรอก็ได้พูดคุยกับคนขับรถบัส
ผ่านไปสักพัก..คนขับรถบัสก็ขึ้นไปบนรถแล้วขับรถออกไปเลยทั้งที่คุณตาคนนั้นยังยืนรอเพื่อนที่เข้าห้องน้ำอยู่ พอเห็นรถบัสขับออกไปแบบนั้นคุณตาก็รีบวิ่งตามรถไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปากก็ตะโกนบอกรถรอก่อนๆ เห็นแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงในใจก็ภาวนาขอให้รถจอด แต่สุดท้ายก็ไม่จอด
คุณตาคนนั้นจึงได้รีบวิ่งกลับมาที่บขส.เพื่อไปคุยกับนายท่า บอกให้ช่วยโทรหารถคันนั้นเพื่อให้กลับมารับหรือจอดรอได้มั้ย (อะไรประมานนี้ไม่ค่อยได้ยินสักเท่าไหร่) ทางนายท่าก็บอกแค่ว่าให้รอคันต่อไป เพราะรถออกไปไกลแล้ว แต่คุณตาก็บอกว่ากระเป๋าสัมภาระอยู่บนรถคันนั้นจะให้ทำอย่างไร แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา.. หลังจากที่คุยกับนายท่าเสร็จคุณตาสองคนก็ได้มาปรึกษากันว่าจะเอายังไงต่อของก็อยู่บนรถทั้งหมด คุณตาสองคนค่อนข้างผิดหวังกับเหตุการณ์นี้มากพูดให้รถบัสคนนั้นไม่หยุดเลย ทั้งเสียใจทั้งเสียเวลา”
เมื่อภาพและข้อความถูกเผยแพร่ออกไป โดยมีการแชร์ผ่านกลุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊กและเพจต่างๆ จำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างเขียนรู้สึกสงสารคุณตาทั้งสอง และมีบางรายที่ตำหนิถึงการทำงานของบรัษัทขนส่งดังกล่าว
ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ลงสำรวจข้อเท็จจริงโดยได้ทราบข้อมูลจาก นายอรุณ มหาวงค์ ผู้ดูแลท่ารถบริษัทชนะชัยขนส่ง ประจำอยู่ที่สถานีขนส่งเทศบาลเมืองมหาสารคาม ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เหตุการณ์ผู้โดยสารตกรถเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2560 เวลาประมาณ 11.30 น. เมื่อมีผู้โดยสารซึ่งเป็นชายสูงอายุซึ่งจะเดินทางไปที่จังหวัดร้อยเอ็ด มาแจ้งว่าตนเองขึ้นรถโดยสารไม่ทันเนื่องจากไปเข้าห้องน้ำและมีสัมภาระอยู่บนรถ โดยรถคันที่โดยสารมาได้ออกไปพักนึงแล้วลุงได้วิ่งตามแต่ไม่ทัน เมื่อตนทราบจึงโทรบอกคนขับรถทันที แต่เนื่องจากรถออกไปไกลแล้ว การที่จะวนรถกลับมาก็กลัวจะเสียเวลาผู้โดยสารคนอื่น
ตนจึงได้แจ้งผู้ดูแลท่ารถที่จังหวัดมหาสารคามให้โทรบอกนายท่ารถที่จังหวัดร้อยเอ็ด ประสานงานให้เอาของบนรถลุงไว้ที่ บขส.ร้อยเอ็ดก่อน ส่วนตัวลุงทั้งสองได้ให้ขึ้นรถรอบต่อไป ซึ่งถ้าผู้โดยสารตกรถ ทางท่ารถไม่นิ่งนอนใจ มีการประสานงานอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว และผู้โดยสารที่ตกรถสามารถขึ้นรถคันต่อไปได้ฟรีเพื่อไปถึงจุดหมาย
ปกติแล้วเมื่อรถจอด คนขับรถจะมาแจ้งรายละเอียดการเดินทางและจำนวนผู้โดยสารที่ห้องขายตั๋วเป็นเวลา 10 นาที แล้วจึงเดินทางต่อ เพราะต้องเดินทางตามเวลาที่กำหนด ประกอบกับผู้โดยสารบนรถมาจำนวนถึง 41 คนต่อเที่ยว เมื่อถึงเวลารถจำต้องออกจากสถานี จุดนี้อาจทำให้ผู้โดยสารและคนขับอาจสื่อสารไม่เข้าใจกัน ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งผู้โดยสาร และให้ผู้โดยสารวิ่งตามรถตามที่แชร์ข้อความกันไป
นายอรุณ เพิ่มเติมว่า ตนอยากให้คนที่ได้อ่านข้อความที่แชร์ในสื่อโซเชียลได้ฟังความอีกด้าน การทำงานของพนักงานขายตั๋ว คนขับรถและนายท่าของบริษัทมีระเบียบและขั้นตอนการดูแลลูกค้า มีการอบรมเรื่องการบริการ และแก้ไขปัญห าหากผู้โดยสารเกิดความไม่พึงพอใจ หรือเกิดผิดพลาดเรื่องของการบริการ ทางบริษัทไม่นิ่งนอนใจ แก้ไขปัญหาทันทีที่ทราบเรื่อง แต่ไม่นึกว่าจะมีการถ่ายภาพ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแชร์ต่อไปจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด