พากลับจะชดใช้ให้หมดทักษิณโฟนอิน

ทักษิณโฟนอินที่พิษณุโลกระบุจะตอบแทนอย่างที่สุดกับคนพากลับไทย พร้อมเชิญชวนมาฟังการแฉอย่างละเอียด 26 มี.ค.นี้ที่กรุงเทพฯ โฟนอินไปที่พัทยาสายไม่ดี

วันที่ 24 มีนาคม 2552 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดพิษณุโลก เครือข่ายประชาชนปกป้องประชาธิปไตยแห่งชาติ (กลุ่มพิษณุโลกรวมใจ) ได้จัดเวทีความจริงวันนี้สัญจร โดยเริ่มงานตั้งแต่เวลา 18.00 น . นำโดยนายบุญเลิศ เรืองทิม หรือ เลิศ ไม้เก่า แกนนำเสื้อแดงพิษณุโลก มีชาวเสื้อแดงมาร่วมงานประมาณ 1,000 คน เริ่มงานมีนายสุพร อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสานมากล่าวเปิดงานบนเวที รวมถึงอดีต ส.ส.ไทยรักไทยหลายคนที่มาร่วมงาน ตามด้วยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. เพื่อไทย ที่ใช้เวลากล่าวโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาวีวะ นายกรัฐมนตรี

ก่อนที่จะเข้าเวลาพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโฟนอินกับชาวพิษณุโลก นายบุญเลิศ เรืองทิม แกนนำเสื้อแดงพิษณุโลก ได้ทำพิธีไสยศาสตร์ เผาพริก เผาเกลือ สาปแช่งบุคคลที่เป็นศัตรูกับคนเสื้อแดง โดยอ้างว่าไม่มีกำลังและอาวุธจะสู้ได้ ต้องใช้วิธีสาปแช่ง

กระทั่งเวลาประมาณ 20.10 น. นายจตุพรได้ต่อโทรศัพท์กับพ.ต.ท.ทักษิณและเปิดลำโพงโทรศัพท์จ่อกับไมโครโฟน ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดคุยกับเสื้อแดงพิษณุโลก ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที พูดคุยกับเสื้อแดงพิษณุโลกว่า อยากขอบคุณชาว จ.พิษณุโลกที่สนับสนุนตนมาตลอด และถ้าหากมีโอกาสได้กลับประเทศไทยจะกลับมาตอบแทนอย่างดีที่สุด ส่วนเรื่องการแฉข้อมูลเบื้องหลังในเรื่องต่างๆ นั้น จะแฉมากกว่านี้ แต่จะพูดในการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงที่สนามหลวง ที่จะมีขึ้นวันที่ 26 มีนาคมนี้ ดังนั้นอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้เดินทางมาฟังในกรุงเทพฯ ให้มากๆ

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาธิปไตยกลับคืนสู่แผ่นดินไทย เลิกระบบสองมาตรฐาน เลิกขบวนการไม่ยุติธรรม ที่ผ่านมาองค์กรอิสระทั้งหลายถูกสั่ง และเลือกเอาคนที่ปฏิปักษ์กับทางเรา แต่เป็นมิตรกับประชาธิปัตย์ แล้วอย่างนี้ประเทศจะอยู่อย่างไร

"ใครเอาผมกลับ คนนั้นมีบุญคุณกับผม ชีวิตที่เหลือจะชดใช้ให้หมด นั่นคือสิ่งที่ผมจะทำ ผมมั่นใจว่าพี่น้องรักประชาธิปไตย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำลายประเทศไทย ขอให้เรามารักษาประเทศไทย รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการแอบอ้างเยอะ แอบอ้างจนเจ้านายเสียหายหมด เพราะแอบอ้างเพื่อประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ บอกอีกว่า ในวันที่ 26 มันาคมนี้ จะเปิดเผยถึงสาเหตุของการเมืองแตกแยกตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งเรื่องนายกฯ มาตรา 7 จะเล่าให้ฟังทั้งหมด พี่น้องจะได้ฟังของจริง

"ผมรักษามารยาทมานาน หวังว่าจะสงบ แต่วันนี้จำเป็นต้องเขย่าเพื่อให้ตกตะกอน แยกดำแยกขาวให้ชัด แล้วบ้านเมืองถึงจะไปได้ ผมเชื่อว่าพี่น้องคงเข้าใจผมและสนับสนุนผม เพื่อให้ผมกลับมารับใช้อีกครั้งหนึ่ง วันนี้แดงทั้งแผ่นดินแล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

ทักษิณ โฟนอินที่พัทยาสายไม่ดี

ขณะที่สนามกีฬาภายในโรงเรียนเมืองพัทยา 7 ( หนองพังแค ) ถนนสุขุมวิท ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชมรมรักประชาธิปไตยพัทยา (กลุ่มเสื้อแดงพัทยา) จัดงานรวมพลคนเสื้อแดงภาคตะวันออก ในรวมพลครั้งยิ่งใหญ่และใหญ่ยิ่ง ในคอนเซ็ป แดงทั้งแผ่นดิน โดยมี นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ นายอดิศร เพียงเกษ นายจตุพร พรมพันธุ์ นายมงคล หนองบัวลำภู

บริเวณงานดังกล่าวกลุ่มชมรมรักประชาธิปไตยพัทยาได้มีการจัดตั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไว้ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยและตรวจค้นอาวุธผู้ที่เข้ามาบริเวณประตูทางเข้า และภายในงานเกือบ 50 คน ซึ่งการเข้าร่วมงานในครั้งนี้มีการจำหน่ายบัตรเข้างานบริเวณหน้างานในราคาใบละ 100 บาท ซึ่งจะมีบริการอาหารเครื่องดื่มฟรีตลอดงานตั้งแต่ 16.00 น.-24.00 น. โดยภายในงานมีกลุ่มคนเสื้อแดงเมืองพัทยา และ กลุ่มคนเสื้อแดงในเขตพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 20,000 คนเดินทางเข่าร่วมงานครั้งนี้

ทั้งนี้งานเริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นมีการปราศรัยของกลุ่มแกนนำเสื้อแดงไปเรื่อย โดยมีกลุ่มเสื้อแดงเริ่มทยอยเข้าร่วมงานในครั้งนี้กันจำนวนมาก โดยช่วง 20.30 น. นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ได้ต่อโทรศัพท์เพื่อโฟนอินกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็ไม่สามารถโฟนอินคุยได้อย่างเต็มที่ เพราะเมื่อรับโทรศัพท์สายโทรศัพท์ก็หลุด ต้องต่อโทรศัพท์ถึง 7 ครั้ง โดยใช้เวลาติดต่อนานกว่าครึ่งชั่วโมง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ต่อโทรศัพท์มาพูดคุยเอง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวเพียงสั้นๆประมาณ 2 นาที ทักทายชาวพัทยาและพูดโจมตีถึงการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ว่าเป็นการทำงานแบบ อำมาตยาธิปไตย ทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทยเสียหายอย่างหนัก รวมถึงที่เมืองพัทยาทำให้เศรษฐกิจเมืองพัทยาเสียหาย และมีคนต้องตกงานเยอะ จากนั้นก็พูดทิ้งท้ายว่าให้เจอกันในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ที่กรุงเทพฯ ในการชุมนุมครั้งใหญ่พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางเข้าร่วมชุมนุมครั้งนี้ ก่อนจะวางสายไป จากนั้นกลุ่มแกนนำก็ปราศรัยต่อทันที