เสี่ยขับเบนซ์มอบตัวแล้ว เล่าอีกมุมกระทืบยามหน้าโรงแรมป่าตอง

เสี่ยขับเบนซ์กระทืบ รปภ สลบคาพื้น เข้ามอบตัวตำรวจแล้ว ก่อนปล่อยตัวไปชั่วคราว เผยสาเหตุที่ทำร้าย รปภ.เพราะโมโหที่ไม่ยอมเปิดประตูให้ออกจากโรงแรม

จากกรณีที่มีการแชร์คลิปเหตุการณ์ทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและหมดสติ ผู้ก่อเหตุเป็นชายหนุ่มขับรถเบนซ์คันหรู คลิปนี้มีการแชร์ส่งต่อออกไปอย่างแพร่หลาย เหตุเกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีการแชร์คลิปวิดีโอตัวเต็ม ความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์รถเบนซ์เปิดประทุนคันหนึ่ง ที่มีชายคนไทยเป็นผู้ขับและมีชายต่างชาตินั่งมาด้านข้าง ก่อนจะมาจอดตรงป้อมยาม จากนั้นชายคนขับได้ลงไปกระชากคอ รปภ.มา มีการผลักหรือทำร้ายร่างกายกันแต่มุมกล้องมองไม่เห็น ก่อนจะเห็นชัดเจนว่ามีลาก รปภ.มาที่ข้างรถเบนช์และพยายามดัน รปภ.เข้าไปในรถจน และเกิดการยื้อกันแต่ รปภ.ไม่ยอม

จากนั้นชายคนดังกล่าวจึงต่อยเข้าที่ใบหน้า รปภ.จนล้มทั้งยืนไปกองกับพื้นถนน ชายคนดังกล่าวยังกระทืบและเตะซ้ำอีกหลายครั้ง ทำให้หนุ่ม รปภ.สลบคาที่ จากชายคนดังกล่าวก็ขึ้นรถเบนซ์ขับรถออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อเวลา 05.00 น. ของวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา บริเวณป้อมยามทางออก โรงแรมแห่งหนึ่ง ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

ขณะที่เพื่อน รปภ. ที่ถูกทำร้ายนั้น ได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ป่าตอง พร้อมนำภาพคลิปกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ส่วนทางญาติได้นำกรณีนี้ไปแชร์ในโซเชียล เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ได้เชิญชายผู้ก่อเหตุมายัง สภ.ป่าตอง แล้ว และปล่อยตัวไป อ้างว่าชายคนดังกล่าวจะขอเจรจากับผู้เสียหายเอง แต่ไม่ได้แจ้งให้ผู้เสียหายทราบ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์สอบถามไปทาง ผกก.สภ.ป่าตอง แต่ปรากฏว่าไม่มีการรับสาย จึงประสานไปทาง รอง.ผกก.ฝ่ายสอบสวน สภ.ป่าตอง ก็แจ้งว่าติดประชุมอยู่ ไม่สะดวกให้ข้อมูลใดๆ ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวทราบว่าเจ้าหน้าที่ สภ.ป่าตอง ได้ไปเชิญเสี่ยขับเบนซ์ ทราบว่าเป็นชายอายุ 37 ปี พร้อมกับตรวจพบอาวุธปืนพกสั้น แบบกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 11 มม. 1 กระบอก เครื่องกระสุน ขนาด 11 มม. จำนวน 7 นัด แมกกาซีน จำนวน 1 อัน สิ่งเทียมอาวุธปืน (บีบีกัน) แบบพกสั้น 1 กระบอก (พร้อมแมกกาซีน) ทั้งหมดตรวจพบได้ภายในบริเวณเคาท์เตอร์บาร์แห่งหนึ่ง

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามไปยัง เสี่ยขับเบนซ์คนดังกล่าว เป็นเจ้าของบาร์แห่งหนึ่ง โดยเล่าให้ฟังว่า ในคืนเกิดเหตุได้ขับรถไปส่งลูกค้าชาวต่างประเทศที่โรงแรมที่เกิดเหตุ ย่านหาดป่าตอง เวลาประมาณตี 5 โดยผ่านที่ป้อมยามทางเข้าไปโดยไม่มี รปภ.และไม้กั้น จึงขับเข้าไปถึงที่บริเวณหน้าล็อบบี้ของโรงแรม เพื่อส่งลูกค้าที่อยู่ในอาการเมา

แต่ รปภ.ที่บริเวณดังกล่าวถามว่า รับบัตรรถเข้ามาหรือไม่ ตนจึงบอกว่าไม่ได้รับ เพราะไม่มีใครอยู่ที่ป้อม ทาง รปภ.จึงไล่ให้ตนไปรับบัตรมาก่อนจึงจะให้ลูกค้าเข้าโรงแรมได้ แต่ตนพยายามชี้แจงและขอให้ รปภ.นำลูกค้าตนที่พักโรงแรมดังกล่าวเข้าที่พักไปก่อน แต่ รปภ.ก็ไม่ยอม จึงมาบอกลูกค้าว่า รปภ.ไม่ยอมให้เข้าให้รับบัตรที่ป้อมยามห่างประมาณ 200 เมตรมาก่อน

ทางลูกค้าบอกอย่างนั้นไม่เข้าพักแล้ว จึงพาลูกค้าออกมาแต่ทาง รปภ.คงวิทยุสื่อสารกันว่าไม่ให้รถตนออกจากโรงแรม เมื่อมาถึงที่ป้อมยามทางออกปรากฏว่า รปภ.ที่ป้อมยามทางออกไม่ยอมเปิดไม่กั้นให้ตนออกจึงเกิดการโต้แย้งกันขึ้น บอกว่าตอนเข้ามาไม่มี รปภ.จะรับมาบัตรได้อย่างไร แต่ รปภ.บอกต้องไปเอาบัตรมาถึงจะให้ออกได้

ซึ่งการเดินไปที่ป้อมยามทางออกนั้นไกลมาก ด้วยความโมโหโทสะจึงกระชากคอเสื้อ รปภ.คนดังกล่าว แต่ถูก รปภ.ชกก่อน ตนจึงอ้อมไปหลังป้อมยามแล้วลาก รปภ.ออกมาถามว่าจะให้ตนออกไปหรือไม่ ทาง รปภ.ก็ไม่ยอม ตนจึงตบหน้าไปทีหนึ่ง รปภ.ล้มลงไปกับพื้น ก่อนจะเตะซ้ำไปอีก แล้วเดินไปเปิดที่กั้นขับรถออกมาเลย เป็นเหตุไม่ตั้งใจที่จะทำร้าย แต่ทาง รปภ.ไม่ยอมเปิดประตูให้และโต้แย้งกันอยู่นาน จึงโมโหเพราะความอ่อนล้าอ่อนเพลียด้วย