อาจารย์สักยันต์หวิดสิ้นชื่อ ถูกจ้างไปเมืองจีน สุดท้ายโดนรุมทำร้าย สูญ 2 แสน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (19 ม.ค.) ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 3 ตำบลราชสถิตย์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนัก อาจารย์ปี๊บ อาจารย์สักยันต์ชื่อดัง หลังจากทราบว่าได้รอดชีวิตกลับมาจากต่างประเทศ
หลังอาจารย์ปี๊บถูกผู้ว่าจ้างให้เดินทางไปสักยันต์ในเมืองกวางโจว ประเทศจีน เป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนเศษ โดยก่อนเดินทางกลับทางผู้ว่าจ้างได้พาไปรับประทานอาหารในร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในชนบทแล้วถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 7 - 8 คน ใช้สเปรย์พริกไทยฉีดเข้าที่ดวงตา และตรงเข้ารุมทำร้าย
โดย นายยงยุทธ หรือ อาจารย์ปี๊ป อายุ 31 ปี เปิดเผยว่า ตนเองได้รับการว่าจ้างจาก นายอเล็กซ์ หรือ อาเล่อ ให้เดินทางไปสักยันต์ที่ประเทศจีน เป็นเวลา 1 เดือน โดยให้ค่าจ้าง 150,000 บาท พร้อมออกค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางไปกลับให้เรียบร้อย โดยการเดินทางไปสักยันต์เป็นไปอย่างเรียบร้อย ซึ่งตนเองได้ทำการสักยันต์ให้กับลูกค้าทุกคนโดยไม่มีปัญหาอะไร
พอถึงวันที่ครบกำหนดกลับประเทศไทย นายจ้างของตนเองที่เรียกว่าเถ้าแก่ ได้พาตนเองไปรับประทานอาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งตนเองสังเกตว่าอยู่ในชนบท และนายจ้างมีท่าทีลุกลี้ลุกลนมีลักษณะท่าทางแปลกไปจากเดิม ประกอบกับตนเองได้สังเกตเห็นว่ามีกลุ่มของชายฉกรรจ์ ประมาณ 7 - 8 คน มาวนเวียนอยู่ในพื้นที่ร้านอาหารดังกล่าว
เมื่อตนเองเดินออกไปสูบบุหรี่บริเวณหน้าร้าน ได้มีชายฉกรรจ์ตรงเข้ามาใช้สเปรย์พริกไทยฉีดบริเวณใบหน้าเข้าที่ตาทั้ง 2 ข้าง ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อนตา จึงได้วิ่งหลบหนีไปตั้งหลัก แต่ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวกับวิ่งตามเข้ามาใช้อิฐทุบตามร่างกายของตนเอง และพยายามใช้มีดแทงแต่ไม่เข้า ถูกเสื้อยืดคอกลมที่ใส่อยู่ด้านในจนฉีกขาดเกือบทั้งตัว
และชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวยังพยายามที่จะแย่งโทรศัพท์มือถือและกระเป๋า ซึ่งภายในบรรจุพาสปอร์ตและของมีค่าที่สำคัญที่ตนเองเก็บไว้ ซึ่งในขณะนั้นตนเองคิดว่าคงจะต้องตายแน่นอน เนื่องจากชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวมีรูปร่างสูงใหญ่
ตนเองจึงได้ตัดสินใจขัดขืนต่อสู้พร้อมกับร้องเสียงดังให้คนช่วย ซึ่งตนเองคิดอยู่ว่าจะต้องเอาชีวิตรอด เพื่อมาเจอแม่ ภรรยากับลูกสาวที่พึ่งคลอดได้ 3 วัน ในประเทศไทยให้ได้ จนคนร้ายตกใจกลัวต่างขึ้นรถยนต์หลบหนีไป
จากนั้นตนเองจึงได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านอาหาร ในช่วยติดต่อสถานกงสุลไทย และพาตนเองนำมาส่งที่สนามบิน โดยระหว่างทางได้เลี้ยงอาหารพร้อมกับมอบโทรศัพท์มือถือให้ 1 เครื่อง เพื่อใช้ในการติดต่อกับครอบครัวที่อยู่ในประเทศไทยระหว่างการเดินทาง
ซึ่งตนเองรอดมาได้ก็ถือว่าเป็นบุญ และขอให้ทุกคนคิดให้ดี หากถูกจ้างไปทำงานยังต่างประเทศให้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เพราะหากไว้ใจนายจ้างมากเกินไป ถ้าตนเองไม่ต่อสู้ขัดขืนก็คงจะเสียชีวิตอย่างไร้หลักฐานในต่างประเทศอย่างแน่นอน
ตนเองอยากจะขอบคุณเจ้าของร้านอาหารที่ช่วยเหลือ และถ้ามีโอกาสอีกครั้งอยากจะเดินทางไปกราบขอบคุณเจ้าของร้านอาหารคนนี้ ที่ได้ช่วยเหลือตัวเองให้เดินทางกลับ ประเทศไทย มาพบเจอแม่ ภรรยา และลูกที่พึ่งเกิดมาลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัย
ส่วนทางด้าน นางนันท์นภัส อายุ 47 ปี แม่ของอาจารย์ปี๊บ กล่าวว่า หลังตนเองได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากลูกชาย ว่าถูกทำร้ายในต่างประเทศ ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และเป็นห่วงว่าลูกชายจะได้รับบาดเจ็บสาหัสมากน้อยเท่าไหร่
จึงได้ประสานผู้สื่อข่าวในจังหวัดอ่างทอง ผ่านไปยัง นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ในการประสานกับทางกงสุลไทยในประเทศจีน จนสามารถเดินทางกลับมาได้อย่างปลอดภัย
ซึ่งตนเองไม่อยากให้ลูกชายได้เดินทางไปต่างประเทศอีกแล้ว เพราะว่ากลัวอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งตนเองรู้สึกดีใจและอยากกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ช่วยเหลือลูกชาย และเจ้าของร้านอาหารที่ช่วยพาลูกชายมาส่งถึงสนามบิน จนกลับมาถึงประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยต่อไป