3 พนง.ล้วงกระเป๋าโหลดแอร์พอร์ตภูเก็ต ปล้นรวยเละนับ 100 ชิ้น
ตำรวจบุกสนามบินภูเก็ต รวบ 3 พนักงานขนกระเป๋าสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง หลังสายการบินหลายแห่งแจ้งผู้โดยสารถูกขโมยทรัพย์สิน บุกค้นห้องพบของกลางแบรนด์เนมกว่า 100 ชิ้น
เมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ สภ.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.อัศวิน นาคสวัสดิ์ พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ รองสว.กก.5 บก.ทท. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ร่วมกันจับกุมตัว นายนิรุต, นายมาโนช และ นายชาคริต พนักงานขนกระเป๋าสัมภาระบริษัทเอกชน หลังพบพฤติกรรมลักขโมยทรัพย์สินของผู้โดยสาร
โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้ทั้งหมด ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสำนักงานของบริษัทเอกชนที่งแต่ละคนสังกัดอยู่ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานฯ ได้รับแจ้งร้องเรียนจากสายการบินต่างประเทศหลายแห่ง ระบุว่ามีผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวถูกลักทรัพย์จากกระเป๋าที่โหลดเข้าใต้ท้องเครื่อง แต่กว่าจะทราบเรื่องเหยื่อผู้เสียหายก็เดินทางไปยังที่หมายอื่นแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ดูภาพจากกล้องวงจรปิดในระหว่างที่เที่ยวบินที่แจ้งเหตุเข้ามา กระทั่งพบว่าพนักงานขนกระเป๋าสัมภาระทั้ง 3 คน มีพฤติกรรมน่าสงสัย เพราะทุกครั้งที่มีรายงานแจ้งว่ามีทรัพย์สินสูญหาย พนักงานทั้ง 3 คน มักปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับสายการบินนั้นๆ
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานและเข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนที่สำนักงาน แต่การตรวจค้นร่างกายและโต๊ะทำงานของผู้ต้องสงสัยไม่พบของกลางใดๆ แต่พบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง จึงได้ขยายผลนำตัวไปตรวจสอบอีกที่ห้องพักของผู้ต้องสงสัย กระทั่งพบกับทรัพย์สินของผู้เสียหายจำนวนมาก บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษเรียงรายอยู่เต็มห้อง
ทรัพย์สินที่ลักขโมยมาจากผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวของสายการบินต่างๆ ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ นาฬิกาแบรนด์เนม แว่นตา กระเป๋าหรู และของมีค่าอื่นๆ เป็นจำนวนมากกว่า 100 รายการ
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ เป็นผู้ล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวจริง สาเหตุที่ล้วงเอาทรัพย์สินเพราะเงินเดือนไม่พอใช้ ทั้งค่าอาหารการกิน ค่าที่พัก และค่าซื้อยาเสพติด จึงจำเป็นต้องลักทรัพย์ของผู้โดยสารชาวต่างประเทศ เพราะคิดว่านักท่องเที่ยวกลับไปแล้ว คงจะไม่แจ้งความใดๆ เพราะเสียเวลาเดินทางกลับอีก
ผู้ต้องการยังยอมรับว่า ก่อเหตุมานานเป็นปีกว่าแล้ว แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่สายการใดมาแจ้งว่าทรัพย์นักท่องเที่ยวสูญหาย จึงตายใจและก่อเหตุเรื่อยมา เพราะก่อเหตุได้ง่าย อีกทั้งยังนำไปขายต่อได้ราคางาม เพราะส่วนใหญ่เป็นของแบรนด์เนมทั้งนั้น เมื่อขายได้จะนำเงินมาแบ่งกันซื้อยามาเสพและเที่ยวเตร่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหามียาเสพติดในโทษประเภท 1 ไว้เพื่อเสพโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นภายในเขตท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.สาคู ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และรอให้เจ้าหน้าที่สายการบินต่างๆ มาชี้ของกลางว่าเป็นของสายการบินใดบ้าง จากนั้นทยอยส่งขึ้นให้นักท่องเที่ยวต่อไป