ปลาหมอ มุดเข้าก้น ดช.8ขวบ

ตะลึง! ปลาหมอผลุบเข้าก้นเด็กชายวัย8 ขวบ หลังแก้ผ้าลุยโคลนไปจับปลา เจ้าตัวร้องลั่นให้เพื่อนไปตามย่ามาพาส่งร.พ. แพทย์รีบนำเข้าห้องผ่าตัดก่อนประชุมเครียด เพราะปลาหมอมีเงี่ยงแหลมอาจจะถึงขั้นผ่าตัดช่องท้อง แต่ทดลองวิธีฉีดยาชาเข้าที่ตัวปลาที่ยังมุดเข้าไปไม่ลึกนัก จนปลาหยุดดิ้นก่อนใช้คีม ค่อยๆ คีบออกมาได้สำเร็จ แพทย์เผยน่าจะเป็นครั้งแรกในโลกที่ปลาหลุดเข้าทวารหนัก เพราะเท่าที่ทราบเคยเจอแต่ปลิงเท่านั้น เตือนทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่เล่นน้ำให้สวมกางเกงในเพราะอาจจะมีตัวอะไรมุดเข้าทวาร หนักได้

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 มี.ค. นางประยูร เชื้อ ดี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 3 ต.ท่าเยี่ยม อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร นำด.ช.ศรอนันต์ โพธิ์ศรี อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร หลานชาย ส่งร.พ.พิจิตร โดยแจ้งกับแพทย์ว่ามีลูกปลาหมอหลุดเข้าไปในรูทวาร แพทย์รีบนำไปเอกซเรย์เพื่อหาตัวปลา พบว่าเป็นปลาหมอขนาดเล็กติดอยู่บริเวณลำไส้ใหญ่ใกล้กับรูทวาร จึงนำเข้าห้องผ่าตัดเพื่อเตรียมการไว้ล่วงหน้า

น.พ.สุชาติ เทพารักษ์ รองผู้อำนวยการโรงพยา บาลพิจิตร กล่าวว่า เบื้องต้นจากการนำตัวเด็กไปเอกซเรย์พบปลาหมอขนาดประมาณ 2-3 เซนติเมตร อยู่บริเวณทวารหนัก แต่มองเห็นได้ยากเพราะก้างปลาเล็กและปะปนกับอุจจาระ ซึ่งวิธีการรักษาเบื้องต้นจะซื้อปลาหมอมาเพื่อทดลองวางยาสลบโดยใช้แก๊ส หลัง จากนั้นก็จะดูว่าปลาจะสลบหรือไม่ หากสลบก็จะใช้เครื่องมือแพทย์คีบออกมา แต่ก็ต้องระมัดระวังเพราะเป็นการดึงย้อนศรเงี่ยงปลาหมอที่มีครีบแหลม คมและแข็งมาก อาจจะออกมาไม่ง่ายประกอบกับเด็กมีรูทวารที่เล็กด้วย

น. พ.สุชาติ กล่าวอีกว่า หากผลการทดสอบพบว่าปลาสลบจากแก๊สและไม่สามารถดึงออกทางทวารหนักได้ อาจจะใช้วิธีเจาะช่องท้องดึงออกมา แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องลงมือผ่าตัดเพราะเกรงว่าเงี่ยงปลาหมอจะตำลำไส้เป็นแผล ซึ่งจะยิ่งอันตราย

ด้านด.ช.ศรอนันต์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุไปฟังผลคะแนนสอบที่โรงเรียน ช่วงขากลับผ่านหนองน้ำที่แห้งเป็นโคลนและเห็นปลาหมอจำนวนมาก จึงชัก ชวนเพื่อนนักเรียนถอดเสื้อผ้าลงไปจับปลา ซึ่งทำกันเป็นประจำ ช่วงเกิดเหตุนั่งแช่โคลนอยู่ รู้สึกเหมือนมีอะไรมุดเข้าก้นและรู้สึกเจ็บ จึงใช้มือจับดูพบว่าเป็นปลาหมอและมันมุดเข้าไปในก้น จึงรีบบอกเพื่อนๆ ให้ไปบอกย่าที่บ้านให้มาช่วยพาส่งโรงพยาบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแพทย์นำเด็กเข้าห้องผ่าตัดราวๆ 2 ชั่วโมงเศษ นายแพทย์ธเนศ ดุสิตสุนทรกูล ศัลยแพทย์เจ้าของไข้ ออกมาแจ้งกับญาติว่าสามารถช่วยเหลือนำปลาหมอออกจากช่องทวารของเด็กอย่าง ปลอดภัยแล้ว แต่ให้นอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลอีกอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อดูว่าเกิดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ตรงจุดที่ปลาเข้าไปฝังตัวอยู่หรือไม่

นาย แพทย์ธเนศ กล่าวถึงการรักษาคนไข้รายนี้ ว่า ปรึกษากับแพทย์หญิงบุษกร วังพยนต์ วิสัญญี แพทย์ ที่สันนิษฐานว่า หากทำให้ปลาไม่เคลื่อนไหวจะ สามารถนำออกมาได้ แพทย์หญิงบุษกร จึงฉีดยาสลบเข้าไปที่ตัวปลาซึ่งติดอยู่ลำไส้ใหญ่ตอนปลายใกล้กับรูทวารเพื่อ ไม่ให้เคลื่อนไหว หลังจากนั้นใช้กล้องส่องเข้าไปตรวจสอบว่าปลาทะลุลำไส้ใหญ่หรือไม่ ก็พบว่าไม่ทะลุจึงใช้คีมขนาดเล็กสอดเข้าไปคีบปลาออกมา พบว่าเป็นลูกปลาหมอขนาดนิ้วโป้ง

"ความยากของการนำปลาออกอยู่ที่ปลา หมอเป็นปลาที่ทนมาก และมักจะมุดขึ้นไปเรื่อยๆ มีเกล็ดแข็ง ครีบแหลมคม ซึ่งจากการค้นคว้ายังไม่พบกรณีปลาหมอหลุดเข้าทางทวารหนักมาก่อนในโลก เพิ่งเกิดครั้ง นี้เป็นครั้งแรก โดยวิธีการคือการทำให้ปลาหยุดการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากเนื่องจากปลาอยู่ในร่างกาย เราจึงใช้ยาสลบฉีดใส่ตัวปลาก่อนเพื่อให้ปลาเกิดการชาและไม่เคลื่อนไหว จึงคีบออกมาได้" นายแพทย์ธเนศ กล่าวและว่า ฝากเตือนประชาชนว่าไม่ควรลงน้ำโดยไม่สวมกางเกงใน เพราะอาจจะมีสิ่งแปลก ปลอมหลุดเข้าไปในร่างกายทางทวารหนักได้ เช่นปลิง ที่มีเคยเกิดขึ้นในต่างประเทศ

ด้านนางประยูร ย่าของเด็ก กล่าวว่า ดีใจที่ปลาหมอหลุดออกมาได้ ต่อไปนี้คงต้องเตือนหลานชายห้ามลงจับปลาอีก หรือหากจะลงก็ต้องนุ่งกางเกงทุกครั้ง เพราะเด็กมักจะชอบแก้ผ้าลงน้ำเนื่องจากขี้เกียจซักผ้า เพราะเด็กๆ จะอยู่กันตามลำพังและต้องซักผ้าเอง เนื่องจากพ่อแม่ไปทำงานกรุงเทพฯ ทำให้ไม่อยากซักผ้าจึงถอดกางเกงเวลาลงเล่นน้ำหรือลุยโคลนหาปลา