ซาร่า ลั่นไม่รอ ไมค์ ตอนนี้มีคนคุยแล้ว ภาพท้องไม่เกี่ยวกับ "กอล์ฟ ขวัญ"
หลังเกิดกระเเสดราม่ากระหน่ำมากมายเรื่องของ กอล์ฟ พิชญะ กับ ขวัญ อุษามณี ทำให้ทางด้านสาว ซาร่า คาซิงกินี โดนถูกเชื่อมโยงว่าเกาะกระเเสดัง เหตุโพสต์ภาพตัวเองท้องตอน 4 เดือน โดย ซาร่า ได้ออกมาเปิดใจเรื่องทั้งหมดในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง one 31
ทำไมถึงโพสต์ภาพตอนท้อง 4 เดือน มีดราม่าอะไรไหม?
“ด้วยความที่ตอนไปญี่ปุ่นโทรศัพท์พังค่ะ และก็เลยได้พอกลับมาจากญี่ปุ่นเราไปเจอรูปเก่าๆ เราเห็นเราก็ อุ้ย ตอนท้อง ตอนที่เราท้องจริงๆ เราไม่มีโอกาสได้โพสต์เลย เราเห็นว่าน่ารักดีก็เลยลง เราโพสต์ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะมีข่าวคุณกอล์ฟกับคุณขวัญ ถ้าคนตามจริงๆ แฟนคลับก็จะรู้ค่ะ จะมีแฟนคลับมาแก้ให้ว่าคุณซาร่าโพสต์ก่อนที่จะมีข่าวมีดราม่ากันเกิดขึ้น”
มีคนโจมตีบ้างไหมจากการโพสต์รูป?
“มี หาว่าเราเกาะกระเเส ต้องการอะไร ก็มีเพื่อนๆ ส่งมาให้ดู เราก็ไม่ได้สนใจ ตอนที่เราโพสต์เราเห็นว่าโมเม้นท์ตอนท้องมันน่ารักดีอะไรอย่างนี้ค่ะ”
พอมีกระเเสตอบกลับมาไม่ดีออกมาลบภาพไหม?
“ไม่ค่ะ เรารู้ว่าความจริงมันคืออะไร เราลบไปมันเหมือนคนหนีปัญหามากกว่า เราแฮปปี้กับภาพเรา เห็นว่ามันน่ารักดีและซึ่งมันไม่เกี่ยวอะไรกับอีกฝั่งหนึ่งเลย”
ซาร่าเคยไปคุยกับครอบครัวไมค์บ้างไหม?
“จริงๆ ตอนซาร่าท้อง ซาร่าก็ไปคุยกับไมค์เเละที่บ้านไมค์ อาจจะลงดีเทลไม่ได้เป็นเรื่องของคนในครอบครัว ก็ไม่ได้เป็นลักษณะคือในเรื่องคุณขวัญกับซาร่า มันคนละเรื่องกันค่ะ ซาร่าขอไม่เอามารวมดีกว่า”
คนจะเห็นว่าโดนเหมือนกันไหมตอนคุยความรู้สึกต่างไหม?
“ต่างค่ะ เพราะว่ามันคนละเรื่องด้วย และไม่ได้ทะเลาะกันด้วย เหมือนเราคือผู้ใหญ่คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวว่า เอ้อ เราจะจัดการเรื่องนี้ยังไง ถามความรู้สึกเราว่าตอนนั้นเรารู้สึกยังไง อยากให้มันเป็นออกมาเเบบไหน คุณพ่อคุณเเม่ก็รับฟังกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราอะไรอย่างนี้ค่ะ”
คิดว่าคุณแม่ไมค์พูดจริงไหมเรื่องท้องก่อนแต่ง?
“หนูไม่รู้(หัวเราะ) เพราะว่าซาร่าไม่อยากออกความเห็นของเรื่องนี้ เพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับซาร่า บางทีเราพูดไปมันอาจจะกระทบ เพราะเราไม่ได้ไปนั่งคุยไปอยู่ในเหตุการณ์กับเขา เราไม่รู้ความจริงมันคืออะไร”
โพสต์ที่บอกว่าออกไปจากชีวิต...เเละลูก?
“ตอนนั้นเราไม่สบาย แล้วมีคนเเบบส่งข้อความมาหาเยอะ เป็นกลุ่มคนที่ไม่หวังดีกับเรา ซึ่งเป็นข้อความที่ค่อนข้างเรียกว่าเสียดสีเรากับลูกเรา เรื่องนี้เป็นระยะเวลามาตั้งเเต่เรามีข่าววันเเรกจนถึงปัจจุบัน เเละมันค่อนข้างเยอะค่ะ เรารู้สึกว่าปีเเรกเดือนแรกเรายังพอแบบเออเราต้องเจอแบบนี้แหละ"
"เเต่จะ 4 ปีเเล้ว เจออีกแล้ว เราเลยรู้สึกว่าเเบบตื่นเช้ามา ทำไมต้องเจออะไรพวกนี้ มันเป็นความรู้สึกที่เราป่วยด้วยอ่อนแอสภาพร่างกายจิตใจค่ะ มันเลยรู้ว่า เห้อ เมื่อไหร่จะออกไปจากชีวิตเรากับลูกสักทีอะไรอย่างนี้”
บางคนคิดว่ามีปัญหากับไมค์?
“ไม่ค่ะ เพราะว่ามีปัญหากับลูกเราจะคือการพิมพ์ผ่านโซเชียลมันไม่เกิดผลอะไรเเล้ว เราโทรหากันคุยเคลียร์เลย”
ข้อความที่ส่งมา มาเเบบไหนบ้าง?
“เป็นข้อความส่วนตัวบ้าง บางทีเเท็กมา บางทีภาพน่ารักเเละมาเม้นท์ต่อใต้ภาพเรา คือเรายังไงเราก็ต้องเห็น แต่บางทีอาจจะช่วงโมเม้นท์ที่เราเเบบดึกๆ ด้วยเเล้วแบบคิดอะไรมากๆ เราเห็นเเล้วก็เเบบเห้ออีกเเล้ว”
ข้อความที่เเรง เเละหนัก ที่สุดรู้สึกยังไง?
“บางทีที่เกี่ยวส่วนมากจะเป็นเรื่องลูกก็ว่าว่าเป็นลูกของคนอื่นทั้งๆ ที่ DNA มันก็ออกมาเเล้วนะ ก็เเบบไม่เข้าใจว่าทำไมต้องว่าแบบนี้ บางทีหาว่าเราขายลูกกิน บางทีคิดว่า เราเป็นเเม่เหมือนเลี้ยงลูกไม่ดี คือเหมือนเขาจะหาจุดต่างๆ ที่เกี่ยวกับลูก แล้วมาว่าเรา เเละพอเวลาอ่านเเล้วมันเศร้า อ่านเเล้วมันรู้สึกแบบ(ร้องไห้)"
"บางทีเรารู้สึกว่าเราพยายามมากกับการเลี้ยงแม็กซ์เวลล์วันนี้ค่ะ แต่บางทีคนกลุ่มหนึ่งเขาก็ยังมองเราไม่ดี เราก็รู้สึกแย่ เราไม่อยากให้เเม็กซ์เวลล์โตมาเจอหรืออ่านข้อความอะไรพวกนี้ ที่มีคนมานั่งว่าเเม่เค้า เรื่องที่บางทีมันไม่จริง หรือเขามโนกันขึ้นมามันค่อนข้างเเรง เราก็เลยกังวล คิดมากค่ะ ว่าถ้าวันหนึ่งเเม็กซ์เวลล์โตขึ้นมาเเละเห็นอะไรแบบนี้เขาจะรู้สึกยังไง”
เรื่องอะไรที่คน มโนไปเองไม่ใช่เรื่องจริง?
“เรื่องเหมือนขายลูกกินอะไรประมาณนี้ เราว่าคนเป็นเเม่ เราพยายามเต็มที่มากกับการที่จะเป็นเเม่ที่ดีให้กับลูก”
คิดว่าต้องแก้ยังไงกับบุคคลที่โจมตีเรา?
“คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถึงจุดหนึ่งพอเราเริ่มกลับมาเข้มแข็ง มีสติ เราคิดว่าคนไม่ชอบเรา หรือไม่แฮปปี้กับเรา ต่อให้เราดีเเค่ไหน ต่อให้เราทำหรือไม่ทำ เขาก็ยังคิดกับเราเเบบเดิม เหมือนเราก็พยายามทำใจ เเต่มันมีบางทีเเว้บนึง คนเรามนุษย์มันก็มีความรู้สึกแบบนั้น”
ยังรอคุณไมค์อยู่ไหม?
“ไม่รอ เพราะว่าเราเป็นคนตัดสินใจเลิก ซาร่าเป็นคนเลือกที่จะเลิกเอง เเละเดินออกมา ก่อนที่เราตัดสินใจเดินออกมา เราไตร่ตรองเเล้ว คิดเเล้วว่าเราจะก้าวไปข้างหน้า มันความรู้สึกที่มีให้กันฉันท์แฟนมันหายไป คือเรื่องราวมันจะ 4-5 ปี มันผ่านตรงนั้นมาเเล้ว เราผ่านอะไรมาได้ด้วยตัวเอง”
ตอนนี้มีคนเข้ามาจีบบ้างไหม?
“มีมาเรื่อยๆ ค่ะ เข้ามาเเละก็ไป”
คนที่มาจีบเป็นคนนอกวงการหรือในวงการ
“ทั้งสองคะ”
คนในวงการเป็นใครขอตัวอัษรย่อ?
“ไม่เอา(หัวเราะ) อายุประมาณ 30-40 เป็นคนชอบเป็นคนมีอายุเเล้ว เคยมีข่าวกันนิดนึงไม่บอกเดี่ยวรู้(ยิ้ม)”
ช่องไหน?
“ไม่เอา(หัวเราะ) นักร้องก็ร้อง นักแสดงก็แสดงด้วย”
คนที่คุยโสดหรือเคยแต่งงานไหม?
“ไม่เคยเเต่งงาน ตอนนี้โสด”
มีการจีบเราประมาณไหน?
“เขาจีบเราและก็โทรหา เฟสไทม์ ไลน์”
ไปเจอได้ยังไง เจอกันที่ไหน?
“บังเอิญเจอกันในห้องน้ำ เราเข้าห้องน้ำร้านอาหาร เราเข้าห้องน้ำผิดเขาก็ทักทายเรา เขาทักเราเป็นภาษาอังกฤษ เราก็บอกคนไทยค่ะ เขาบอกเราอ้าวทำไมคุณเข้าห้องน้ำผิดนี่เป็นห้องน้ำผู้ชาย เราก็เอ้าห้องน้ำผู้ชาย เราก็เลยเดินออกมา เเละเขาก็เลยเดินตามมาคุยขอเบอร์ตั้งเเต่ตอนนั้น นั่งคุยกันนานมาก"
"เขาก็เลยบอกว่าพี่ขอเบอร์ได้ไหม เราก็โอเคได้ คือเหมือนเราก็อาจจะมีโอเคคุยเล่นๆ เราก็ดูไปถ้าใช้เวลาในการคุย 2 ปี 5 ปี มันยังอยู่ขนาดนั้นมันก็อาจจะเป็นไปได้”
เขารู้ไหมว่าเราเป็นใคร รู้ว่าเรามีลูกไหม?
“รู้ค่ะ รู้”
คุยมานานหรือยัง?
“เป็นปีเเล้วนะ คือเหมือนคุยกันเเบบ ออนบ้างออฟบ้าง เหมือนมีช่วงเหนื่อยจีบเรา เขาก็หายไปจีบคนอื่น เเต่ว่าตอนเขาไปมีคนอื่น เราก็ไม่คุยกันนะคะ พอเขาเลิกเขาก็มาคุยกับเราอะไรอย่างนี้ เเต่เขามีประโยคพูดแบบว่า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องวนอยู่ในชีวิตซาร่าเรื่อยๆ คุณเล่นของป่ะเนี่ย เราบ้าไม่ได้เล่น”
รู้สึกประทับใจอะไรในตัวเขา ปีหนึ่งพอเขากลับมาก็ยังต้อนรับเขาอยู่?
“เคยนั่งคุยกันแบบจริงจังล่ะ เราถามเขาว่าทำไมมาจีบผู้หญิงมีลูก ยู ไปจีบผู้หญิงที่ไม่มีลูกก็ได้ สาวๆ สวยๆ กว่านี้ก็ได้ เขาบอกว่าเขาไม่เคยคิดว่า ผู้หญิงเคยเเต่งงานมีลูกไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้หญิงไม่ดีอะไรอย่างนี้ เขาบอกคนเราอยู่ที่การวางตัว การพูดคุย อดีตคืออดีต เราก็เลยคิดว่าประโยคนี่แหละที่ยังกินใจเรามาจนปัจจุบัน”
ถ้าเขาดูตอนนี้อยากจะบอกอะไรไหม?
“ไม่เอาเขิน(หัวเราะ)”
ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ